คลังเผยเศรษฐกิจไทยเดือน ก.ค. ชะลอลงจากผลโควิด-19

เศรษฐกิจภูมิภาคในเดือนกรกฎาคม 2564 ชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าในเกือบทุกภูมิภาค จากผลกระทบของสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Coronavirus Disease 2019: COVID-19) ที่ขยายวงกว้าง สอดคล้องกับดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและภาคอุตสาหกรรมที่ปรับตัวลดลงในหลายภูมิภาค อย่างไรก็ตาม ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมของภาคตะวันออกยังปรับเพิ่มขึ้นจากภาคการส่งออกที่ขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง

นายวุฒิพงศ์ จิตตั้งสกุล ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และนายพิสิทธิ์ พัวพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค เปิดเผยรายงานภาวะเศรษฐกิจภูมิภาคประจำเดือนกรกฎาคม 2564 ว่า “เศรษฐกิจภูมิภาคในเดือนกรกฎาคม 2564 ชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าในเกือบทุกภูมิภาค จากผลกระทบของสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Coronavirus Disease 2019: COVID-19) ที่ขยายวงกว้าง สอดคล้องกับดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและภาคอุตสาหกรรมที่ปรับตัวลดลงในหลายภูมิภาค อย่างไรก็ตาม ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมของภาคตะวันออกยังปรับเพิ่มขึ้นจากภาคการส่งออกที่ขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง โดยมีรายละเอียดดังนี้

เศรษฐกิจภาคตะวันออกขยายตัวได้เมื่อเทียบกับปีก่อนแต่ชะลอลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า อย่างไรก็ดี การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม  ราคาคงที่ยังเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมภาคตะวันออกยังปรับเพิ่มขึ้นจากภาคการส่งออกที่ขยายตัวได้ดีต่อเนื่องในเดือนกรกฎาคม 2564 เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ และจำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ชะลอลงร้อยละ -7.9 และ -0.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และชะลอลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลร้อยละ -26.0 และ -19.5 ตามลำดับ อย่างไรก็ดี การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม  ราคาคงที่ ขยายตัวร้อยละ 52.1 และ 118.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนและเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล ตามลำดับ สำหรับเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ขยายตัวร้อยละ  11.0 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ชะลอลงร้อยละ -19.3 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล เช่นเดียวกับเงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการขยายตัวในอัตราชะลอลงที่ร้อยละ 9.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ชะลอลงร้อยละ -43.9 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล ด้วยจำนวนเงินทุน 1.7 พันล้านบาทจากโรงงานทำเครื่องเรือน เครื่องใช้จากไม้ เช่น พื้นไม้แปรรูปในจังหวัดชลบุรี และโรงงานผลิตภาชนะบรรจุจากกระดาษทุกชนิด และการทำพลาสติกเป็นแผ่นและการพิมพ์ ในจังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นสำคัญ ทั้งนี้ ในด้านความเชื่อมั่นพบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 105.6 จากระดับ 105.0 ในเดือนก่อนหน้า ในขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลงมาอยู่ที่ระดับ 43.8 จากระดับ 46.0 ในเดือนก่อนหน้า

เศรษฐกิจภาคกลางขยายตัวได้เมื่อเทียบกับปีก่อนแต่ชะลอลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า อย่างไรก็ดี การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม  ราคาคงที่ยังเพิ่มขึ้น ในขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและภาคอุตสาหกรรมปรับตัวลดลงในเดือนกรกฎาคม 2564 เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ขยายตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 13.0 แต่ชะลอลงร้อยละ -16.0 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล ขณะที่การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม  ราคาคงที่ ขยายตัวร้อยละ 10.5 และ1,388.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนและเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล ตามลำดับ สำหรับเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่ และจำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ ขยายตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 5.0 และ 18.7 ตามลำดับแต่ชะลอลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ -21.1 และ -12.4 ตามลำดับ เช่นเดียวกับ เงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการขยายตัวร้อยละ 260.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ชะลอลงร้อยละ -64.2 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล ด้วยจำนวนเงินทุน 674.64 ล้านบาท จากโรงงานเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์พลาสติก (บดหรือย่อยพลาสติกในจังหวัดสระบุรี เป็นสำคัญ นอกจากนี้ หากพิจารณาในด้านความเชื่อมั่นพบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและภาคอุตสาหกรรมปรับลดลงมาอยู่ที่ระดับ39.9 และ 77.8 ตามลำดับ จากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 42.1 และ 80.1 ตามลำดับ

เศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือขยายตัวได้เมื่อเทียบกับปีก่อนแต่ชะลอลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ในขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและภาคอุตสาหกรรมปรับตัวลดลง

ในเดือนกรกฎาคม 2564 เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภค สะท้อนจากภาษีมูลค่าเพิ่ม  ราคาคงที่ และจำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ ขยายตัวร้อยละ 8.9 และ 5.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ชะลอลงร้อยละ-11.8 และ -6.8 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล ตามลำดับ สำหรับเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ ขยายตัวร้อยละ 20.6 แต่เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลชะลอตัวลงร้อยละ -6.1 อย่างไรก็ดี เงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการขยายตัวร้อยละ 253.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และขยายตัวร้อยละ 67.5 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า
หลังขจัดผลทางฤดูกาล ด้วยจำนวนเงินทุน 1.08 พันล้านบาท จากโรงงานผลิตแอสฟัลต์ติกคอนกรีต ในจังหวัดศรีษะเกษ และโรงงานกลึง เจาะ คว้าน กัด ไส เจียร์ชิ้นส่วนอุปกรณ์เครื่องจักร หรือเชื่อมโลหะทั่วไป ในจังหวัดขอนแก่น เป็นสำคัญ ทั้งนี้ ในด้านความเชื่อมั่น พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและภาคอุตสาหกรรมปรับลดลง มาอยู่ที่ระดับ 45.2 และ 69.5 ตามลำดับ จากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 47.1 และ 71.3 ตามลำดับ

