ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ร่วมกับ ตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้น จัดสัมมนา “2021China-Thailand Electric Vehicle Cooperation Seminar” ในรูปแบบ virtual conference แก่ผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนบุคคลในจีนถึง 340 ราย ในวันที่ 26 ตุลาคม นี้ โดยเชิญผู้บริหารจากองค์กรรัฐ ตลาดทุน และบริษัทจดทะเบียนของไทยร่วมนำเสนอศักยภาพโครงสร้างพื้นฐานประเทศและธุรกิจ ในการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้า (Electronic Vehicle: EV) เพื่อลดการใช้พลังงานและดูแลสิ่งแวดล้อมสนับสนุนนวัตกรรมและอุตสาหกรรมใหม่ และเพิ่มโอกาสการลงทุนของทั้งสองประเทศ ซึ่งเป็นประเด็นในความสนใจของผู้ลงทุนสถาบันจีน
นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ร่วมกับ ตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้น จัดสัมมนา “2021 China-Thailand Electric Vehicle Cooperation Seminar” ขึ้นในรูปแบบ virtual conference ในวันที่ 26 ตุลาคม 2564 โดยให้ข้อมูลศักยภาพอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าElectronic Vehicle: EV ซึ่งไทยมีศักยภาพที่จะเป็นฐานผลิตที่สำคัญ มีการวางโครงสร้างพื้นฐานรองรับ อีกทั้งบริษัทจดทะเบียนไทยหลายบริษัทมีการขยายธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ EV อาทิ การผลิตรถยนต์และจักรยานยนต์ไฟฟ้า การผลิตพาหนะไฟฟ้าสำหรับการขนส่งสาธารณะ โรงงานผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และสถานีชาร์จ โดยพบว่าล่าสุดมีบริษัทจดทะเบียนที่ทำธุรกิจเกี่ยวข้องกับ EV กว่า 25 บริษัท ทั้งนี้ ทั้งไทยและจีนมีนโยบายในการส่งเสริมการเติบโตของ EV อย่างจริงจัง ซึ่งเป็นทิศทางเดียวกับที่ทั่วโลกขับเคลื่อนเพื่อลดการใช้พลังงานถ่านหินและรักษาสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับนโยบายภาครัฐที่วางเป้าหมายให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วนที่สำคัญของโลก และมีเป้าหมายให้เกิดการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ZEV (Zero Emission Vehicle) ในประเทศ 100% ภายในปี พ.ศ. 2578 และสอดคล้องกับแผนงานของตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ส่งเสริมให้บริษัทจดทะเบียนนำหลักการ ESG มาบูรณาการในกระบวนการดำเนินงาน เพื่อสร้างการเติบโตอย่างสมดุลทั้งธุรกิจและสังคม (Balanced Growth)
“งาน 2021 China-Thailand Electric Vehicle Cooperation Seminar ได้เชิญ นางลัษมณ อรรถาพิช รองเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก และนายภาสกร ลินมณีโชติ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย ร่วมให้มุมมองในหัวข้อ “EV Business Outlook in China and Thailand” ถึงการผลักดันและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า การนำนวัตกรรมใหม่มาสร้างประโยชน์ให้แก่ภาคธุรกิจและชุมชนอย่างยั่งยืน รวมถึงแนวโน้มการลงทุนในธุรกิจ EV ในประเทศไทยนอกจากนี้ ยังเชิญผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนที่มีการทำธุกิจที่เกี่ยวข้องกับ EV 3 บริษัท ได้แก่ บริษัท อาปิโก ไฮเทค จำกัด (มหาชน) บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ร่วมนำเสนอแผนและศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ EV รวมถึงนวัตกรรมด้านพลังงานของบริษัท เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้ลงทุนสถาบันทั้งในไทยและจีน และขยายโอกาสการลงทุนในอนาคต โดยผู้มีลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนบุคคลในจีนเข้าร่วมถึง 340 ราย
ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ และตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้นได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างกันตั้งแต่ปี 2562 เพื่อขยายโอกาสให้หลักทรัพย์ไทยและจีนเป็นที่รู้จักเพิ่มมากขึ้น พร้อมเปิดโอกาสการเชื่อมโยงทั้งสองตลาดเพื่อเพิ่มทางเลือกในการระดมทุน อาทิ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ข้ามตลาด และความร่วมมือด้านดัชนี เป็นต้น