“DDD” โชว์ผลงานรายได้ครึ่งปีแรก 64 รายได้รวมกว่า 802 ล้านบาท จากยอดขายต่างประเทศเพิ่มขึ้นและปรับกลยุทธ์สู้วิกฤตโควิด-19 รุกช่องทางการขายทางออนไลน์ ดันผลิตภัณฑ์ครีมบำรุงผิวยังฮิตต่อเนื่อง ลุ้นครึ่งปีหลังรักษาระดับเติบโตตามเป้าหมาย
นายปิยวัชร ราชพลสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานบัญชีและการเงิน บริษัท ดู เดย์ ดรีม จำกัด (มหาชน) หรือ DDD เจ้าของแบรนด์ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวสเนลไวท์ เปิดเผยผลการดำเนินงานสำหรับงวด 6 เดือนแรกของปี 2564 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2564 บริษัทฯ มีรายได้รวมทั้งหมด 802.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 240.27 ล้านบาท หรือ 42.73% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของก่อน โดยบริษัทฯ มีรายได้หลักจากการขายรวม 588.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 165.23 ล้านบาท หรือ 39.05% ซึ่งคิดเป็น 73.31% ของรายได้รวม และสัดส่วนรายได้ที่เหลืออีก 26.69% มาจากรายได้อื่นๆ 214.21 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 75.04 ล้านบาท หรือ 53.92% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ทั้งนี้ รายได้จากการขายที่เพิ่มขึ้น มาจากรายได้ส่วนงานธุรกิจผลิตภัณฑ์บำรุงผิว 251.77 ล้านบาท ที่เพิ่มขึ้น 27.35 ล้านบาท หรือ 12.19% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยบวกจากยอดขายในต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น ซึ่งบริษัทฯ ได้ขยายช่องทางการจำหน่ายในต่างประเทศทั้งจำนวนร้านค้าและช่องทางออนไลน์ให้มีความหลายมากยิ่งขึ้น ประกอบกับมีการทำแผนการตลาดของแบรนด์สินค้า Oxe'cure ในประเทศฟิลิปปินส์ ที่ตรงใจกลุ่มผู้บริโภค
สำหรับรายได้จากธุรกิจผลิตภัณฑ์เสริมความงาม มียอดขายอยู่ที่ 336.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 137.89 ล้านบาท หรือ 69.40% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมียอดขายจากการขายในประเทศเป็นหลัก ซึ่งยังคงเป็นผลต่อเนื่องจากการเข้าซื้อกิจการของกลุ่มบริษัท คิวรอน จำกัด ในช่วงปีที่ผ่านมา ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไร
สุทธิอยู่ที่ 119.70 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 77.07 ล้านบาท หรือ 180.76% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยกำไรที่เพิ่มขึ้นนั้น มาจากรายได้จากการขายที่เติบโตขึ้น การบริหารการลงทุนในสินทรัพย์ทางการเงินที่ดี และการลดค่าใช้จ่ายทางการขายและการบริหาร (SG&A) จาก 77 % ของรายได้ในครึ่งปีแรกของปี 2563 เหลือ 65 % ในครึ่งปีแรกนี้
“จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้บริษัทฯ ได้ปรับแผนการตลาดให้สอดคล้องเหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน ทั้งการออกสินค้าใหม่ที่น่าสนใจเหมาะกับพฤติกรรมผู้บริโภค , การปรับช่องทางการจัดจำหน่ายโดยเน้นช่องทางออนไลน์และTelesales ที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการทำตลาดในต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศฟิลิปปินส์ซึ่งได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี สะท้อนให้เห็นจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีแรก ประกอบกับบริษัทฯ มีการควบคุมค่าใช้จ่ายและมีการบริหารต้นทุนในการจัดจำหน่ายที่ดีขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้นตามแผนกลยุทธ์ที่วางไว้ ส่งผลให้บริษัทฯ ยังคงมีความมั่นใจในการบรรลุเป้าหมายการเติบโตที่วางไว้ในช่วงต้นปี ” นายปิยวัชร กล่าว
อย่างไรก็ดี ทางบริษัทฯ ยังมีความเป็นห่วงเกี่ยวกับสถานการณ์ภายในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นข้อจำกัดในการบริการของห้างร้านต่างๆ รวมไปถึงกำลังซื้อของผู้บริโภคที่อาจถดถอย จึงมุ่งเน้นการดำเนินงานที่สอดคล้องกับแผนกลยุทธ์ในการขยายตลาดต่างประเทศ และการบูรณาการการทำงานร่วมกันในแต่ละหน่วยธุรกิจเพื่อให้เกิด syngery ยกตัวอย่างเช่น การเริ่มนำสินค้าแบรนด์ Sparkle ไปทำการตลาดในประเทศฟิลิปปินส์ การจัดทำระบบคลังสินค้ากลาง (Centralized Warehouse) และการรวมทีมงานออนไลน์ เป็นต้น โดยคาดหวังว่าจะช่วยสร้างรายได้ใหม่และลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลงจากปีก่อน