ธนาคารออมสินสนับสนุนนโยบายรัฐบาลและกระทรวงการคลังร่วมขับเคลื่อนนโยบายประชารัฐสร้างไทยพื้นที่ภาคกลางจัดเสวนาใหญ่เพื่อระดมสมองภาคเอกชน-ภาคประชาชนร่วมพลิกฟื้นเศรษฐกิจไทยให้เศรษฐกิจฐานรากเป็นกลไกกระตุ้นเศรษฐกิจชาติออมสินนำยุทธศาสตร์3 สร้าง“สร้างความรู้/สร้างอาชีพ, สร้างตลาด/สร้างรายได้และสร้างโอกาสเข้าถึงแหล่งทุน” หนุนพัฒนาอาชีพและการเข้าถึงแหล่งทุนสร้างความเป็นอยู่ที่ดีนำหลุดพ้นความยากจนเตรียมต่อยอดปี2563 เปิดธนาคารเพื่อสังคมเต้มรูปแบบ“ศูนย์ยกระดับคุณภาพชีวิตเศรษฐกิจฐานราก” บริการธนาคารเพื่อสังคมเต็มรูปแบบครอบคลุม77 จังหวัดทั่วประเทศ
ดร.ชาติชายพยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสินเปิดเผยว่า นโยบายการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากประชารัฐสร้างไทยที่รัฐบาลได้วางรากฐานและดำเนินการมาต่อเนื่องนับว่าเป็นเกราะป้องกันผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจการค้าโลกที่กำลังเผชิญกับปัญหาสงครามการค้าและDisruption ทั้งนี้เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชนทั่วไปและกลุ่มผู้ประกอบการทั้งระบบเศรษฐกิจโดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อเสริมสร้างโอกาสทางการเงินให้แก่ประชาชนยกระดับคุณภาพชีวิตและแก้ไขปัญหาความยากจนธนาคารออมสินในฐานะสถาบันการเงินของรัฐมีแนวทางในการขับเคลื่อนนโยบายรัฐดังกล่าวโดยใช้ยุทธศาสตร์การพัฒนาสู่ความยั่งยืนผ่านSocial Banking หรือศูนย์ยกระดับคุณภาพชีวิตเศรษฐกิจฐานรากของธนาคารออมสินด้วยกลไก3 สร้างคือ1.สร้างความรู้/สร้างอาชีพ2.สร้างตลาด/สร้างรายได้และ3.สร้างโอกาสเข้าถึงแหล่งทุนมุ่งส่งเสริมให้ประชาชนรายย่อยในระดับฐานรากโดยเฉพาะกลุ่มผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้เข้าถึงความรู้ในอาชีพการพัฒนาอาชีพได้ฝึกฝนและสามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้เพื่อนำไปเป็นทุนประกอบอาชีพโดยกลไก3 สร้างดังกล่าวเป็นไปตามแนวทางประชารัฐผ่านโครงการออมสินสร้างสุขสู่ชุมชนเมืองที่ได้นำร่องที่จังหวัดเชียงใหม่และกาญจนบุรีในช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายนที่ผ่านมาซึ่งประสบผลสำเร็จเป็นอย่างยิ่งจึงได้จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นครั้งที่3 ในพื้นที่ภาคกลางจังหวัดกรุงเทพมหานคร
ธนาคารฯได้เตรียมแผนสนับสนุนนโยบายดังกล่าวอย่างต่อเนื่องในปี2563 ด้วยการปรับรูปแบบสาขาและบทบาทพนักงานเพื่อรองรับการดำเนินงานเป็นธนาคารเพื่อสังคมมุ่งสู่การเป็นธนาคารเพื่อความยั่งยืนในชื่อ“ศูนย์ยกระดับคุณภาพชีวิตเศรษฐกิจฐานรากของธนาคารออมสิน”ซึ่งจะมีจำนวน100 แห่งครอบคลุม77 จังหวัดทั่วประเทศโดยจะมีบริการศูนย์ที่ปรึกษาทางการเงินให้ความรู้ทางการเงินการบริหารจัดการเงินการจัดทำบัญชีครัวเรือนบริการศูนย์พัฒนาอาชีพประกอบด้วยมหาวิทยาลัยประชาชนช่างประชารัฐศูนย์แก้ไขหนี้นอกระบบมีจุดให้คำปรึกษา/แก้ไขหนี้นอกระบบโดยเฉพาะศูนย์แสดงสินค้าชุมชนเปิดพื้นที่ให้ลูกค้าในชุมชนได้แสดงสินค้ามีศูนย์รักษาพยาบาลและมีศูนย์กลางบริการทางการเงิน: Financial Logistic Center ซึ่งจะมีผลิตภัณฑ์ทางการเงินทุกรูปแบบโดยเน้นบริการทางการเงินเพื่อสังคมและประชาชนฐานรากเช่นสลากออมสิน, MyMo Pay, GSB Pay, บัตรเดบิตคุ้มครองชีวิต/คุ้มครองอุบัติเหตุGSB Smart Care/GSB Smart Life, ธนาคารประชาชน, สินเชื่อสตรีทฟู้ด, สินเชื่อโฮมสเตย์, สินเชื่อธุรกิจเฟรนไชส์และสินเชื่อQR รายวันนอกจากนี้ยังมีบริการธนาคารเพื่อผู้สุงอายุธนาคารพระพุทธศาสนาและการสนับสนุนการพัฒนาSMEs และSMEs Start up อย่างครบวงจร
