SONIC เล็งขยับเป้ารายได้ปี 64 ชี้ขนส่งทางเรือเติบโตแกร่ง

โซนิคจ่อปรับเป้ารายได้ปีนี้เพิ่มขึ้นจากเป้าหมายเดิมเติบโต20% รับอานิสงส์การส่งออกสดใส   แถมค่าระวางเรือมีแนวโน้มอยู่ในระดับสูงตลอดทั้งปี หนุนขนส่งทางเรือสัดส่วนรายได้พุ่งเป็น 77%  ขณะที่หุ้น SONIC ติดใน 24 หุ้นที่น่าลงทุนกลุ่ม ESGปี 2564 สะท้อนถึงการเติบโตที่ยังยืน  

ดร.สันติสุข โฆษิอาภานันท์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โซนิค อินเตอร์เฟรท จำกัด (มหาชนหรือ SONIC ผู้นำธุรกิจให้บริการการจัดการระบบโลจิสติกส์แบบครบวงจร เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทมีแนวโน้มเติบโตสูงอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะมีการระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ เนื่องจากการส่งออกทางเรือเริ่มกลับมาสดใส หลังจากที่หลายประเทศ เช่น จีน สหรัฐอเมริกา รวมทั้งยุโรป ได้มีการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ลง ทำให้กิจกรรมทางด้านเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวอย่างชัดเจน  

บริษัทมีโอกาสที่ปรับเป้ารายได้ปี 64 เพิ่มขึ้น  จากเดิมที่ตั้งเป้าว่ารายได้ทั้งปีจะเติบโต 20% แต่จากผลประกอบการไตรมาสแรก ที่ผ่านมารายได้โตกว่า 94 % เกินเป้าค่อนข้างมาก และจากการประเมินสถานการณ์ล่าสุด แนวโน้มธุรกิจโลจิสติกส์ยังสดใสตลอดทั้งปี ส่วน SONIC จะปรับเป้าหมายเพิ่มขึ้นเท่าไหร่นั้น คงต้องรอดูผลประกอบการไตรมาส 2 /64 ก่อน” ดร.สันติสุข กล่าว

สำหรับรายได้หลักของ SONIC มาจากการให้บริการขนส่งสินค้าทางเรือเป็นหลัก  ซึ่งปัจจุบันมีการเติบโตค่อนข้างสูงคิดเป็นสัดส่วนรายได้ 77% จากปีที่ผ่านมามีสัดส่วนรายได้ 65% สืบเนื่องมาจากค่าระวางที่ปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ขนส่งทางอากาศมีสัดส่วนรายได้ไม่ถึง 5% ขนส่งทางบกอยู่ที่ 18% โดยนอกจากฐานลูกค้าเดิมที่ยังให้ความเชื่อมั่นต่อการให้บริการของ SONIC แล้ว  บริษัทยังเดินหน้าขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ ตลอดเวลา

ส่วนความคืบหน้าของธุรกิจการปล่อยสินเชื่อรถหัวลากให้กับกลุ่มพันธมิตร  ภายใต้โมเดล "โลจิสซิ่ง"(โลจิสติกส์+ลิสซิ่งยังคงเป็นไปตามเป้าหมายเดิม 40 คัน ภายในไตรมาส2/2564  ขณะที่การเปิดพื้นที่ให้บริการรับฝากตู้คอนเทนเนอร์ บริเวณแหลมฉบัง ยังเป็นการขยายฐานลูกด้านโลจิสติกส์ รองรับลูกค้าในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC

ดร.สันติสุข กล่าวต่อว่า กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจของบริษัทนอกจากจะมุ่งเน้นการสร้างรายได้ให้มีอัตราการเติบโตที่แข็งแกร่งอย่างยั่งยืนแล้ว บริษัทยังให้ความสำคัญกับการดูแลสังคม สิ่งแวดล้อม และธรรมาภิบาล โดยล่าสุดหุ้นSONIC ได้รับการคัดเลือกจากสถาบันไทยพัฒน์ ให้เป็น 1 ใน 24  หลักทรัพย์จดทะเบียนที่น่าลงทุนในกลุ่ม ESG Emerging ปี 2564  ซึ่งสะท้อนถึงการที่บริษัทให้ความสำคัญกับด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล ควบคู่ไปกับการวางกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจเพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันระยะยาว

การที่หุ้น SONIC ถูกคัดเลือกให้เข้าไปอยู่ในกลุ่ม ESG  มองว่าส่งผลดีต่อภาพลักษณ์ของบริษัท  ซึ่งจะทำให้หุ้นSONIC เป็นที่น่าสนใจของนักลงทุนประเภทสถาบันมากขึ้น  เพราะโดยปกติกองทุนต่างๆ  นอกจากจะเลือกหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานที่ดีแล้ว ยังให้ความสำคัญกับเรื่องธรรมาภิบาล และเราเองก็มีเป้าหมายชัดเจนว่าจะเป็นบริษัทที่มีอัตราการเติบโตที่แข็งแกร่งและยั่งยืน” ดร.สันติสุข กล่าว