เคทีซีไปต่อ เขย่าแผนธุรกิจสู้โควิด 19 ดันกำไรครึ่งปี 3352 ล้านบาท


 

เคทีซแจกำไรสุทธิครึ่งปีแรกโต 20.1% เท่ากับ3,352 ล้านบาท ส่วนของกำไรสุทธไตรมาส 2 เท่ากับ 1,703 ล้านบาท แม้จะได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ต่อเนื่องมาถึงระลอก โดยใช้ประสบการณ์ปรับลยุทธ์ในการทำธุรกิจเพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ส่งผลให้การดำเนินงานโดยรวมยังผ่านไปได้ดี เงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้แลอกเบี้ยค้างรับรวมเพิ่มขึ้น ในขณะที NPL อยู่ในระดับใกล้เคียงเดิม พร้อมเดินหน้าครึ่งปีหลังขยายธุรกิจสินเชื่อมีหลักประกันให้ครบวงจร รักษาฐานสมาชิกและบริหารคุณภาอร์ตลูกหนี้ ช่วยเหลือผู้เดือดร้อนจากโควิด-19 ร่วมกับองค์กรการกุศลต่างๆ และขยายเวลาช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยจนถึงวันที่ 3ธันวาคม 256ตามมาตรการของธนาคารแห่งประเทศไทย

 

นายระเฑียร  ศรีมงคล  ะธานเจ้าหน้าทบริหาร เคทีซี หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน)กล่าวว่า “ภาพรวมของอุตสาหกรรมสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคในช่วง เดือของปีนี้ยังคงเติบโต ภายใต้สวะเศรษฐกิจที            ไม่แน่นจากการระบาดระลอกใหม่ของไวรัสโควิด-19 สำหรับภาพรวมการดำเนินงานธุรกิจของเคทีซียังผ่านไปได้ดี โดยเรียนรู้จากประสบการณ์มาเป็นเข็มทิศในการปรับแผนลยุทธ์เพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น สิ้นเดือนพฤษภาคม 2564 บริษัทฯ มีการขยายตัวของลูกหนี้บัตรเครดิตเท่ากับ 10.4% (อุตสาหกรรมโต 8.6%) ทำให้เคทีซีมีสัดส่วนของลูกหนี้บัตรเครดิตเทียบกับอุตสาหกรรเท่ากับ 13.7% เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2563 ที่มีสัดส่วน 13.5% ปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเพิ่มขึ้น 5.4% (อุตสาหกรรมโต 2.2%)และสัดส่วนลูกหนี้สินเชื่อบุคคลเทียบกับุตสาหกรรมเท่ากับ 4.7%

 

อย่างไรก็ดีสถานการณ์แพร่รระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างต่อเนื่องถึงระลอก ได้ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อและการจัดหาสมาชิกใหมทำได้ยากขึ้น รวมถึงการเติบโตของพอร์ตลูกหนี้รวมและปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรขยายตัวได้ไม่มาก เคทีซีจึงมีแผนสร้างโมเลธุรกิจขยายตัวไปยังสินเชื่อมีหลักประกันมากขึ้น โดยได้เข้าซื้อหุ้น 75.05% ของบริษัท กรุงไทยธุรกิจลีสซิ่ง จำกัด (KTBL) เมื่อปลายเดือนพฤษภาคม 2564 และภายหลังการตรวจสอบตามเงื่อนไขเสร็จสิ้นในเดือนพฤศจิกายน 2564 KTBL จะเป็นหนึงในบริษัย่อยของเคทีซี

 

สำหรับการดำเนินงานสิ้นสุวันที่ 30ิถุนายน 2564 เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี2563 เคทีซีมีกำไรสุทธิในช่วงครึ่งปีแรก 3,352 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 20.1% และมีกำไรสุทธิในไตรมาส เท่ากับ1,703 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48.2% ซึ่งแม้ว่าบริษัทฯ จะมีรายได้รวมลดลง แต่ยังสามารถริหารจัดการค่าใช้จ่ายรวมให้ต่ำลง จากการลดค่าใ้จ่ายทางการเงินและผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นลดลงไปได้อีกทั้งมีรายได้หนี้สูญได้รับคืนอยู่ในระดับที่ดีขึ้น และรักษาอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อ(NPL) อยู่ในระดับที่ใกล้เคียงเดิม ท่าลางสถานการณ์ที่มีหลายปัจจัยผันแปร จึงเป็นผลให้ไตรมาส ที่ผ่านมา เคทีซีมีสัดส่วนค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานรวมต่อรายได้เพิ่มขึ้นเล็กน้อย มีกำไรก่อนผลขาดทุนดนเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นลดลงที่ -5%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งการมีพอร์ตลูกหนี้คุณภาดี ทำให้ความจำเป็นในการตั้งค่าเผื่อผลขาดทุนที่คาดว่าจะเกิดขึ้นน้อยลงไปด้วย ส่งผลให้กำไรสุทธิของบริษัทฯ เติบโตตามสัดส่วนข้างต้น

 

โดยที่เงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้และดอกเบี้ยค้างรับรวม 89,444 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ฐานสมาชิกรวม 3.3 านบัญชี แบ่งเป็นพอร์ตสมาชิกบัตรเครดิต 2,544,573 บัตร เงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้บัตรเครดิตและดอกเบี้ยค้างรับรวม 55,708ล้านบาท ริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรครึ่งปีแรกเท่ากับ 94,160 ล้านบาท เพิ่มขึ้น

 

 

 

3.9(ไตรมาส มูลค่า 45,739 ล้านบาท ขยายตัว 13.1%) NPL ต่อเงินให้สินเชื่อลูกหนี้รวมอยู่ที่ 4.4%เพิ่มขึ้จาก 1.9% เมื่อเทียบกับไตรมาส ปี 2564จากสาเหตุหลักของการนับรวมพอร์ตลูกหนี้สัญญาเช่าซื้อจาก KTBL ประกอบกับการ      แพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลให้ความสามารถในการชำระของลูกหนี้ลดลง และ NPL ต่อเงินให้สินเชื่อลูกหนี้บัตรเครดิตเท่ากับ 1.5% พอร์ตมาชิกสินเชื่อบุคคลเคทีซี 802,971บัญชี เงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้สินเชื่อบุคคลและดอกเบี้ยค้างรับรวม 29,480 ล้านบาท NPต่อเงินให้สินเชื่อลูกหนี้บุคคลอยู่ที่ 3.0% พอร์ตลูกหนี้ตามสัญญาเช่า 4,255ล้านบาท NPต่อเงินให้สินเชื่อลูกหนี้ตามสัญญาเช่าเท่ากับ 51.7%

 

เคทีซียังสามรถทรายได้รวมในไตรมาส 2/2564 ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าที่ 5,406 ้านบาท แบ่งเป็รายได้ดอกเบี้ยรวม (รวมรายได้<