เทรนด์อุตสาหกรรมอาหารใหม่ ภายหลังจากองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ ประกาศให้ “แมลงเป็นแหล่งอาหารในอนาคตของโลก” เพื่อแก้ปัญหาความต้องการบริโภคเนื้อสัตว์มากขึ้นจากจำนวนประชากรโลกที่เพิ่มขึ้น จึงไม่แปลกใจที่ปัจจุบันการผลิตแมลงเพื่อรับประทานเติบโตอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับคนไทยที่มีวิถีชีวิตนำ "แมลง" จากธรรมชาติหรือเพาะเลี้ยง มาประยุกต์แปรรูป และรังสรรค์เป็นอาหารมากคุณประโยชน์สามารถรับประทานได้ทุกเพศ ทุกวัย
น.ส.พรพรรณ พรรณราย ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนใบหม่อนฟาร์ม ผู้ผลิตและจำหน่าย จิ้งหรีดทอดกรอบ ตรา“ใบหม่อนฟาร์ม” จ.ลพบุรี เล่าถึงความเป็นมาของธุรกิจว่า เกิดจากความชื่นชอบรับประทานแมลง โดยเฉพาะจิ้งหรีดทอดอยู่แล้ว ทำให้มีแนวคิดสร้างเป็นอาชีพ ลงมือเลี้ยงจิ้งหรีด เพื่อจำหน่าย ทั้งแบบสด, แบบทอดจำหน่ายตามตลาดนัด ซึ่งได้การตอบรับที่ดีจากชาวบ้านในพื้นที่ รวมทั้ง ทำการประชาสัมพันธ์ผ่านเฟซบุ๊ก ใบหม่อนฟาร์ม "BaimonFarm" ทำให้มีคนสนใจสั่งซื้อไปบริโภคเป็นจำนวนมาก กลายเป็นจุดเปลี่ยนให้ธุรกิจดำเนินต่อเนื่องมาจนถึงทุกวันนี้
“กระแสตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค ผ่านการสั่งซื้อผ่านเฟซบุ๊กจำนวนมาก ทำให้เรารับรู้ถึงปัญหา ที่ไม่ได้มองเป็นอุปสรรค แต่คือบททดสอบที่สำคัญนำมาต่อยอดพัฒนาธุรกิจ เพราะเริ่มต้นการขายจิ้งหรีดทอด เรานำมาทอดขาย ผ่านกระบวนการใช้น้ำมันทั่วไป ทำให้เมื่อถึงเวลาจัดส่งสินค้าไปยังผู้บริโภค จิ้งหรีดทอดไม่สามารถคงความกรอบได้ และยังมีกลิ่นเหม็นหืน จึงเห็นสิ่งที่ต้องรีบแก้ไข โดยเข้าไปขอคำแนะนำและปรึกษาจากอาจารย์มหาวิทยาลัยขอนแก่นที่มีความเชี่ยวชาญด้านการแปรรูปแมลง เพื่อเรียนรู้กระบวนการและขั้นตอนในแปรรูปรวมถึงเครื่องมือต่าง ๆ ที่จะนำมาใช้ เพื่อคงความกรอบและรสชาติให้กับจิ้งหรีดของเรา ส่งมอบสินค้าที่มีคุณภาพให้กับผู้บริโภค” น.ส.พรพรรณ ระบุถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์
สำหรับกระบวนการแปรรูปของเรามีการได้ปรับเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด ตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุขโดยใช้เครื่องจักรที่ทันสมัย ผ่านการควบคุมและใส่ใจในทุกขั้นตอนการผลิตที่ได้รับตามมาตรฐาน GMP, มาตรฐาน อย. ด้วยเทคโนโลยีการทอด ระบบหม้อทอดสุญญากาศ และหม้ออบลมร้อน สามารถรีดน้ำมันออกจากจิ้งหรีดได้เป็นอย่างดี พร้อมกับการปรุงแต่งรสชาติ ที่คัดสรรมามากกว่า 10 ชนิด ก่อนที่จะลงตัวและตอบโจทย์ผู้บริโภค 3 รสชาติ ได้แก่ รสต้มยำ, รสสมุนไพร และรสสาหร่าย รวมทั้ง ซีลบรรจุภัณฑ์แน่นหนา และการออกแบบใหม่ที่เข้าถึงทุกกลุ่ม ทุกวัย ทำให้สินค้าของเราคงความอร่อย เต็มไปด้วยโปรตีนชั้นดีจากธรรมชาติ เคี้ยวสนุกจนหยุดไม่อยู่
"กระแสตอบรับจากผู้บริโภคที่มีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้เราเห็นถึงโอกาสในการทำธุรกิจ จึงต้องเพิ่มกำลังการเพาะเลี้ยงจิ้งหรีดให้เพียงพอต่อความต้องการ ประกอบกับชาวบ้านในพื้นที่ให้ความสนใจ จึงจัดตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนใบหม่อนฟาร์มขึ้นมา ซึ่งเราจะรับซื้อจิ้งหรีดจากชาวบ้านทั้งหมด ช่วยให้พวกเขามีรายได้เพิ่มขึ้น" น.ส.พรพรรณ กล่าว
