จากมุมมองของสำนักวิจัย ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย คาดว่า ประเทศไทยกำลังเผชิญหน้าเข้าสู่ภาวะดอกเบี้ยต่ำและจะเป็นแบบนี้ไปอีกระยะหนึ่ง ซึ่งสวนทางกับตลาดการเงินทั่วโลก เนื่องจากเศรษฐกิจไทยยังคงมีความเสี่ยงที่จะโตช้ากว่าที่คาดไว้ สอดคล้องกับผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2564 ล่าสุด ซึ่งมีมติเป็นเอกฉันท์ ให้คงดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.5% ต่อปี ประกอบกับข้อมูลสถิติอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 12 เดือนย้อนหลัง ของธนาคารแห่งประเทศไทย ก็เป็นไปในทิศทางเดียวกันว่า อัตราดอกเบี้ยเงินฝากมีแนวโน้มลดลงเรื่อยๆ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน จึงเป็นคำถามที่น่าสนใจว่า..ยุคภาวะดอกเบี้ยต่ำแบบนี้ประชาชนทั่วไปที่มีเงินออม จะมีทางเลือกการลงทุนใหม่ๆ เพื่อให้เงินออมงอกเงยได้อย่างไร ?
นายภูดินันท์ เศรษฐนันท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ พัฒนาผลิตภัณฑ์การเงิน ธุรกิจผลิตภัณฑ์การเงิน และ ผู้บริหารการขายลูกค้าบุคคลธนกิจ ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย เปิดเผยว่า “ ถ้าเรามองย้อนกลับไป 15 ปีที่แล้ว การเก็บเงินออมไว้ในธนาคาร ทำให้เราได้รับผลตอบแทนสูงถึง 5% ต่อปี หรือใกล้กว่านั้นเป็นเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ก็ยังได้รับผลตอบแทนสูงถึง 3% ต่อปี แต่ในปัจจุบันกลับได้รับผลตอบแทนไม่ถึง 1% ต่อปี แต่คนไทยส่วนใหญ่ ยังคุ้นชินกับการออมแบบนั้น จึงพลาดโอกาสสร้างผลตอบแทนให้สูงขึ้น 3 เท่า ผ่านทางเลือกการลงทุนอย่างหุ้นกู้ที่ให้ผลตอบแทนที่โดดเด่นถึง 1.5%-4% ต่อปี ไปอย่างน่าเสียดาย ทั้งที่หุ้นกู้มีรูปแบบการลงทุนคล้ายการฝากเงิน คือ ได้รับดอกเบี้ยเป็นรายงวด และเงินต้นเมื่อครบกำหนด เพียงเปลี่ยนจากฝากเงินธนาคาร เป็นเจ้าหนี้บริษัทเอกชน
ขณะเดียวกัน นักลงทุนอีกกลุ่มที่เปิดใจลงทุนหุ้นกู้แล้ว แต่ก็ยังพลาดโอกาสสร้างผลตอบแทนสูงขึ้น เพราะเฝ้ารอจะซื้อเฉพาะหุ้นกู้ที่เสนอขายครั้งแรกเท่านั้น แล้วยังต้องลุ้นอีกว่า หุ้นกู้ที่สนใจ จะจองได้ทันรึเปล่า เพราะไม่ทราบว่ามีหุ้นกู้ดีๆ รอให้เลือกซื้อในตลาดรองมากมาย ส่วนบางคนรู้จักหุ้นกู้ตลาดรองแล้ว แต่กลับมีความคิดฝังหัวว่า ซื้อหุ้นกู้ตลาดรองต้องแพงกว่าซื้อตอน IPO ดูไม่น่าจะคุ้มค่าการลงทุน ทั้งที่ราคาที่ถูกหรือแพงเป็นไปตามภาวะตลาด ด้านนักลงทุนที่ซื้อหุ้นกู้ไปแล้ว ยังติดภาพจำว่าต้องถือครองหุ้นกู้เก็บไว้จนครบกำหนด แท้จริงแล้วนำออกมาขายเปลี่ยนมือได้ หรือบางคนอาจคิดว่า หากเอามาขายก็ขาดทุนเสมอ ทั้งที่มีโอกาสสร้างผลกำไรได้ด้วย ท้ายสุดเคยไปติดต่อสอบถามข้อมูลหุ้นกู้ แต่ไม่ได้คำตอบ ที่ช่วยให้ตัดสินใจลงทุนได้ ”
“ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย เห็นแล้วว่ามีโจทย์ที่ยังไม่ได้รับการแก้ จึงเริ่มลงมือตั้งแต่ปี 2558 เราตั้งใจบุกเบิกตลาดซื้อขายตราสารหนี้ก่อนครบกำหนด หรือเรียกง่ายๆว่า หุ้นกู้ตลาดรอง เพื่อให้คนไทยมีทางเลือกการออมที่ทำให้เงินทำงานหนักขึ้น ในเวลาเท่าเดิม สร้างผลตอบแทนได้สูงขึ้น และเปิดใจให้การลงทุนในหุ้นกู้ อีกทั้งสรรหาหุ้นกู้หลากหลายตัวเลือกในแต่ละวัน หรือ หุ้นกู้ดีดีมีได้ทุกวัน ที่เป็นสโลแกนหลักของเรา และเรายังหวังไปถึงว่าตลาดตราสารหนี้จะเข้ามามีบทบาทสำคัญมากขึ้น และเติบโตมากขึ้นจากนักลงทุนรายย่อย เพื่อเป็นแหล่งระดมทุนที่สำคัญของทั้งภาครัฐและเอกชน ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศต่อไป”
“ ตลอด 6 ปี ที่ผ่านมาเราบุกเบิกและพัฒนาตลาดรองของลูกค้ารายย่อย เพื่อเป็น one stop service ของการลงทุนหุ้นกู้อย่างแท้จริง สำหรับผู้ที่สนใจจะซื้อ ก็มีหุ้นกู้คุณภาพดีหลากหลายให้เลือก ในทุกๆ วัน หรือผู้ที่สนใจจะขาย ก็สามารถขายได้ บนราคาที่ยุติธรรม พร้อมกับมีผู้แนะนำการลงทุน คอยให้คำปรึกษาทุกๆ สาขาของธนาคาร และจากความมุ่งมั่นของเรา ทำให้วันนี้เรามีส่วนแบ่งตลาด 51% ของตราสารหนี้ตลาดรองสำหรับลูกค้ารายย่อย ( ม.ค.-ส.ค. 2564 ) จึงถือเป็นบทพิสูจน์อีกขั้นที่สำคัญว่า สิ่งที่เราตั้งใจทำมาตลอด ได้ดำเนินมาถูกทิศทาง ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ การให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากรเพื่อให้สามารถแนะนำลูกค้าได้ทันต่อเหตุการณ์อยู่เสมอ และหัวใจสำคัญก็คือ การเข้าใจความต้องการลูกค้าจนทำให้วันนี้เราได้เข้าไปนั่งอยู่ในใจลูกค้า และเป็นธนาคารแรกที่ลูกค้านึกถึงเมื่ออยากลงทุนในพันธบัตร และหุ้นกู้ได้ในท้ายที่สุด " นายภูดินันท์ กล่าว
นายกรกฏ กมลเนตรพิสุทธิ์ ผู้บริหาร ธุรกิจผลิตภัณฑ์ตราสารหนี้ และเงินตราต่างประเทศ ธนาคาร ซีไอเอ็มบีไทย เปิดเผยว่า “ถึงเป็นผู้นำเราจะไม่ย่ำอยู่กับที่ เป้าหมายถัดไปก็คือการส่งต่อความมั่งคั่งให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อเดินหน้าทำตามพันธกิจของธนาคาร ที่เรายึดมั่นมาโดยตลอด คือ Forward your wealth ส่งต่อความรวย 3 ด้าน คือ รวยรายได้ จากดอกเบี้ย สม่ำเสมอ และมั่นคง รวยปัญญา สร้างองค์ความรู้ ให้ลูกค้าเลือกลงทุนอย่างมั่นใจ และรวยโอกาส สร้างโอกาส เพิ่มพูนความมั่งคั่งให้พอร์ตลงทุน ”
" สุดท้ายนี้เราอยากให้ลูกค้า ลบภาพประสบการณ์ของการลงทุนในหุ้นกู้เดิมๆ ที่เคยพบเจอมา ไม่ว่าจะเป็นจองซื้อหุ้นกู้ไม่เคยทัน เพราะโดนตัดหน้า , ไม่กล้าลงทุน เพราะคิดว่ายุ่งยาก , พลาดโอกาสลงทุนหุ้นกู้ใหม่ๆเพราะขีดจำกัดด้านเงินลงทุน หรือไม่มั่นใจลงทุนในหุ้นกู้ เพราะขาดคำแนะนำ สำหรับผู้ที่สนใจ แล้วอยากเปลี่ยนประสบการณ์ กับหุ้นกู้ตลาดรอง ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย มารับชมข้อมูลเบื้องต้นได้ ผ่านวีดีโอที่Facebook Official page ของ CIMBTHAI หรือ https://www.cimbthai.com/th/personal/promotions/latest-promotions/secondary-bond0.html แล้วมาเปลี่ยนประสบการณ์การลงทุนได้ง่ายๆ ผ่านแอป CIMB THAI Digital Banking หรือติดต่อที่สาขาของธนาคาร เรามีผู้แนะนำการลงทุน คอยให้คำปรึกษา หรือโทรเข้ามาสอบถามได้ที่ care center 02 626 7777 เพื่อทำให้หุ้นกู้ตลาดรอง ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย เป็นพื้นที่แห่งโอกาสของทุกคนอย่างแท้จริง " คุณกรกฏ กล่าวทิ้งท้าย