IMH สร้าง All Time High โชว์กำไร Q3/64 ทะยาน17,567.94 %
ส่งซิกปี 65 จ่อซุ่มปิดดีลขยายรพ.เพิ่ม - ดันรพ.ประชาพัฒน์ เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ
กรุงเทพฯ - บมจ. โรงพยาบาลอินเตอร์เมดิคัล แคร์ แอนด์ แล็บ หรือ IMH มาเหนือเมฆ โชว์งบผลการดำเนินงานไตรมาส 3/64 กำไรสุทธิ 206.38 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17,567.94% (YoY) ทำระดับนิวไฮสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ส่งซิกเร่งเจรจาขยายกิจการโรงพยาบาล เล็งต่อยอดรายได้เพิ่ม จ่อปิดดีล Q1/65 พร้อมเดินหน้าดัน รพ.ประชาพัฒน์ เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯมั่นใจ ปั้นรายได้ปี65 แตะระดับ 1,000 ล้านบาท
บริษัท โรงพยาบาลอินเตอร์เมดิคัล แคร์ แอนด์ แล็บ จำกัด (มหาชน) หรือ IMH แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยถึงผลการดำเนินงานของบริษัทฯ งวดไตรมาส 3/2564 มีรายได้รวม 383.46 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 311.85 ล้านบาท หรือ 435.44 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ขณะที่กำไรสุทธิ 206.38 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17,567.94 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ซึ่งถือว่าเป็นการทำนิวไฮที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทฯ มา ขณะที่ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกของปี 2564 โดยบริษัทฯ มีรายได้รวม 640.46 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 484.41 ล้านบาท หรือ 310.43 %เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) และมีกำไรสุทธิ 283.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 307.10 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY)
สำหรับสาเหตุที่ภาพรวมธุรกิจปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากการเข้าซื้อธุรกิจ โรงพยาบาลประชาพัฒน์ ในช่วงต้นปี 2564 ที่ผ่านมา ส่งผลให้ IMH สามารถขยายขอบเขตงานในกลุ่มธุรกิจการให้บริการรักษาพยาบาลเพิ่มเติมจากเดิมที่เน้นให้บริการตรวจสุขภาพไปสู่การบริหารโรงพยาบาลทั่วไป และจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้มีผู้เข้ารับบริการตรวจเชื้อโควิด และมีผู้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลประชาพัฒน์เป็นจำนวนมาก รวมถึงการให้บริการฉีดวัคซีนซิโนฟาร์มให้กับกลุ่มหน่วยงานและองค์กรขนาดใหญ่ และ ประชาชนทั่วไป
ดร.สิทธิวัตน์ กำกัดวงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. โรงพยาบาลอินเตอร์เมดิคัล แคร์ แอนด์ แล็บ (IMH) เปิดเผยถึงความคืบหน้าของแผนธุรกิจว่า ทาง IMH ยังคงเดินหน้ากลยุทธ์ในการสร้างรายได้จากการให้บริการด้านโควิดอย่างต่อเนื่อง ทั้งการรับฉีดวัคซีนป้องกันโควิดทุกประเภท ให้มากกว่า 1,000,000 โดส ควบคู่กับการเตรียมเปิดศูนย์การแพทย์เฉพาะทางรักษาโรคผู้ป่วยหลังโควิด (Post-Covid) เช่น โรคปอดติดเชื้อ, โรคทางเดินหายใจ เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อดึงกลุ่มผู้ป่วยจากภาวะหลังป่วยโควิดเข้ารักษา ในโรงพยาบาลต่อเนื่อง
ส่วนภาพรวมในปี 2565 ทาง IMH มีแผนขยายกิจการโรงพยาบาลเพิ่มเติม ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา เบื้องต้นคาดว่าภายในไตรมาส1/2565 จะสามารถสรุปดีลดังกล่าวได้ ซึ่งหากดีลดังกล่าวแล้วเสร็จจะส่งผลให้ IMH มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นในอนาคตอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้มีแผนในการจะดันโรงพยาบาลประชาพัฒน์ ให้ขยายฐานคนไข้สิทธิ์บัตรทอง, สิทธิ์ประกันสังคม และคนไข้ภายใต้การดูแลเพิ่มขึ้น จากประมาณ 100,000 คน เป็น 200,000 คน
พร้อมมีแผนในการนำโรงพยาบาลประชาพัฒน์ เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งความคืบหน้าในปัจจุบันได้แต่งตั้งที่ปรึกษาทางการเงินเรียบร้อยแล้ว และคาดว่าจะสามารถเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) และเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ในช่วงปลายปี 2565 อย่างไรก็ตามจากแผนการต่อยอดธุรกิจในข้างต้น ส่งผลให้บริษัทฯตั้งเป้าอัตราการเติบโตรายได้รวมในปี 2565 มีโอกาสแตะระดับ 1,000 ล้านบาท
ดร.สิทธิวัตน์ กล่าวทิ้งท้ายว่า จากทิศทางการเติบโตของ IMH สอดรับการประมาณการของบทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด ที่ระบุว่า IHM มีจุดเด่นเป็น รพ. โควิดแบบครบวงจร พร้อมรับมือเสี่ยงระบาดรอบใหม่ มีแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งฝ่ายวิจัย ประเมินทิศทางผลการดำเนินงาน โดยคาดว่า Q4/64 จะมีโอกาสโตต่อเนื่อง เคสผู้ป่วยติดเชื้อสะสมเคส สีเหลือง-แดง ยังคงจำเป็นต้องรักษาในโรงพยาบาล เนื่องจากส่วนใหญ่พบอาการติดเชื้อที่ปอด และจำเป็นต้องมีการ x-ray เพื่อตรวจรักษาตามอาการโดยแพทย์ ส่งผลให้กำไรทั้งปี 2564 มีโอกาสแตะระดับ 386 ล้านบาท พร้อมทั้งยังได้ประเมินอัตราการเติบโตในปี 2565 ว่า IMH ยังมีการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง จากการรักษาผู้ป่วยสะสมเคสเหลือง-แดง และ การเร่งขยายฐานคนไข้ คนไข้สิทธิ์บัตรทอง, สิทธิ์ประกันสังคม และคนไข้ภายใต้การดูแล เพิ่มขึ้น จึงแนะนำซื้อ โดยให้ราคาเป้าหมายที่เหมาะสมที่ราคา 24 บาท