บ้านปูจัดตั้งคณะกรรมการ ESG ยกระดับกระบวนการพัฒนาความยั่งยืน
ตอกย้ำจุดยืน “Smarter Energy for Sustainability”
บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ผู้นำธุรกิจด้านพลังงานที่หลากหลายในระดับนานาชาติ จัดตั้งคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการ (Environmental, Social and Governance: ESG) อย่างเป็นทางการ ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการสร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืน ควบคู่ไปกับการสร้างคุณค่าและความไว้วางใจให้กับผู้มีส่วนได้เสียและสังคมอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนตอบสนองความต้องการด้านพลังงานแห่งอนาคตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเข้าถึงได้ และมีความชาญฉลาดด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล สอดรับกับเทรนด์ 3Ds ของโลก(Decarbonization Decentralization และDigitalization) ด้วยจุดยืนที่จะส่งมอบ “Smarter Energy for Sustainability: อนาคตพลังงานเพื่อความยั่งยืน” ให้แก่ผู้มีส่วนได้เสีย พร้อมตั้งเป้าหมายทางธุรกิจให้สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) ของสหประชาชาติ7 ข้อ โดยมุ่งให้ความสำคัญในประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะเรื่องพลังงานและก๊าซเรือนกระจก ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับการดำเนินธุรกิจรวมถึงประเด็นด้านการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจ และการให้ความร่วมมือเพื่อพิชิตเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน
คณะกรรมการสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการ (ESG) มีหน้าที่ในการสนับสนุนคณะกรรมการบริษัทในการกำกับดูแลเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับ ESG เช่น อาชีวอนามัยและความปลอดภัย ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สิทธิมนุษยชน ชุมชน ความรับผิดชอบต่อสังคม ฯลฯ โดยคณะกรรมการ ESG จะคอยให้คำแนะนำในด้านกลยุทธ์ที่เกี่ยวข้อง,พิจารณานโยบาย เป้าหมาย การดำเนินงานและผลลัพธ์, ตรวจสอบและติดตามการบริหารความเสี่ยงด้าน ESG และการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย, ตลอดจนดูแลเรื่องการเปิดเผยข้อมูล ESG ที่สำคัญออกสู่สาธารณะ รวมทั้งปฏิบัติหน้าอื่นๆ ร่วมกับคณะผู้บริหารบริษัทฯ เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนการดำเนินงานด้าน ESGให้เป็นไปตามเป้าหมายอย่างมีประสิทธิผลสูงสุด
นายพิริยะ เข็มพล ประธานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการ บริษัทบ้านปู จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “การดำเนินงานด้าน ESG เป็นสิ่งที่บ้านปูได้มีความตระหนักรู้และหยั่งรากลึกในองค์กรมายาวนาน และได้ดำเนินกิจการด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมตามหลักความยั่งยืนมาโดยตลอด การจัดตั้งคณะกรรมการ ESG สะท้อนให้เห็นถึงการให้ความสำคัญในการส่งเสริมให้เกิดการกำกับดูแล เพื่อช่วยให้ภารกิจสู่การบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนมีความชัดเจนและเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น โดยในปัจจุบันประเทศต่างๆ เริ่มมีแนวนโยบายใหม่ๆ ด้าน ESG มากขึ้น และยังมีประเด็นที่หลากหลาย เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก (Climate Change) ความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cybersecurity) การตอบสนองต่อภัยพิบัติ และการพัฒนาพนักงาน ดังนั้น คณะกรรมการ ESG จะเป็นตัวแทนของบอร์ดบ้านปู
ที่ทำหน้าที่เสมือนเป็นเรดาร์จับทิศทาง และร่วมมือกับฝ่ายบริหารในการขับเคลื่อนองค์กรไปในทิศทาง
ที่เหมาะสม โดยคณะกรรมการ ESG จะเป็นกรรมการอิสระที่มีความรู้ความสามารถในหลายด้าน จึงสามารถนำเสนอข้อคิดเห็นและมุมมองที่มีความเป็นกลางและเป็นประโยชน์แก่ผู้บริหารส่งผลให้เกิดการทำงานแบบส่งเสริมซึ่งกันและกัน สร้างสมดุลระหว่างผลประกอบการที่ดีและความรับผิดชอบต่อเป้าหมาย ESG อย่างเหมาะสม เพื่อประโยชน์สูงสุดของบริษัทฯ และผู้ถือหุ้นตลอดจนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วนทั้งในระยะสั้นและระยะยาว”
ในช่วงเปลี่ยนผ่านทางธุรกิจของบ้านปูในฐานะผู้นำด้านพลังงานที่หลากหลายในระดับนานาชาติ (International Versatile Energy Provider) บริษัทฯ ให้ความสำคัญด้าน ESG ควบคู่ไปด้วยอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนมีการเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับความท้าทายและการเปลี่ยนแปลงของโลกแห่งอนาคต โดยได้วางกรอบการดำเนินงานและมุ่งให้ความสำคัญในประเด็นที่สอดคล้องกับทิศทาง ESG และการประเมินความเสี่ยงระยะสั้นและระยะยาวของโลก โดยในด้านสิ่งแวดล้อม (E) บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับประเด็นการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การจัดการพลังงานและน้ำ และการจัดการมลพิษทางอากาศ ในด้านสังคม (S) มุ่งเน้นเรื่องการจัดการและพัฒนาศักยภาพของพนักงาน การจัดการด้านความปลอดภัยและ
อาชีวอนามัย การทำงานชุมชนสัมพันธ์ และการพัฒนาชุมชน และด้านการกำกับดูแลกิจการ(G) มุ่งเน้นประเด็นการกำกับดูแลกิจการอย่างยั่งยืน การดูแลจริยธรรมทางธุรกิจ การจัดการคู่ค้าและผู้รับเหมา
การบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ และการจัดการความเป็นส่วนตัวของข้อมูลและความปลอดภัยทาง
ไซเบอร์ (Data Privacy & Cybersecurity) โดยมีตัวอย่างการดำเนินงานอย่างเป็นรูปธรรมดังนี้
จากการดำเนินธุรกิจตามหลัก ESG ของบ้านปูอย่างต่อเนื่อง ทำให้บ้านปูได้รับการยอมรับให้เป็นหนึ่งในผู้นำด้านความยั่งยืนจากองค์กรชั้นนำทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติ อาทิการรักษาสถานะสมาชิกกลุ่มดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability Indices: DJSI) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 การรักษาตำแหน่ง“Gold Class” ในกลุ่มอุตสาหกรรม Coal & Consumable Fuels จากการประกาศผลรางวัลSAM Sustainability Award 2021 รวมถึงได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในระดับ A (ตามเกณฑ์วัดAAA ถึง CCC) ในการประเมินความยั่งยืน ESG Ratings โดย MSCI ในปี 2562 และล่าสุดได้รับการคัดเลือกให้เป็นหนึ่งใน 100 บริษัทในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets) ที่มีความโดดเด่นด้าน ESG ในภาคอุตสาหกรรมเหมืองแร่และโลหะ จากการจัดอันดับโดย VigeoEiris (V.E), Moody’s ESG Solutions