MTC คุณภาพเยี่ยม! ติดโผดัชนี FTSE4Good ปีที่ 2
ครองเรทติ้งระดับ "A" จาก MSCI ESG Rating ต่อเนื่อง
ตอกย้ำเป็นองค์กรยั่งยืน น่าเชื่อถือตามมาตรฐานระดับสากล
บมจ.เมืองไทย แคปปิตอล (MTC) ได้รับคัดเลือกเข้าคำนวณดัชนีความยั่งยืนระดับโลก FTSE4Good Index ประจำปี 2564 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 จาก FTSE Russell มีคะแนนสูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่ม Financial Services – Consumer Finance ทุกมิติ รวมทั้งยังคงรักษา Ranking "A" จาก MSCI ESG Rating ได้เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน ฟาก"ชูชาติ เพ็ชรอำไพ" ระบุการได้รับคัดเลือกในครั้งนี้ สะท้อนการเป็นองค์กรชั้นนำ มีความน่าเชื่อถือ ตามมาตรฐานระดับสากล หวังสถาบันเพิ่มสัดส่วนการลงทุน มั่นใจเดินหน้าสู่เป้าหมายปี 64 เป็นปีแห่งการขับเคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืน
นายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด(มหาชน) หรือ MTC เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีความรู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับคัดเลือกเข้าคำนวณดัชนีความยั่งยืนระดับสากลFTSE4Good Index ประจำปี 2564 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 จาก FTSE Russell โดยมีคะแนนสูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่ม Financial Services – Consumer Finance ในทุกมิติ ซึ่งการประเมินจะยึดจากข้อมูลที่บริษัทเปิดเผยสู่สาธารณะทั้งจากรายงานประจำปี รายงานความยั่งยืน รวมถึงเว็บไซต์ของบริษัท
สำหรับ FTSE4Good Index เป็นดัชนีอ้างอิง เพื่อวัดผลการลงทุน และดัชนีเพื่อการซื้อขายสำหรับนักลงทุนที่ให้ความสำคัญด้าน ESG ใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการลงทุน
ขณะเดียวกัน ยังคงรักษาอันดับความน่าเชื่อถือ MSCI ESG Rating ไว้ได้ที่ระดับ A ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าบริษัทได้ดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงสิ่งเเวดล้อม สังคม เเละบรรษัทภิบาล (Environmental, Social and Governance) ซึ่งประเมินโดย MSCI ESG Research หน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญและความน่าเชื่อถือด้านดัชนี ESG ในระดับนานาชาติ
"การที่บริษัทฯ ได้รับคัดเลือกในการคำนวณดัชนีความยั่งยืนระดับโลกติดต่อกันเป็นปีที่ 2รวมถึงยังคงรักษาอันดับความน่าเชื่อถือ MSCI ESG Rating ไว้ได้ที่ระดับ A นับเป็นความสำเร็จที่สะท้อนให้เห็นว่า บริษัทฯ เป็นองค์กรชั้นนำด้านธุรกิจสินเชื่อรายย่อยที่มีความมุ่งมั่นต่อการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน เพื่อยกระดับความน่าเชื่อถือที่สะท้อนจากผลการดำเนินงานด้าน ESG ของบริษัทให้ได้รับการยอมรับในระดับสากล ขณะเดียวกันน่าจะทำให้กลุ่มผู้ลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศให้ความสนใจเพิ่มสัดส่วนการลงทุนมากขึ้น"
ประธานกรรมการบริหาร กล่าวอีกว่า ในปี 2564 นี้ บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) ยังร่วมสนับสนุนสู้ภัยโควิด-19 ผ่านโครงการ “เมืองไทยไม่ทิ้งกัน” ที่เน้นช่วยเหลือด้านสาธารณสุข และการศึกษา ดังนั้นบริษัทมุ่งมั่นที่จะให้บริการทางการเงินที่สะดวก และเป็นธรรม ให้แก่กลุ่มลูกค้ารายย่อย การได้ติดอันดับในดัชนีดังกล่าวจึงไม่เพียงแต่เป็นความภาคภูมิใจของทุกคนที่เมืองไทย แคปปิตอล แต่ยังถือเป็นเครื่องสะท้อนความตั้งใจของบริษัทในการรักษาสถานะการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยไม่ได้ลดทอนคุณค่าของผู้มีส่วนได้เสียแต่อย่างใด ตามวิสัยทัศน์ประจำปี 2564 ปีแห่งการเคลื่อนสู่ธุรกิจแห่งความยั่งยืน
ทั้งนี้ บมจ.เมืองไทย แคปปิตอล เป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจให้บริการสินเชื่อรถจักรยานยนต์ สินเชื่อรถยนต์ทุกประเภท สินเชื่อเพื่อการเกษตร สินเชื่อโฉนดที่ดิน สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ รวมถึงรับทำประกัน พ.ร.บ. และประกัน PA. ให้บริการลูกค้าอย่างครบวงจร ซึ่งมีพอร์ตสินเชื่อ มูลค่ารวมประมาณ 8 หมื่นล้านบาท และยังมีความมุ่งมั่นในดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงความยั่งยืน โดยมีเป้าหมายคือการเป็นองค์กรต้นแบบของอุตสาหกรรมไมโครไฟแนนซ์ด้านบรรษัทภิบาลในระดับสากล