A5 ดันรายได้รวม 9 เดือนแรกปีนี้กว่า 660 ล้านบาท

A5” ดันรายได้รวม 9 เดือนแรกปีนี้กว่า 660 ล้านบาท เติบโต 10%

ชูโมเดลพัฒนาโครงการอสังหาฯ เจาะตลาดนิชมาร์เก็ต สร้างความต่างจากคู่แข่ง

 

A5 ชูผลประกอบการ 9 เดือนแรกของปีนี้ ทำรายได้รวม 662.2 ล้านบาท เติบโต 10% และกำไรสุทธิ 105.6 ล้านบาท เติบโตกว่าเท่าตัว จากการรับรู้รายได้จากโครงการวนา เรสซิเดนซ์ พระราม 9 – ศรีนครินทร์ บ้านเดี่ยวระดับลักซ์ชัวรี่ และมีกำไรพิเศษจากการขายที่ดิน คาดรายได้รวมปีนี้ไม่ต่ำกว่า 800 ล้านบาท ชูโมเดลพัฒนาโครงการมุ่งเจาะตลาดนิชมาร์เก็ตภายใต้แนวคิด Urbanized Living สร้างความแตกต่างจากผู้ประกอบการรายอื่น

นายศุภโชค ปัญจทรัพย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอสเซท ไฟว์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ A5 ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำภายใต้แนวคิด Urbanized Living เปิดเผยว่า แม้ภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยในปีนี้อยู่ในช่วงชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 อย่างไรก็ตามผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในงวด 9 เดือนแรกของปีนี้ยังอยู่ในระดับที่น่าพอใจ โดยมีรายได้รวม 662.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 109.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 103.5% เมื่อเทียบกับช่วงกันของปีก่อน  

               ทั้งนี้ รายได้รวมในงวด 9 เดือนแรกของปีนี้ที่เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน มาจากการรับรู้รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์ในโครงการอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทฯ ได้แก่ 1.โครงการ วนา เรสซิเดนซ์ พระราม 9 - ศรีนครินทร์ รับรู้รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์บ้านเดี่ยวในโครงการรวมมูลค่า 420.56 ล้านบาท โครงการรชยา วงแหวน-นาดี รับรู้รายได้รวม 105.6 ล้านบาท และโครงการคอนโดมิเนียมไวโอ แคราย จำนวน 2 โครงการ รับรู้รายได้รวม 19 ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทฯ มีกำไรพิเศษจากการขายที่ดิน 105.2 ล้านบาท ช่วยสนับสนุนกำไรเติบโตได้ดี

               ขณะที่แนวโน้มผลการดำเนินงานทั้งปี 2564 คาดว่าบริษัทฯ จะทำรายได้รวมไม่ต่ำกว่า 800 ล้านบาท อยู่ในระดับเดียวกับปีที่ผ่านมา โดยรายได้หลักจะมาจากการโอนกรรมสิทธิ์บ้านเดี่ยวในโครงการ วนา เรสซิเดนซ์ พระราม 9 – ศรีนครินทร์ ซึ่งเป็นโครงการบ้านเดี่ยว 3 ชั้นระดับลักซ์ชัวรี่ ภายใต้แนวคิด A New Definition of Luxury Urban Home บนทำเลศักยภาพของกรุงเทพฯ ติดถนนสายหลัก (กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่) ที่ปัจจุบันอยู่ระหว่างเปิดขายและจัดทำแคมเปญบ้านเฟสสุดท้าย (Private Zone) ที่เป็นแบบบ้านหลังใหญ่สุดของโครงการ ขนาดพื้นที่ใช้สอย 492 ตร.ม. ในราคาเริ่มต้นยูนิตละ 35 – 50 ล้านบาท

               กรรมการผู้จัดการ A5 กล่าวต่อว่า บริษัทฯ วางโมเดลการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์เจาะตลาดนิชมาร์เก็ต จึงไม่ได้รับผลกระทบจากภาพรวมเศรษฐกิจที่อยู่ในช่วงชะลอตัวมากนัก เช่น การพัฒนาโครงการ วนา เรสซิเดนซ์ ที่จับกลุ่มลูกค้าระดับลักซ์ชัวรี่ เป็นต้น ซึ่งเกิดจากการศึกษาและวิเคราะห์ความต้องการที่อยู่อาศัยของกลุ่มเป้าหมายในทำเลนั้นๆ เพื่อนำมาพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในรูปแบบบ้านเดี่ยว 3 ชั้นระดับลักซ์ชัวรี่ เป็นรายแรกในทำเลดังกล่าว สามารถรองรับผู้อยู่อาศัยได้ทั้ง 3 เจเนอเรชั่น และได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าที่เป็นกลุ่มผู้บริหารและเจ้าของกิจการซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วและมีไลฟ์สไตล์เฉพาะตัวที่แตกต่างและมีเอกลักษณ์ของตนเอง

               “เราต้องการให้ A5 เป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่แตกต่างจากผู้ประกอบการรายอื่น ไม่ได้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยจับตลาดแมส แต่เน้นกลุ่มลูกค้าที่เป็นนิชมาร์เก็ต โดยเฉพาะการพัฒนาโครงการระดับลักซ์ชัวรี่ที่มุ่งตอบสนองความต้องการอยู่อาศัยภายใต้แนวคิด Urbanized Living หรือการใช้ชีวิตของคนเมือง และมีแผนพัฒนาโครงการใหม่อย่างต่อเนื่องในอนาคต” นายศุภโชค กล่าว