เดือนกันยายน 2564 คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยปี 2564 และปี 2565 จะขยายตัวใกล้เคียงกับที่คาดไว้ในการประชุมครั้งก่อน โดยคาดว่าเศรษฐกิจในระยะต่อไปจะได้รับผลบวกจากการกระจายวัคซีนที่เพิ่มขึ้นและการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดที่เร็วกว่าคาด โดยปัจจัยที่สร้างความไม่แน่นอนให้กับผู้ลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลก ได้แก่ ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ที่อาจยกเลิกดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเร็วกว่ากำหนด และ การปรับลดประมาณการเติบโตของเศรษฐกิจจีนในปีนี้และระยะข้างหน้า หลังจากรัฐบาลจีนใช้มาตรการควบคุมภาคอสังหาริมทรัพย์และเทคโนโลยี อย่างไรก็ตามบริษัทจดทะเบียนไทยมีความแข็งแกร่งและสามารถฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง
นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเปิดเผยว่า ณ สิ้นเดือนกันยายน 2564 SET Index ปิดที่ 1,605.68 จุด ลดลง 2.0% จากสิ้นเดือนก่อนหน้า เมื่อพิจารณาช่วง 9 เดือนแรกปี 2564 SET Index ปรับเพิ่มขึ้น 10.8% ซึ่งถือเป็นการปรับเพิ่มขึ้นสูงกว่าค่าเฉลี่ยของดัชนีตลาดหลักทรัพย์อื่นๆ โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่ปรับตัวดีกว่า SET Index เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2563 ได้แก่ กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม กลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร และกลุ่มบริการ
ภาวะตลาดหลักทรัพย์ไทย
ณ สิ้นเดือนกันยายน 2564 SET Index ปิดที่ 1,605.68 จุด ลดลง 2.0% จากสิ้นเดือนก่อนหน้า เมื่อพิจารณาช่วง9 เดือนแรกปี 2564 SET Index ปรับเพิ่มขึ้น 10.8% จากสิ้นปี 2563 ซึ่งปรับเพิ่มขึ้นสูงกว่าค่าเฉลี่ยของดัชนีตลาดหลักทรัพย์อื่นๆ
SET Index ใน 9 เดือนแรกปี 2564 ได้แรงหนุนจากเกือบทุกอุตสาหกรรมที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่ปรับตัวดีกว่า SET Index เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2563 ได้แก่กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม กลุ่มเทคโนโลยีกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร และกลุ่มบริการ
ในเดือนกันยายน 2564 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันใน SET และ mai อยู่ที่ 100,827 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 110.5% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน โดยใน 9 เดือนแรกปี 2564 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 96,463 ล้านบาท
ผู้ลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิเป็นเดือนที่สองต่อเนื่องกันในปี 2564 โดยในเดือนกันยายน 2564 ผู้ลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 10,803 ล้านบาท ทั้งนี้ในช่วง 9 เดือนแรกปี 2564 ผู้ลงทุนต่างชาติขายสุทธิรวม 79,172 ล้านบาทโดยผู้ลงทุนในประเทศมีสถานะเป็นผู้ซื้อสุทธิ 105,753 ล้านบาท นอกจากนี้ ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2563 ที่มีการแพร่ระบาดของ COVID-19 ผู้ลงทุนในประเทศมีสัดส่วนมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดมาอย่างต่อเนื่อง
ในเดือนกันยายน 2564 มีบริษัทเข้าจดทะเบียนซื้อขายใหม่ใน SET 2 บริษัท และ ใน mai 2 บริษัท โดยใน 9 เดือนแรกปี 2564 SET มีมูลค่าเสนอขายในตลาดแรก (IPO) สูงที่สุดเมื่อเทียบกับตลาดหลักทรัพย์อื่นๆ ในASEAN
Forward และ Historical P/E ของตลาดหลักทรัพย์ไทย ณ สิ้นเดือนกันยายน 2564 อยู่ที่ระดับ 18.9 เท่า และ 19.8 เท่าตามลำดับ สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 14.9 เท่า และ 17.8 เท่าตามลำดับ
อัตราเงินปันผลตอบแทน ณ สิ้นเดือนกันยายน 2564 อยู่ที่ระดับ 2.74% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ 2.47%
ภาวะตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในเดือนกันยายน 2564 ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 679,223 สัญญาเพิ่มขึ้น 43.6% จากเดือนก่อน และในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2564 มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 550,194 สัญญา เพิ่มขึ้น 18.0% ที่สำคัญจากการเพิ่มขึ้นของ Single Stock Futures, Gold online futures และ USD Futures เป็นสำคัญ