กรมบัญชีกลางสนับสนุนและเชื่อมโยงข้อมูลการเบิกจ่ายงบประมาณ ของ EEC บูรณาการระบบฐานข้อมูลด้านการเงินการคลังภาครัฐ เพื่อความสะดวก คุ้มค่า โปร่งใส ตรวจสอบได้
นายประภาศ คงเอียด อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยภายหลังพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการสนับสนุนข้อมูลเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกผ่านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ระหว่างสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) หรือ EEC และ กรมบัญชีกลาง โดยมีนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน ณ ห้องประชุมชั้น 7 อาคาร 6 กรมบัญชีกลาง วันที่ 23 กันยายน 2564 ว่า กรมบัญชีกลางในฐานะหน่วยงานที่กำกับดูแลและบริหารการใช้จ่ายเงินของแผ่นดิน ซึ่งถือเป็นกลไกสำคัญของภาครัฐที่จะช่วยให้การบริหารงบประมาณและการใช้จ่ายเงินของหน่วยงานภาครัฐมุ่งสู่ผลสัมฤทธิ์ตามกรอบภารกิจและนโยบายของรัฐบาล โดยกรมบัญชีกลางมีการจัดเตรียมเครื่องมือที่อำนวยความสะดวกแก่หน่วยงานของรัฐไว้รองรับการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับการใช้จ่ายเงินงบประมาณ เช่น การพัฒนาระบบฐานข้อมูล การให้บริการข้อมูลในรูปแบบดิจิทัล เพื่อสนับสนุนข้อมูลผลการใช้จ่ายเงินงบประมาณและด้านการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ เป็นต้น สำหรับความร่วมมือระหว่างสำนักคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกและกรมบัญชีกลางในครั้งนี้ นับเป็นการบูรณาการแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อสนับสนุนการเชื่อมโยงข้อมูลให้สำนักคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกสามารถนำข้อมูลไปใช้ในการกำกับ ติดตาม และประเมินผลโครงการที่ดำเนินงานภายใต้แผนงานบูรณาการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกได้อย่างสะดวกรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ ช่วยลดกระบวนการทำงานที่ซับซ้อน รวมถึงการรวบรวมข้อมูล สำหรับวิเคราะห์สถานการณ์ในภาพรวมให้ครบถ้วนทุกมิติ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับประโยชน์สูงสุด
“การลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ กรมบัญชีกลางจะสนับสนุนข้อมูลการเบิกจ่ายงบประมาณจากระบบ GFMIS และข้อมูลสถานะการจัดซื้อจัดจ้างจากระบบ e-GP ให้แก่ระบบสารสนเทศที่ สกพอ. ร่วมมือกับสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) หรือ สพร. พัฒนาขึ้น เพื่อเป็นฐานข้อมูลรวบรวมโครงการตามแผนภาพรวมการพัฒนาอีอีซี โครงการและงบประมาณทั้งในและนอกแผนบูรณาการอีอีซี รวมถึงงบประมาณโครงการที่สำคัญของท้องถิ่น เพื่อให้เกิดการบูรณาการการพัฒนาพื้นที่ครอบคลุมถึงระดับชุมชน อำนวยความสะดวกให้ภาครัฐ และถือเป็นจุดเริ่มต้นครั้งสำคัญของการทำงานเชิงรุกแบบบูรณาการเป็นต้นแบบของการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงานของรัฐเพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนนโยบายสำคัญของรัฐบาลในการสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในระยะยาวอย่างยั่งยืน รวมทั้งเป็นองค์ประกอบที่สำคัญในการผลักดันการเปลี่ยนผ่านสู่รัฐบาลดิจิทัล หรือรัฐบาล 4.0 ตามบทบัญญัติและเจตนารมณ์แห่งพระราชบัญญัติการบริหารงานและการให้บริการภาครัฐผ่านระบบดิจิทัล พ.ศ. 2562 ได้อย่างชัดเจนและเป็นรูปธรรม เพื่อให้รัฐบาลดิจิทัลที่มีการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงานของรัฐเป็นพื้นฐานของการขับเคลื่อนนโยบายประเทศไทย 4.0 (Thailand 4.0) เพื่อพัฒนาประเทศไปสู่วิสัยทัศน์ที่กำหนดไว้ในยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี คือ ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ต่อไป” อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าว