IRPC โชว์ผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2564 กำไรสุทธิ 4,574 ล้านบาท มุ่งปรับตัวทันการเปลี่ยนแปลงด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลออนไลน์ นำ Robotic เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้านการเงิน เดินหน้าเพิ่มสัดส่วนผลิตภัณฑ์ Smart Material รุกผลิตเม็ดพลาสติก PP Meltblown สำหรับอุปกรณ์ทางการแพทย์ พร้อมผนึกลูกค้าและเครือข่ายพันธมิตรเร่งส่งมอบความช่วยเหลือ เพื่อคนไทยก้าวผ่านวิกฤตโควิด–19 นี้ไปด้วยกัน
นายชวลิต ทิพพาวนิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือIRPC เปิดเผยว่า ในไตรมาส 2 ปี 2564 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายสุทธิ 56,858 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 18 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน เป็นผลมาจากราคาขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 16 ตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น และปริมาณขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 2 โดยมีกำไรขั้นต้นจากการผลิตตามราคาตลาด (Market GIM) อยู่ที่ 8,727 ล้านบาท หรือ 15.68 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้นร้อยละ 25 สาเหตุหลักจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ทั้งปิโตรเลียมและปิโตรเคมีส่วนใหญ่ปรับตัวสูงขึ้น และมีกำไรขั้นต้นจากการผลิตทางบัญชี (Accounting GIM) จำนวน 12,234 ล้านบาทหรือ 21.98 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้นร้อยละ 2 ส่งผลให้ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2 มีกำไรต่อเนื่องจากไตรมาสที่แล้วโดยมีกำไรสุทธิ 4,574 ล้านบาท
IRPC มุ่งปรับตัวให้ทันเมกะเทรนด์ของโลก โดยการนำเทคโนโลยีดิจิทัล Robotic Process Automation (RPA) มาใช้งาน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนกลยุทธ์ IRPC 4.0 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ความแม่นยำ และความรวดเร็ว ให้กับกระบวนการทำงานด้านการเงิน อีกทั้งยังช่วยเพิ่มผลิตภาพในการทำงานให้กับพนักงาน (productivity) นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัลไปสู่องค์กรแห่งนวัตกรรมได้อย่างเต็มรูปแบบ
สำหรับความคืบหน้าโครงการผลิตเม็ดพลาสติก PP เกรดพิเศษสำหรับ ผ้า Meltblown ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักสำคัญสำหรับผ้าชั้นกรองหน้ากากอนามัย หน้ากาก N95 ชุดกาวน์ และแผ่นกรองอากาศ จะเริ่มทำการผลิตเพื่อการจำหน่ายในเดือนสิงหาคมนี้ สอดคล้องกับแผนกลยุทธ์ในการขยายธุรกิจด้วยการต่อยอดนวัตกรรมให้เกิดประโยชน์กับประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์ และธุรกิจสุขภาพ สุขอนามัย ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจใหม่ที่ IRPC ให้ความสำคัญโดยเพิ่มสัดส่วนการผลิตเม็ดพลาสติกชนิดพิเศษไปสู่กลุ่ม Smart Material ที่ตอบสนองผู้บริโภคตามวิถี New Normal มากยิ่งขึ้น
แนวโน้มภาวะตลาดน้ำมันดิบในไตรมาส 3 คาดว่าราคาน้ำมันจะยังคงมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นจากไตรมาส 2 เป็นผลมาจากความต้องการใช้น้ำมันโดยรวมที่ยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด–19 ในสหรัฐฯ มีทิศทางที่ดีขึ้น แม้ว่ากลุ่มโอเปกและพันธมิตรจะปรับเพิ่มกำลังการผลิตรวมที่ 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในช่วงเดือนสิงหาคมถึงเดือนธันวาคม 2564 แต่ปริมาณการผลิตส่วนเพิ่มดังกล่าวมีแนวโน้มไม่เพียงพอกับความต้องการที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงจับตามองการแพร่ระบาดของโควิด–19 สายพันธุ์เดลต้า ซึ่งระบาดได้ง่ายในกลุ่มคนที่ไม่ได้รับวัคซีน และอาจส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมันในบางประเทศ
แนวโน้มภาวะตลาดปิโตรเคมีในไตรมาส 3 คาดว่า ความต้องการผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมปิโตรเคมีทั่วโลกจะยังคงได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด–19 รวมถึงการกลายพันธุ์ของเชื้อที่รุนแรงมากขึ้น และจำนวนผู้ติดเชื้อที่มากขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อในโลกมากกว่า 200 ล้านราย โดยภูมิภาคเอเชียมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีกำลังการผลิตเกิดขึ้นใหม่จำนวนมาก ทั้งตามแผนที่วางไว้และแผนที่เลื่อนมาจากปีที่แล้ว ดังเช่นโรงงานปิโตรเคมีในมาเลเซียที่เลื่อนแผนการผลิตจากต้นปีมาเป็นครึ่งปีหลังนี้ หรือ กำลังการผลิตใหม่จากประเทศจีนที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจำนวนมาก ทำให้อุปทานในไตรมาสนี้ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ความต้องการสินค้าอุตสาหกรรมกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า การแพทย์และสุขภาพอนามัย รวมทั้งอุตสาหกรรมยานยนต์จะยังคงอยู่ในระดับสูงตามพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดนี้ อาทิ การทำงานจากที่บ้าน (work from home) การซื้อสินค้าออนไลน์ เป็นต้น ซึ่งเป็นผลดีต่อความต้องการผลิตภัณฑ์กลุ่มโอเลฟินส์ และกลุ่มสไตรีนิกส์
จากการที่วิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศยังคงรุนแรงต่อเนื่อง IRPC จึงได้ร่วมกับพันธมิตรซึ่งเป็นลูกค้าของบริษัทฯ ได้แก่ บริษัท ซัคเซส พลาส จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายแผ่นพลาสติกลูกฟูก บริษัท อาร์เอ็มซี อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายแผ่น PP BOARD บริษัท อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (EPG) บริษัท โมเดิร์น เฟอร์นิเจอร์ จำกัด และบริษัท ฮาตาริ อีคอมเมิร์ซ จำกัด ร่วมส่งมอบชุดจัดตั้งโรงพยาบาลสนามและศูนย์พักคอย อาทิ เตียงสนามพลาสติก ชุดเครื่องนอน ตู้ลิ้นชัก กล่องอเนกประสงค์ และพัดลม โดยได้ส่งมอบไปแล้วทั้งสิ้น 3 แห่งที่จังหวัดระยอง และเตรียมการส่งมอบอีกอย่างน้อย 4 แห่งในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ในช่วงเดือนสิงหาคมนี้
นอกจากนี้ IRPC ยังได้เร่งส่งมอบน้ำมันเชื้อเพลิงให้ฌาปนสถานเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประสบภัยโควิด-19 โดยได้จัดส่งไปแล้วทั้งสิ้น 123 วัด หรือคิดเป็นปริมาณน้ำมันกว่า 24,600 ลิตร ซึ่งโครงการความช่วยเหลือเหล่านี้อยู่ภายใต้โครงการ “We Care by IRPC เราขอเป็นส่วนเล็กๆ ของสังคมไทย ส่งกำลังใจให้คนไทยฝ่าวิกฤตไปด้วยกัน” ที่ได้จัดตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือสังคมในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19