เวิลด์เฟล็กซ์” ยื่นไฟลิ่งขายไอพีโอ 142 ล้านหุ้น
รองรับแผนขยายโรงงานผลิตเส้นด้ายยางยืด
บมจ.เวิลด์เฟล็กซ์ (WFX) ยื่นไฟลิ่งเสนอขายหุ้นไอพีโอจำนวน 142 ล้านหุ้น เตรียมเข้าจดทะเบียน SET เผยจะนำเงินที่ได้ไปใช้ขยายโรงงานผลิตเส้นด้ายยางยืด-คืนหนี้สถาบันการเงิน และใช้เป็นทุนหมุนเวียน เพิ่มศักยภาพในการเติบโตในอนาคต รองรับดีมานด์ลูกค้าทั่วโลก ชี้ยุคโควิดแพร่ระบาดทำให้สินค้าเป็นที่ต้องการเยอะมาก เนื่องจากใช้เป็นส่วนประกอบของอุปกรณ์ทางการแพทย์ เช่น สายคล้องหน้ากากผ้า ยางยืดขอบชุด PPE และหมวกคลุมผมทางการแพทย์ โชว์งบครึ่งปีแรกกำไรพุ่งกระฉูดแตะ 95 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 104.47% จากงวดเดียวกันในปีก่อน
นางสุนิต วิสุทธิโกศล กรรมการผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายวาณิชธนกิจ-ด้านตลาดทุน บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) ที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท เวิลด์เฟล็กซ์ จำกัด (มหาชน) (WFX) เปิดเผยว่าขณะนี้ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (แบบ filling) แบบคำขออนุญาตเสนอหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งแรกต่อประชาชน (IPO) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แล้ว โดยจะเสนอขายหุ้นสามัญจำนวน 142,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท โดยแบ่งการเสนอขายออกเป็น 1.ผู้ถือหุ้นของบริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (TRUBB) ที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรหุ้นไม่เกิน 11,360,000 หุ้น คิดเป็น 8% 2.กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัทฯไม่เกิน 14,200,000 หุ้น คิดเป็น 10% 3.ประชาชนทั่วไปประมาณ 116,440,000 หุ้น คิดเป็น 82%
ทั้งนี้ WFX ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายเส้นด้ายยางยืดชนิดเคลือบแป้งและเส้นด้ายยางยืดชนิดเคลือบซิลิโคน โดยจำหน่ายสินค้าให้กับลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศภายใต้ตราสินค้าของบริษัทฯ ทั้งหมด
นายณัฐ วงศาสุทธิกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เวิลด์เฟล็กซ์ จำกัด (มหาชน) (WFX) กล่าวว่าวัตถุประสงค์การระดมทุนและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯครั้งนี้ บริษัทฯเตรียมนำเงินที่ได้ไปใช้ขยายโรงงานผลิตเส้นด้ายยางยืด คืนหนี้สถาบันการเงิน และใช้เป็นทุนหมุนเวียน เพิ่มศักยภาพในการเติบโต และเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในอนาคต
สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานย้อนหลังในปี (2561-2563) บริษัทฯมีรายได้รวมจำนวน 1,860.92 ล้านบาท 2,045.11 ล้านบาท และ 2,408.66 ล้านบาท ตามลำดับ และมีกำไรสุทธิจำนวน 19.22 ล้านบาท 7.72 ล้านบาท และ 57.81 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 1.03% 0.38% และ 2.40% ตามลำดับ
ส่วนผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 2564 บริษัทฯ มีรายได้รวมจำนวน 1,622.08 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิจำนวน 95.34 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 5.88% โดยกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้าจำนวน 48.71 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 104.47% ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจาก บริษัทฯ ผลิตและจำหน่ายเส้นด้ายยางยืดได้ในปริมาณที่เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 (COVID-19) ส่งผลให้เกิดการเพิ่มขึ้นของอุปสงค์ของเส้นด้ายยางยืดชนิดเคลือบแป้ง ซึ่งเป็นส่วนประกอบของอุปกรณ์ทางการแพทย์ เช่น สายคล้องหน้ากากผ้า ยางยืดขอบชุด PPE และหมวกคลุมผมทางการแพทย์ เป็นต้น ซึ่งการเพิ่มขึ้นของปริมาณการผลิตสินค้ามีส่วนช่วยให้ต้นทุนการผลิตต่อหน่วยของบริษัทฯ ลดต่ำลง และการผลิตสินค้าได้มากขึ้นทำให้เกิดการประหยัดทางขนาด (Economy of Scale)