เศรษฐกิจ กทมและปริมณฑล ขยายตัวได้เมื่อเทียบกับปีก่อนแต่ชะลอลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ในขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและภาคอุตสาหกรรมปรับตัวลดลงในเดือนกรกฎาคม 2564 เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากภาษีมูลค่าเพิ่ม  ราคาคงที่ และรายได้เกษตรกร ขยายตัวร้อยละ 17.3 และ2.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ชะลอลงร้อยละ -0.6 และ -2.0 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล ตามลำดับ สำหรับเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากเงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการ และจำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่ชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับปีก่อนร้อยละ-78.7 และ -21.3 ตามลำดับ และลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ -74.2 และ-30.9 ตามลำดับ นอกจากนี้ ในด้านความเชื่อมั่นพบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและภาคอุตสาหกรรมปรับลดลง มาอยู่ที่ระดับ 39.3 และ 77.8 ตามลำดับ จากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 41.7 และ 80.1 ตามลำดับ

เศรษฐกิจภาคใต้ชะลอตัวลง ทั้งจากการบริโภคอุปโภคและการลงทุนภาคเอกชน รวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและภาคอุตสาหกรรมที่ปรับตัวลดลง อย่างไรก็ดี หากเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังผลทางฤดูกาล พบว่า
ยังมีปัจจัยบวกจากจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม  ราคาคงที่ และภาคการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นจากจำนวนและรายได้จากการเยี่ยมเยือนชาวต่างชาติโดยมีปัจจัยสนับสนุนจากโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ในเดือนกรกฎาคม 2564 เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากภาษีมูลค่าเพิ่ม  ราคาคงที่ชะลอลงร้อยละ -0.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ขยายตัวร้อยละ 516.7 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล ขณะที่รายได้เกษตรกรขยายตัวร้อยละ 36.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ชะลอลง 

-3.5 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล สำหรับเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการลงทุนภาคเอกชนสะท้อนจากจำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่ และจำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ ขยายตัวในอัตราชะลอลงที่ร้อยละ 8.8 และ 20.9 ตามลำดับ และเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลชะลอตัวลงร้อยละ -4.6 และ -13.5 ตามลำดับ นอกจากนี้ เงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับปีก่อน และเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ -12.2 และ -55.4 ตามลำดับ อย่างไรก็ดี ในเดือนนี้มีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวต่างชาติเพิ่มขึ้นร้อยละ 78.8 ต่อปี ส่งผลให้มีรายได้จากผู้เยี่ยมเยือนชาวต่างชาติเพิ่มขึ้นร้อยละ471.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และขยายตัวร้อยละ 1,063.3 และ 4,096.3 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล ตามลำดับ ทั้งนี้ ในด้านความเชื่อมั่น พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและภาคอุตสาหกรรมปรับลดลงมาอยู่ที่ระดับ 37.4 และ 79.3 ตามลำดับ จากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 39.5 และ 82.0 ตามลำดับ

เศรษฐกิจภาคเหนือชะลอตัวลง อย่างไรก็ดี การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม  ราคาคงที่ยังเพิ่มขึ้น ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและภาคอุตสาหกรรมปรับตัวลดลงในเดือนกรกฎาคม 2564 เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากรายได้เกษตรกร ขยายตัวร้อยละ 10.0 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ชะลองลงร้อยละ -11.4 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล ขณะที่การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม  ราคาคงที่ขยายตัวร้อยละ 0.5 และ 66.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนและเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลตามลำดับ สำหรับเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากเงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการ และจำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่ ชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ -17.6 และ -2.7 ตามลำดับ และชะลอลงจากเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลร้อยละ -60.6 และ -2.3 ตามลำดับ ทั้งนี้ในด้านความเชื่อมั่น พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและภาคอุตสาหกรรมปรับลดลง มาอยู่ที่ระดับ 43.9 และ 57.5 ตามลำดับ จากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 45.8 และ 59.0 ตามลำดับ

เศรษฐกิจภาคตะวันตกชะลอตัวลง อย่างไรก็ดี การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม  ราคาคงที่และรายได้เกษตรกรเพิ่มสูงขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและภาคอุตสาหกรรมปรับตัวลดลงในเดือนกรกฎาคม 2564 เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากภาษีมูลค่าเพิ่ม  ราคาคงที่และรายได้เกษตรกร ชะลอลงร้อยละ -4.6 และ -12.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ขยายตัวร้อยละ253.9 และ 3.3 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล ตามลำดับ สำหรับเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากเงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการ และจำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่ ชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับปีก่อนร้อยละ -95.8 และ -9.7 ตามลำดับ และชะลอลงจากเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลร้อยละ -79.6 และ -6.9 ตามลำดับ นอกจากนี้ หากพิจารณาในด้านความเชื่อมั่น พบว่า 

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและภาคอุตสาหกรรมปรับลดลง มาอยู่ที่ระดับ 39.9 และ 77.8 ตามลำดับ จากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 42.1 และ 80.1 ตามลำดับ