SWC เปิดผลงานงวด 9 เดือนปี 2564 รายได้แตะ 1,254.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43.46% กวาดกำไรสุทธิ 93.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 90.53% จากงวดเดียวกันปีก่อน ผลจากการรับรู้ยอดขายทั้งในประเทศและต่างประเทศคึกคัก สะท้อนความสำเร็จของกลยุทธ์การปรับระบบการกระจายสินค้า ขยายช่องทางจำหน่ายบนแพลตฟอร์มออนไลน์ พร้อมออกผลิตภัณฑ์ใหม่เพิ่ม ฟากผู้บริหาร “เถกิงพล เหล่าพิสุทธิ์” แย้มแนวโน้มครึ่งปีหลังโตแกร่ง เนื่องจากเป็นช่วง High season ของธุรกิจกลุ่มเคมีเคหะภัณฑ์ และรับผลดีจากมาตรการคลายล็อกดาวน์ สนับสนุนกำลังซื้อเพิ่ม โดยเฉพาะธุรกิจกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม ดันผลงานปีนี้สดใส

นายเถกิงพล เหล่าพิสุทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บริษัท เชอร์วู้ด คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SWC ซึ่งดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายเคมีเคหะภัณฑ์ที่ใช้ในบ้านเรือน อุตสาหกรรม สาธารณสุขชุมชน เคมีภัณฑ์เพื่อการเกษตร รวมถึงธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือน บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย 1,254.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 380.02 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 43.46% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้ 874.45 ล้านบาท ขณะที่มีกำไรสุทธิ 93.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44.53 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 90.53% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไร 49.19 ล้านบาท

“ผลการดำเนินในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา ปรับตัวเพิ่มขึ้นเนื่องจากยอดขายกลุ่มเคมีเคหะภัณฑ์มีอัตราการเติบโตทั้งในประเทศและต่างประเทศ หลังจากบริษัทฯมีการปรับระบบการกระจายสินค้า โดยได้เพิ่มตัวแทนจำหน่ายสินค้ามากขึ้น พร้อมทั้งขยายช่องทางจำหน่ายสินค้าแพลตฟอร์มออนไลน์ผ่านทางโซเชียลมีเดีย รวมทั้งจำหน่ายผ่านมาร์เก็ตเพลส อาทิ Shopee , Lazada , JD Central เพื่อให้สอดรับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆออกมาเพิ่มขึ้นด้วย”

ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน กล่าวอีกว่ารายได้จากการขายในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มมีอัตราการเติบโตเช่นเดียวกัน โดยธุรกิจถั่ว ภายใต้ตราสินค้า ‘มารูโจ้’ มีรายได้จากการขายเพิ่มขึ้น 14.02% ธุรกิจนมภายใต้ตราสินค้า ‘ฮอกไกโด’ มีรายได้จากการขายเพิ่มขึ้น 6.20% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ธุรกิจเครื่องดื่มมีรายได้จากการขายเพิ่มขึ้น หลังจากที่บริษัทฯได้มีการผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มสมุนไพรภายใต้ตราสินค้า “ซุปเปอร์ไฟต์” และเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายกระจายไปทั่วประเทศ

นอกจากนี้ ในส่วนของรายได้จากการขายในประเทศเติบโตจากช่องทางจำหน่ายร้านค้าปลีกดั้งเดิมซึ่งเติบโตขึ้นกว่า 77.97% ช่องทางออนไลน์เพิ่มขึ้น 487.99% ช่องทางขายเคมีเกษตรเพิ่มขึ้น 28.22% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่รายได้จากการขายในต่างประเทศเติบโตจากตลาดส่งออกไปประเทศออสเตรเลียที่มีรายได้จากการขายเพิ่มขึ้น 145.13% และตลาดส่งออกสินค้ากลุ่ม Consumer มีรายได้จากการขายเพิ่มขึ้น 82.56% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน

             "แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงที่เหลือของปี บริษัทฯ คาดว่าน่าจะเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากช่วงครึ่งปีหลังเป็นช่วง High season ของธุรกิจเคมีเคหะภัณฑ์ เพราะเป็นช่วงเดือนที่มีฝนตกชุก จึงทำให้มีแมลงที่ต้องกำจัดเป็นจำนวนมากขึ้น ประกอบกับหลังจากรัฐบาลประกาศเปิดประเทศ พร้อมกับมาตราคลายล็อกดาวน์ จึงเป็นแรงกระตุ้นบรรยากาศการการจับจ่ายให้กลับมาคึกคัก กำลังซื้อฟื้นตัว สอดรับกับธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มที่บริษัทฯมีการกระจายสินค้าทั่วถึงทั้งช่องทางร้านค้าปลีกดั้งเดิมทั่วประเทศ และห้างโมเดิร์นเทรดต่างๆ โดยเฉพาะนม ‘ฮอกไกโด’ ที่มีสินค้าวางจำหน่ายในห้าง Villa Market ,Foodland ,Gourmet Market ซึ่งมั่นใจว่าสินค้าในทุกกลุ่มจะได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง ช่วยผลักดันให้ผลงานในปีนี้เติบโตจากปีก่อน" นายเถกิงพล กล่าวในที่สุด