น.ส.รื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ก.ล.ต.ได้เสนอร่าง พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ฉบับแก้ไขให้กระทรวงการคลังพิจารณา ซึ่ง พ.ร.บ.ฉบับนี้ จะยกระดับให้สำนักงาน ก.ล.ต.ทำหน้าที่ในการสืบสวนคดีเองได้ รวมทั้งพ.ร.บ. คุ้มครองพยานด้วย ทางสำนักงานฯคาดหวังว่าเมื่อพ.ร.บ.ฉบับนี้นำมาใช้จะทำให้ประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมายและทำให้ตลาดทุนไทยมีความน่าเชื่อถือและเชื่อมั่นเพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ พ.ร.บ.ฉบับนี้ได้มีการเปิดรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องแล้ว และเสนอให้คณะกรรมการ (บอร์ด) ก.ล.ต.พิจารณาเรียบร้อยแล้ว และกฎหมายฉบับนี้จะถือเป็นงานที่สำคัญหลังจากเข้ามาทำหน้าที่ใน ก.ล.ต.
สำหรับโครงการ e-enforcement นั้น นายเอนก อยู่ยืน ผู้ช่วยเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า ก.ล.ต.พัฒนาโครงการ e-enforcement ช่วยตรวจสอบการกระทำผิดในตลาดทุน เปิดเผยถึง ก.ล.ต. ได้คาดการณ์ทิศทางความเปลี่ยนแปลงและความท้าทายใหม่ ๆ และดําเนินการในเชิงรุก นํามา วางแผนและพัฒนาการทํางานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นมาอย่างต่อเนื่องเพื่อเท่าทันความเปลี่ยนแปลงและ ความท้าทายนั้นๆ ด้วยการปรับปรุงกระบวนการทํางาน คิด และพัฒนาเครื่องมือที่ทันสมัยโดยนํา เทคโนโลยีมาใช้ (e-enforcement) โดยใช้ประโยชน์จาก Big Data มาตั้งแต่ปลายปี 2562 ซึ่งแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ “การป้องกัน” และ “การตรวจจับ” เพื่อใช้ประโยชน์จากการวิเคราะห์ข้อมูลและตรวจจับ พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม รวมทั้งหาความเชื่อมโยงระหว่างกลุ่มคนได้เร็วขึ้น ซึ่งช่วยให้การตรวจสอบทําได้ รวดเร็วและแม่นยําขึ้น ซึ่งในปัจจุบันมี 3 เครื่องมือ ประกอบด้วย
1. AI-Enforcement เป็นเครื่องมือช่วยดักจับและสรุปพฤติกรรมความผิด ที่แสดงผลใน รูปแบบ visualize ช่วยสรุปภาพรวมพฤติกรรมที่อาจเข้าข่ายผิดปกติของผู้ต้องสงสัย ที่เข้าใจง่ายและ สามารถนําไปช่วยอธิบายในชั้นดําเนินการต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจน รวมถึงสามารถช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมที่ ไม่เหมาะสมรูปแบบใหม่ ๆ เพื่อป้องปรามการกระทําอันไม่เป็นธรรมด้วยพฤติกรรมความผิดต่าง ๆ ที่ระบบ AI-Enforcement จะช่วยวิเคราะห์ออกมาให้ โดยหลักแล้ว เป็นพฤติกรรมตามที่ระบุไว้ใน พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ เช่น ผลักดันราคา จับคู่ซื้อขาย พยุงราคา หรือทําราคา เปิด-ปิด เป็นต้นโดยแสดงผลได้ทั้งแบบช่วงที่ต้องการตรวจสอบ (Interday) ทําให้เห็นภาพรวมของ พฤติกรรมที่อาจเข้าข่ายความผิดตามกฎหมาย หรือ แบบรายวัน (Intraday) ทําให้สามารถพิจารณา เชื่อมโยงพฤติกรรมของกลุ่มผู้ต้องสงสัยได้ชัดเจนมากขึ้น
2. Corporate Surveillance เป็นเครื่องมือคัดกรองและตรวจจับธุรกรรมผิดปกติเบื้องต้น เกี่ยวกับฐานะทางการเงินและผลการดําเนินงานของบริษัทจดทะเบียน รวมทั้งธุรกรรมที่มีข้อสังเกตที่อาจ นําไปสู่การกระทําไม่เหมาะสมหรือทุจริตโดยจะช่วยให้ตรวจจับและคัดกรองธุรกรรมที่ผิดปกติได้รวดเร็ว และยับยั้งไม่ให้ความเสียหายลุกลาม (detect & deterrence) รวมถึงลดระยะเวลาในการทํางานและลด จํานวนเคสทุจริตด้วย
