BAM อำนวยความสะดวกให้ลูกค้าซื้อทรัพย์ จับมือ Refinn นำเสนอข้อมูลสินเชื่อที่อยู่อาศัยให้กับผู้สนใจซื้ออสังหาริมทรัพย์ของ BAM แบบครบวงจร เพื่ออำนวยความสะดวกและเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าซื้อทรัพย์เลือกสินเชื่อจากสถาบันการเงินที่ตรงตามความต้องการได้ง่ายขึ้น หวังขยายฐานลูกค้า
บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM โดยนายสมบุญ เรืองสุรเกียรติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายจำหน่ายทรัพย์ และนายพงศธร มณีพิมพ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายพัฒนาสินทรัพย์และจำหน่ายทรัพย์ภูมิภาค บริษัท รีฟินน์ อินเตอร์เนชั่นแนล ดอท คอม จำกัด หรือ Refinn โดยนายเพียรไกร อัศวโภคา กรรมการบริษัท และ นายพงศธร ธนบดีภัทร Chief Executive Officer & Co-founder ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจโครงการความร่วมมือ (MOU) ในการพัฒนาธุรกรรมและข้อมูลเกี่ยวกับสินเชื่อที่อยู่อาศัยให้กับผู้สนใจซื้อทรัพย์ BAM
นายสมบุญ กล่าวว่า การลงนามในครั้งนี้ ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของความร่วมมือทางธุรกิจในการพัฒนาธุรกรรมและข้อมูลเกี่ยวกับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยให้กับผู้สนใจ หรือผู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ของ BAM ใช้เป็นช่องทางในการเข้าถึงข้อมูลและเปรียบเทียบเงื่อนไขสินเชื่อจากธนาคารพาณิชย์ หรือสถาบันการเงินต่าง ๆ เพื่อเลือกธนาคารหรือสถาบันการเงินที่มีเงื่อนไขที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้า และสามารถยื่นขอสินเชื่อผ่านช่องทางออนไลน์ไปถึงสถาบันการเงินนั้น ๆ ได้โดยตรง สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ในการอำนวยความสะดวก และให้ข้อมูลทางด้านสินเชื่อ รวมทั้งการยื่นขอกู้ผ่านช่องทางออนไลน์ เป็นบริการให้กับลูกค้าซื้อทรัพย์ BAM แบบครบวงจรมากยิ่งขึ้น Refinn เป็น Fintech Startup ผู้นำทางด้านสินเชื่อออนไลน์ ที่ให้บริการสินเชื่อรีไฟแนนซ์ที่อยู่อาศัย สินเชื่อบ้านแลกเงิน และสินเชื่อบ้านมือสอง ผ่านเว็บไซต์ www.refinn.com โดยทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการรวบรวมโปรโมชั่นสินเชื่อจากธนาคารต่าง ๆ มาเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ย และยอดเงินที่จะประหยัดได้จากดอกเบี้ยที่ลดลง รวมทั้งค่าธรรมเนียม ค่าจดจำนอง และสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่ลูกค้าจะได้รับ ทำให้ลูกค้าสามารถหาสินเชื่อ หรือสถาบันการเงินที่ตรงกับความต้องการมากที่สุด พร้อมยื่นขอสินเชื่อผ่านช่องทางออนไลน์ได้ทันที ปัจจุบัน มีผู้เข้าชมเว็บไซต์ดังกล่าวกว่า 6 ล้านราย โดยมีผู้ยื่นขอสินเชื่อผ่านทาง Refinn.com แล้วเกิน 200,000 ราย มียอดสินเชื่อที่ได้รับอนุมัติแล้วกว่า 10,000 ล้านบาท ช่วยให้ลูกค้าประหยัดดอกเบี้ยเกือบ 7,600 ล้านบาท