ทั้งนี้การสร้างความเชื่อมั่นเศรษฐกิจไทยด้วยการให้เศรษฐกิจฐานรากเป็นกลไกกระตุ้นนั้นจะต้องได้รับความร่วมมือตามแนวทางประชารัฐคือภาครัฐเอกชนและประชาชนร่วมกันผลักดันโดยกลไก3 สร้างอย่างต่อเนื่องคือ1.สร้างความรู้/สร้างอาชีพ2.สร้างตลาด/สร้างรายได้และ3.สร้างโอกาสเข้าถึงแหล่งทุนโดยจะต้องมีการสร้างนวัตกรรมให้ชุมชนการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างชุมชนซึ่งอาจมีปราชญ์ชาวบ้านจุดประเด็นองค์ความรู้ของชุมชนเพื่อให้เกิดการระดมความเห็นเมื่อปฏิบัติแล้วสำเร็จจึงสนับสนุนไปสู่ชุมชนต้นแบบหลังจากนั้นมีการติดตามประเมินผลและพัฒนาอย่างต่อเนื่องต่อไป
สำหรับการเข้าถึงแหล่งทุนในระบบนั้นธนาคารฯได้เตรียมสินเชื่อประชารัฐสร้างไทยธนาคารประชาชน5..5..5 วงเงินโครงการ2,500 ล้านบาทให้กู้รายละไม่เกิน50,000 บาทเพื่อให้พ่อค้าแม่ค้าหาบเร่แผงลอยผู้ประกอบอาชีพอิสระรายย่อยและผู้มีรายได้น้อยได้นำเงินไปเป็นทุนหมุนเวียนในการประกอบอาชีพโดยผู้กู้สามารถใช้บุคคลหรือบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม(บสย.) ค้ำประกันมีวงเงินกู้สูงสุดรายละไม่เกิน50,000 บาทอัตราดอกเบี้ยคงที่0.50% ต่อเดือน(Flat Rate) ระยะผ่อนชำระเกิน5 ปี(60 งวด) ซึ่งเป็นแคมเปญที่สนองนโยบายรัฐเพื่อให้ลูกค้าฐานรากสามารถกู้เงินในอัตราดอกเบี้ยต่ำ
นอกจากนี้ยังมีสินเชื่อพัฒนาองค์กรชุมชน(รายบุคคล) สำหรับกลุ่มผู้ประกอบการโฮมสเตย์เพื่อเป็นเงินลงทุนในการดำเนินกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินกิจการโฮมสเตย์ไทยปรับปรุงหรือขยายกิจกรรมที่ทำอยู่เดิมลงทุนในกิจกรรมเพื่อการผลิตการค้าหรือการบริการวงเงินกู้ไม่เกิน1 ล้านบาทสามารถใช้บุคคลหลักทรัพย์หรือบสย. ค้ำประกันก็ได้ระยะเวลาผ่อนชำระ3-7 ปีอัตราดอกเบี้ยมี2 แบบหากใช้บุคคลหรือบสย.ค้ำประกันอัตราดอกเบี้ยคงที่0.75% ต่อเดือน(Flat Rate) และใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันอัตราดอกเบี้ยMRR+1.50% ต่อปี(อัตราดอกเบี้ยMRR ของธนาคารฯปัจจุบัน= 6.745% ต่อปี)
“ธนาคารออมสินเชื่อมั่นว่าด้วยการผลักดันนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงการคลังร่วมกับการประสานพลังประชารัฐของทุกภาคส่วนและภาคีเครือข่ายสนับสนุนเศรษฐกิจฐานรากจะทำให้การขับเคลื่อนการพัฒนานี้ประสบความสำเร็จสามารถสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับประชาชนลดความเหลื่อมล้ำและยกระดับรายได้ให้ประชาชนในพื้นที่มีความกินดีอยู่ดีมีความสุขเพื่อสร้างพื้นฐานและพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากของประเทศไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนซึ่งจะขยายผลประชารัฐสร้างไทยไปทุกภูมิภาคทั่วประเทศต่อไป” ผู้อำนวยการธนาคารออมสินกล่าวในที่สุด