เมื่อระบบ Corporate Surveillance ประมวลผลข้อมูลและตรวจจับว่ามีธุรกรรมผิดปกติจะแจ้ง เตือนไปยังเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเบื้องต้น (surveillance) และหากมีมูลว่ากระทําผิดกฎหมายจะส่งเรื่องให้ ฝ่ายงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบในเชิงลึก (investigation) และดําเนินการกับผู้กระทําผิด (enforcement) ต่อไป ช่วยในการดําเนินการของ ก.ล.ต. ตั้งแต่ต้นน้ําถึงปลายน้ํา ให้สามารถทําได้อย่างรวดเร็ว มี ประสิทธิภาพ
3. E-link เป็นเครื่องมือช่วยตรวจสอบความเชื่อมโยงบุคคลจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ โดยจะ ช่วยในการวิเคราะห์และหาความเชื่อมโยงจากฐานข้อมูลขนาดใหญ่ที่มีธุรกรรมปริมาณมากและมาจาก แหล่งต่าง ๆ กัน เช่น ทางเงิน และความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ซง่ึ จะแสดงผลในลักษณะ visualization ได้หลายมิติ ทําให้อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างกันได้อย่างชัดเจนและเข้าใจง่าย ช่วยลดระยะเวลาในการ ตรวจสอบ และเพิ่มความแม่นยําในการรวบรวมหลักฐานความสัมพันธ์ได้มากขึ้น
ระบบ E-link จะมีโมเดลในการวิเคราะห์ เลือกผังความสัมพันธ์ที่เหมาะสมและมุมมองที่ต้องการ visualize ซี่งมีให้เลือกใช้หลายรูปแบบ ทั้งในการใช้วาดความสัมพันธ์ที่เน้นความเชื่อมโยงที่ต้องการโฟกัส ได้ คัดกรองรายการที่ไม่จําเป็น มีการวิเคราะห์แบบ timeline ที่แสดงความเกี่ยวเนื่องระหว่างเหตุการณ์ มีการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ในเชิงhistogram เป็นต้น
นอกจาก การนํา e-enforcement มาใช้ใน “การป้องกัน” และ “การตรวจจับ” แล้ว ก.ล.ต. ยังให้ความสําคัญกับการพัฒนากฎหมายให้ทันสมัยและสอดรับกับบริบททางเศรษฐกิจและสังคมที่ เปลี่ยนแปลงไป โดยจัดทําร่างแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายที่อยู่ภายใต้การกํากับดูแลของ ก.ล.ต.* เพื่อส่งเสริม ตลาดทุนดิจิทัลและยกระดับประสิทธิภาพการกํากับดูแลให้เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี รวมทั้งสภาพแวดล้อม (ecosystem) ของตลาดทุนในยุคดิจิทัล และให้ความคุ้มครองผู้ลงทุน พร้อมกับ ส่งเสริมการระดมทุนและการประกอบธุรกิจในตลาดทุน และการปรับปรุงการบังคับใช้กฎหมายให้มี ประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
รวมถึงการปรับปรุงกระบวนการบังคับใช้กฎหมายในชั้นก่อนฟ้องคดี โดยให้เจ้าหน้าที่ของ ก.ล.ต. เป็นพนักงานสอบสวนและมีอํานาจสอบสวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ในความผิด ฐานใช้ข้อมูลภายในซื้อขายผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน ความผิดฐานสร้างราคาหรือปริมาณการซื้อขาย ผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน และความผิดฐานบอกกล่าวเผยแพร่หรือให้คํารับรองข้อความเท็จ และยังมีการ เสนอแก้ไขกฎหมายโดยกําหนดให้มีการคุ้มครองพยานในชั้นการตรวจสอบของ ก.ล.ต. เพื่อสนับสนุนให้ การบังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทําความผิดเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น