SFLEX โชว์ผลงาน Q3/64 All Time High ทุกมิติ

รายได้ทะลัก 460.9 ลบ. – กำไรทะลุ 43 ลบ.

ผลสำเร็จขยายฐานลูกค้า-ดันออเดอร์ทะลัก

มั่นใจปีนี้ผลงานทะลุเป้า 1,560 ล้านบาท

SFLEX เปิดงบไตรมาส 3/64 ทำออลไทม์ไฮต่อเนื่อง โชว์รายได้รวมทะยานแตะ 460.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.2% กำไรสุทธิแตะ 43.4ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.7% ขณะที่งวด 9 เดือน รายได้รวม 1,318.4ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.4% กำไรสุทธิ 120.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.8%เป็นผลจากขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นทั้งส่วนที่เป็น Food และ Non-food สนับสนุนออเดอร์บรรจุภัณฑ์เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ฟากผู้บริหาร “สมชาย วงศ์รัศมี” ระบุตุนคำสั่งซื้อล่วงหน้าไว้เพียบ พร้อมลุยบุกขยายตลาดบรรจุภัณฑ์ในกลุ่มอาหาร-เครื่องมือแพทย์ มั่นใจช่วยผลักดันรายได้ปีนี้โตทะลุเป้า 1,560 ล้านบาท

ดร.สมชาย วงศ์รัศมี ประธานเจ้าหน้าที่สายบัญชีและการเงิน บริษัท สตาร์เฟล็กซ์ จำกัด(มหาชน) หรือ SFLEX ผู้ผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อนชั้นนำในประเทศ เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2564(สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2564) มีรายได้รวมอยู่ที่ 460.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 83.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.2% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 377.1 ล้านบาท ขณะที่มีกำไรสุทธิ 43.4ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.9 ล้านบาท หรือ 15.7% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 37.5 ล้านบาท 

สำหรับผลการดำเนินงานงวด 9 เดือน บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,318.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 275.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.4% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 1,043.3 ล้านบาท ขณะที่มีกำไรสุทธิ 120.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.2 ล้านบาท หรือ 17.8% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 102.4 ล้านบาท

“ภาพรวมผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 3/2564 บริษัทฯ สามารถสร้างรายได้และกำไรเติบโตสูงสุดต่อเนื่อง เนื่องจากบริษัทฯ มีรายได้จากการขายบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อน (Flexible Packaging) เพิ่มขึ้นจากคำสั่งซื้อที่ต่อเนื่องจากแผนการขยายฐานลูกค้าและขยายฐานรายได้ ส่วนราคาวัตถุดิบที่มีความผันและแนวโน้มราคาเพิ่มขึ้นอย่างมากตั้งแต่ต้นปี ทำให้มีความยากลำบากในการคงอัตรากำไรเป็นอย่างมาก บริษัทมีนโยบายที่จะจัดหาวัตถุดิบในระยะยาว ที่ราคาคงที่ และลดต้นทุนในส่วนอื่นเข้ามาชดเชย เพื่อให้กระทบกับลูกค้าให้น้อยที่สุด”

ประธานเจ้าหน้าที่สายบัญชีและการเงิน กล่าวอีกว่า มั่นใจว่าแนวโน้มรายได้ในปีนี้จะสามารถเติบโตได้ไม่น้อยกว่า 1,560 ล้านบาท ซึ่งเป็นการสร้างสถิติสูงสุดใหม่จากปีก่อน และเป็นไปตามเป้าหมายอย่างแน่นอน เนื่องจากกลยุทธ์การขยายฐานลูกค้าทั้งกลุ่ม Food เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อขนาดใหญ่ และมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องสม่ำเสมอ ขณะเดียวกันกลุ่มที่เป็น Non-food  ก็มีการขยายตัวที่ดีต่อเนื่องเช่นกัน ทำให้มีคำสั่งซื้อและจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้นด้วย

ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทฯ อยู่ระหว่างก่อสร้างโรงงานใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและขยายกำลังการผลิต โดยมีกำหนดการแล้วเสร็จภายในไตรมาส 2 ปี 2565 ซึ่งจะทำให้บริษัทมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 265 ล้านเมตรต่อปี  และหลังจากเดินกำลังผลิตเต็มที่จะส่งผลให้เกิดการประหยัดต่อขนาด และทำให้บริษัทฯ สามารถควบคุมต้นทุนได้อย่างดีอีกด้วย

อนึ่ง ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2564อนุมัติแจกวอร์แรนต์ฟรี เพื่อเป็นการตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นเดิม 2 ชุด ในอัตราส่วน 10:1 และ 8:1ตามลำดับ กำหนดขึ้นเครื่องหมาย XW วันที่ 10พ.ย. ที่ผ่านมา โดยกำหนดอัตราการใช้สิทธิแปลงวอร์แรนต์เป็นหุ้นสามัญสัดส่วน 1:1 ในราคาหุ้นละ 4.50 บาท มีอายุ 18 เดือนและสัดส่วน 1:1 ในราคาหุ้นละ 10 บาท มีอายุ 4 ปี ตามลำดับโดยนับจากวันที่ออกและเสนอขาย เพื่อเสริมความยืดหยุ่นทางการเงินในการดำเนินโครงการและรองรับแผนขยายการธุรกิจในอนาคต