สรรพากรคว้ารางวัลเลิศรัฐยอดเยี่ยม 2 ปีติด พร้อมกวาดอีก 7 รางวัลเลิศรัฐมาครอง ยกระดับการบริการดิจิทัลเต็มรูปแบบ พร้อมออกนโยบายภาษีรองรับสถานการณ์โควิดอย่างครบวงจร
เมื่อวันที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๖๔ ดร. เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร พร้อมทั้งผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กรมสรรพากร เข้ารับรางวัลเลิศรัฐยอดเยี่ยมประจำปี ๒๕๖๔ และอีก ๗ รางวัลเลิศรัฐ จากนายวิษณุ เครืองามรองนายกรัฐมนตรี ผ่านระบบออนไลน์
ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า “เป็นเรื่องที่น่ายินดีและภาคภูมิใจ เป็นอย่างยิ่งที่ในปีนี้ กรมสรรพากรได้รับรางวัลเลิศรัฐยอดเยี่ยมประจำปี ๒๕๖๔ ซึ่งรางวัลเลิศรัฐยอดเยี่ยมนี้ เป็นรางวัลที่คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ยกย่องเชิดชูหน่วยงานที่มุ่งมั่นปฏิบัติราชการจนสำเร็จ เป็นเลิศแห่งหน่วยงานภาครัฐทั้งปวง โดยกรมสรรพากรสามารถคว้า “รางวัลเลิศรัฐยอดเยี่ยม” นี้ เป็นปีที่ ๒ ต่อเนื่องกัน (ปี๒๕๖๓ และปี ๒๕๖๔) ซึ่งการได้รับรางวัลเลิศรัฐยอดเยี่ยมนั้น หน่วยงานจะต้องได้รับรางวัลระดับดีเด่นครบ ทั้ง ๓ สาขาในปีเดียวกัน ประกอบด้วย สาขารางวัลบริการภาครัฐ รางวัลบริหารราชการแบบมีส่วนร่วม และรางวัลคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ ซึ่งในปีนี้กรมสรรพากรได้รับรางวัลเลิศรัฐยอดเยี่ยม พร้อมกับอีก ๗รางวัลเลิศรัฐ ใน ๓ สาขาประกอบด้วย
๑. สาขาการบริการภาครัฐ ๕ รางวัล
๑.๑ รางวัลยกระดับบริการที่ตอบสนองต่อสถานการณ์โควิด 19 ดำเนินมาตรการต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการและประชาชน อาทิ การเลื่อนระยะเวลายื่นแบบแสดงรายการชำระภาษี การเร่งคืนภาษี การลดอัตราภาษีหัก ณ ที่จ่าย การหักลดหย่อนเบี้ยประกันสุขภาพ เป็นต้น
๑.๒ รางวัลยกระดับการอำนวยความสะดวกในการให้บริการ แก้ไขกฎหมาย กฎระเบียบต่างๆเพื่อเป็นการลดขั้นตอนและระยะเวลา รวมถึงการพัฒนารูปแบบการให้บริการเป็นอิเล็กทรอนิกส์ อาทิ สามารถทำธุรกรรมทุกอย่างที่บ้าน หรือ Tax From Home ได้ เป็นต้น
๑.๓ รางวัลพัฒนาการบริการจากผลงานระบบ My Tax Account พัฒนาระบบต่างๆ ให้ประชาชนสามารถตรวจสอบข้อมูลค่าลดหย่อนภาษีต่างๆ ด้วยตนเอง
๑.๔ รางวัลบูรณาการเพื่อการบริการ การเชื่อมโยงข้อมูลเริ่มต้นธุรกิจกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าและสำนักงานประกันสังคม เชื่อมโยงข้อมูลเริ่มต้นธุรกิจ ลดขั้นตอนต่างๆ สามารถทำธุรกรรมทางภาษีและจดทะเบียนบริษัทได้ด้วยเพียงขั้นตอนเดียว
๑.๕ รางวัลนวัตกรรมการบริการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้นักท่องเที่ยวด้วยเทคโนโลยี Blockchain ผ่านApplication Thailand VRT แบบดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบที่แรกของโลก
๒. สาขาการบริหารราชการแบบมีส่วนร่วม ๑ รางวัล เปิดให้ผู้เสียภาษี ผู้ประกอบการ และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียให้ข้อมูลพร้อมร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อให้บริการที่ตรงเป้า ตรงใจประชาชน
๓. สาขาคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ (PMQA ๔.๐) ระดับพัฒนาจนเกิดผล (Significant) ๑ รางวัล
รางวัลนี้พิจารณาใน ๖ ด้าน ประกอบด้วย ผู้นำองค์กรที่มีวิสัยทัศน์ การวางแผนกลยุทธ์ การนำผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเข้ามาร่วมดำเนินการ การบริหารทรัพยากรบุคคล การบริหารองค์ความรู้ และการบริหาร การจัดกระบวนการทำงาน ซึ่งสะท้อนถึงความสำเร็จในการบริหารจัดการองค์กร โดยยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง ยกระดับการให้บริการ สร้างนวัตกรรม และปรับเข้าสู่การเป็นกรมสรรพากรดิจิทัลอย่างเเท้จริง”
ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวเพิ่มเติมว่า “ในช่วง ๓ ปีที่ผ่านมา กรมสรรพากรได้มีการนำความรู้ใหม่ๆ เข้ามาประยุกต์ใช้ รวมถึงการนำเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อตอบสนองบริการที่ดีและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นให้กับพี่น้องประชาชน จากการที่ดิจิทัลเข้ามามีบทบาทสำคัญในการใช้ชีวิต จึงเป็นที่มาที่ทำให้กรมสรรพากรเริ่มนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ กรมสรรพากรได้มีการจัดทำกลยุทธ์ D2RIVE การใช้ข้อมูล มาวิเคราะห์ การจัดการกับข้อมูลที่มากมาย การวางกลยุทธ์การจัดเก็บรายได้ เป็นต้น รวมถึงการนำนวัตกรรมใหม่ๆ อาทิ Design Thinking, Agile และ Hackathon มาใช้ในการพัฒนาต่อยอดจนทำให้เกิดรูปแบบการให้บริการ ที่ง่าย สะดวก และรวดเร็ว แก่พี่น้องประชาชน และสิ่งสำคัญคือ กรมสรรพากรสามารถนำเทคโนโลยีดิจิทัล ที่วางระบบไว้มาใช้ประโยชน์ในสถานการณ์โควิด - 19 ซึ่งสนองตอบการบริการต่อพี่น้องประชาชนได้เป็นอย่างดี รวมทั้งยังช่วยให้การทำงานของกรมสรรพากรมีประสิทธิภาพและสามารถต่อยอดจนเกิดผลงานต่าง ๆ ตามมาอาทิ ฐานรายได้ภาษีใหม่ของกรมสรรพากรจาก e - Service เป็นต้น ทั้งนี้ชาวสรรพากรทุกคนมุ่งมั่นที่จะพัฒนาการบริการประชาชนด้านภาษีให้เป็นเรื่องง่าย สะดวก รวดเร็วและปลอดภัยแก่พี่น้องประชาชน พร้อมทั้งเป็นกำลังสำคัญในการสร้างรายได้ และพัฒนาระบบเศรษฐกิจของประเทศให้เกิดความยั่งยืนสืบไป”