จุดเด่นของจิ้งหรีดทอดกรอบ ตราใบหม่อน คือ คัดสรรวัตถุดิบชั้นดี เจาะจงเป็น “จิ้งหรีดทองแดง” หรืออีกชื่อเรียกว่า “จิ้งโกร่ง” ด้วยคุณสมบัติเฉพาะตัว แม้จะเลี้ยงยากและใช้เวลานาน แต่ได้รับผลผลิตที่คุ้มค่า เพราะให้รสชาติแตกต่างอร่อยกว่าพันธุ์อื่น ๆ ได้รับเนื้อสัมผัสที่ดี สีน้ำตาลอ่อนน่ารับประทาน ประกอบกับการเพาะเลี้ยงจากฟาร์มและลูกฟาร์มตามมาตรฐานของกรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นำมาแปรรูป ด้วยโรงงานตั้งอยู่ในแหล่งวัตถุดิบ ทำให้เราสามารถเลือกวัตถุดิบที่มีคุณภาพในราคาต้นทุนไม่สูง
น.ส.พรพรรณ กล่าวเสริมว่า กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มวัยทำงานที่ให้ความสนใจการรับประทานแมลง มักเป็นขาประจำซื้อซ้ำอยู่เสมอ ทั้งแบบสด ขายกิโลกรัมละ 240 บาท คัดจิ้งหรีดขนาดใหญ่ ไข่เต็มท้อง ใส่บรรจุภัณฑ์แช่แข็ง คงความสะอาดให้กับผู้บริโภค นำไปทอดน้ำมันเพียง 3 นาทีเท่านั้น ก็จะได้จิ้งโกร่งที่กรอบหอมอร่อย นอกจากนั้น ยังมีจิ้งหรีดทอดกรอบสำเร็จรูป ตราใบหม่อน ถุงละ 35 บาท และจิ้งหรีดผง ซึ่งจะนำจิ้งหรีดขนาดเล็ก มาผ่านกระบวนการทำเป็นผงสามารถนำไปผสมอาหารได้หลายรูปแบบ เช่น คุกกี้ ขนมปัง เส้นพลาซ่า เป็นต้น ขายกิโลกรัมละ 850 บาท ผ่านช่องทางจำหน่าย เช่น เฟซบุ๊ก ใบหม่อนฟาร์ม "BaimonFarm" และอีคอมเมิร์ซชั้นนำ shopee, lazada, thailandpostmart เป็นต้น
สำหรับโควิด-19 ระลอก 3 ที่เกิดขึ้น ยอมรับว่า ส่งผลต่อยอดขายของบริษัทพอสมควร จากออเดอร์ที่เคยเข้ามาปรับตัวลดลง ทำให้ต้องปรับเปลี่ยนการสต๊อกสินค้า โดยหารือร่วมกับเกษตรกรที่เพาะเลี้ยงลดการรับซื้อและลดปริมาณการเลี้ยงลง รอวันให้สถานการณ์ดังกล่าวคลี่คลาย และใช้ช่วงเวลานี้ ต่อยอดและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่เพิ่มเติม ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาทำเป็น "จิ้งหรีด ซีเรียล บาร์" หรือจิ้งหรีดผสมกับธัญพืช โดยใช้ความหวานจากน้ำผึ้ง ตอบรับกลุ่มคนที่รักสุขภาพมากขึ้น ตั้งเป้าหมายเปิดตัวประมาณไม่เกินเดือน ก.ย.64 นี้
น.ส.พรพรรณ เผยด้วยว่า ที่ผ่านมา ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank ซึ่งสถาบันการเงินที่ช่วยผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เข้ามาช่วยสนับสนุนพาเข้าถึงแหล่งเงินทุนอัตราดอกเบี้ยพิเศษ ผ่านสินเชื่อเพื่อยกระดับเศรษฐกิจชุมชน ช่วยให้เราสามารถต่อยอดธุรกิจ มีเงินทุนหมุนเวียน และสภาพคล่องที่เพียงพอนำไปรับซื้อวัตถุดิบช่วยสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร รวมทั้งช่วยให้มีเครื่องจักรที่ทันสมัย ทั้งหม้อทอดสุญญากาศ และหม้ออบลมร้อน นำมาผลิตสินค้าที่มีคุณภาพให้กับผู้บริโภคและล่าสุด ยังช่วยให้ธุรกิจของเราได้คู่ค้าใหม่ ๆ ผ่านการพาเข้าจัดกิจกรรมเจรจาธุรกิจ (Business Matching) ที่มีโลตัส SME D Bank และ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ช่วยให้เราสามารถสร้างยอดขายและรายได้เพิ่มขึ้น
แผนธุรกิจในอนาคตที่ตั้งเป้าหมายไว้ คือ การส่งออกจิ้งหรีดไปยังต่างประเทศ เช่น สปป.ลาว เนื่องจากเป็นกลุ่มเป้าหมายที่มีการบริโภคแมลงเป็นจำนวนมากอยู่แล้ว ถือเป็นการเจาะตลาดเพิ่มเติมต่อยอดจากเมียนมาที่ส่งออกไปขายแล้วและได้รับความนิยมเป็นจำนวนมาก รวมถึง อนาคตต้องการเจาะตลาดยุโรป ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาทำผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายจากกลุ่มชาวต่างชาติเพิ่มขึ้น