ก.ล.ต. เผยยอดโครงการ Regulatory Guillotine เดือนเมษายน2564 สำเร็จเพิ่มอีก 10 โครงการย่อย

ก.ล.ต. เดินหน้าดำเนินการโครงการ Regulatory Guillotine ต่อเนื่อง เผยเฉพาะในเดือนเมษายที่ผ่านมามีโครงการสำเร็จแล้วเพิ่มอีก 10 โครงการย่อย ส่งผลให้ยอดโครงการสำเร็จในช่วง เดือนแรกของปี 2564 เพิ่มเป็น 16 โครงการย่อย แลเมื่อเทียบกับวันริเริ่มโครงการเมื่อปี 2563 มียอดโครงการสำเร็จแล้วทั้งสิ้น 31 โครงการย่อย ช่วยลดภาระและต้นทุนดำเนินการของภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องมูลค่ารวม 200 ล้านบาทต่อปี ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ดำเนินโครงการ Regulatory Guillotine โดยมีจุดมุ่งหมายสำคัญเพื่อลดขั้นตอน กระบวนการและเอกสารที่ต้องยื่นต่อ ก.ล.ต. รวมทั้งทบทวนกฎเกณฑ์ให้มีเท่าที่จำเป็นและสอดคล้องกับสภาวการณ์ปัจจุบัน ซึ่งจะช่วยยกระดับความสามารถในการแข่งขันของภาคธุรกิจ ลดต้นทุนดำเนินการของภาคเอกชนและลดภาระของภาคเอกชนและประชาชน สอดคล้องกับหลักการตามมาตรา 77 แห่งรัฐธรรมนูญ ซึ่งจะทยอยดำเนินการให้แล้วเสร็จในช่วงปี 2563 – 2565 นั้น 

 

นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ ก.ล.ต. เปิดเผยว่า เฉพาะเดือนเมษายน 2564 ก.ล.ต. สามารถดำเนินโครงการ Regulatory Guillotine ได้สำเร็จตามเป้าหมายเพิ่มอีก 10 โครงการย่อย ทำให้ เดือนแรกของปี 2564 มีโครงการที่สำเร็จแล้ว 16 โครงการย่อย และนับตั้งแต่ต้นปี 2563 จนถึงสิ้นเดือนเมษายน 2564 มีโครงการที่สำเร็จตามเป้าหมายรวม 31 โครงการย่อย ซึ่งช่วยลดภาระและต้นทุนการดำเนินการของภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องได้แล้ว 199.74 ล้านบาทต่อปี ลดระยะเวลาดำเนินการได้ 87,622 ชั่วโมงต่อปี และลดจำนวนกระดาษได้ 1,697,147 แผ่นต่อปี

 

ทั้งนี้ 10 โครงการย่อยที่ดำเนินการสำเร็จในเดือนเมษายน 2564 ประกอบด้วยโครงการด้านธุรกิจตัวกลางและตลาด 1 โครงการ ด้านธุรกิจจัดการลงทุน โครงการ และด้านการระดมทุน โครงการ เช่น ปรับปรุงกระบวนการและช่องทางการยื่นคำขอจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานให้อยู่ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ การปรับปรุงรูปแบบการจัดส่งข้อมูลเกี่ยวกับ (1ผู้ดูแลผลประโยชน์ (2การตั้งตัวแทนในการขายหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุนและตัวแทนด้านการตลาดกองทุนส่วนบุคคล(3ผู้รับฝากทรัพย์สิน (4การจัดส่งสำเนางบการเงินและรายงานการสอบบัญชีของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และ (5การจัดส่งข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทจัดอันดับกองทุนรวมให้อยู่ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงยกเลิกการจัดส่งข้อมูลบางประเภทจากบริษัทจัดการมายัง ก.ล.ต. เพื่อลดภาระต้นทุนของผู้ประกอบธุรกิจ

 

“ในปัจจุบันมีโครงการที่อยู่ภายใต้การดำเนินการทั้งสิ้น 87โครงการย่อย* ซึ่งจากการประเมินในเบื้องต้นคาดว่า หากแล้วเสร็จครบทุกโครงการ จะช่วยลดภาระและต้นทุนการดำเนินการของภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องได้มากกว่า 23ล้านบาทต่อปี ลดระยะเวลาดำเนินการได้มากกว่า 1.39 แสนชั่วโมงต่อปี และลดจำนวนกระดาษได้มากกว่า 2.03 ล้านแผ่นต่อปี” เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าว