‘เอไอเอ็ม รีท แมนเนจเม้นท์’ ผู้จัดการกองทรัสต์อิสระ ชี้ภาพรวมทรัพย์สินภาคอุตสาหกรรมให้เช่า ทั้งคลังสินค้า อาคารโรงงานและอาคารห้องเย็น ยังมีรายได้เติบโตดีและได้รับผลกระทบน้อยจากสถานการณ์ COVID-19 ในช่วงที่ผ่านมา ประเมินภาพรวมราคาหน่วยทรัสต์กอง REIT ในปัจจุบันยังไม่สอดคล้องกับพื้นฐาน หลังราคาปรับลดลงค่อนข้างมากในช่วงที่ผ่านมา ชูศักยภาพกองทรัสต์ AIMIRT มีอัตราเช่าพื้นที่เต็ม 100%
นายจรัสฤทธิ์ อรรถเวทยวรวุฒิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอไอเอ็ม รีท แมนเนจเม้นท์ จำกัด ผู้จัดการกองทรัสต์อิสระ ในฐานะผู้ก่อตั้งทรัสต์และผู้จัดการกองทรัสต์เอไอเอ็ม อินดัสเทรียล โกรท หรือ กองทรัสต์ ‘AIMIRT’ กล่าวว่า บริษัทฯ เป็นผู้จัดการกองทรัสต์อิสระรายแรกในประเทศไทย ที่บริหารจัดการกองทรัสต์ที่ดำเนินการในรูปแบบอิสระ หรือ Independent Platform โดยไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับบริษัทที่เป็นเจ้าของอสังหาฯ ถือเป็นอีกหนึ่งโซลูชันของผู้ประกอบการ
ทั้งบริษัทมหาชนและบริษัทจำกัดที่มีทรัพย์สินที่มีศักยภาพที่ต้องการระดมทุนผ่านกองทรัสต์ ปัจจุบันมีมูลค่าทรัพย์สินภายใต้การบริหารจัดการรวมทั้งหมดกว่า 10,000 ล้านบาท โดยแบ่งออกเป็นกองทรัสต์ 2 กองทรัสต์ที่ลงทุนในประเภททรัพย์สินที่แตกต่างกัน คือ กองทรัสต์ ‘AIMIRT’ ที่ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ประเภทอุตสาหกรรม และ กองทรัสต์ ‘AIMCG’ ที่ลงทุนในอสังหาฯ ประเภทพาณิชยกรรม หรือ Commercial
ที่ผ่านมามีนักลงทุนสถาบันที่ให้ความมั่นใจและร่วมลงทุนในกองทรัสต์มากกว่า 23 ราย ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่ค่อนข้างสูง และยังมีพันธมิตรทางธุรกิจทั้งบริษัทมหาชนและบริษัทจำกัดกว่า 5 ราย ที่ไว้วางใจนำทรัพย์สินเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกองทรัสต์ที่บริษัทฯ บริหารจัดการอย่างต่อเนื่อง โดยกองทรัสต์ที่กำลังเป็นที่สนใจเป็นอย่างมากในช่วงนี้ คือ กองทรัสต์ ‘AIMIRT’ ที่ลงทุนทรัพย์สินประเภทอุตสาหกรรมภายใต้แนวคิด Innovative เพราะไม่ได้จำกัดการลงทุนแค่อสังหาฯ ประเภทอาคารโรงงานและอาคารคลังสินค้าเท่านั้น แต่ยังเข้าลงทุนในอสังหาฯ ประเภทใหม่ๆ เช่น อาคารห้องเย็น และถังเก็บสารเคมีเหลว จึงมีความหลากหลายของประเภททรัพย์สิน การกระจายตัวของทำเลที่ตั้งของทรัพย์สิน รวมถึงธุรกิจและอุตสาหกรรมของผู้เช่า ซึ่งนำไปสู่ความมั่นคงและมีเสถียรภาพสูงของกองทรัสต์
บริษัทฯ ประเมินภาพรวมทรัพย์สินประเภทอุตสาหกรรมให้เช่า ทั้งอาคารคลังสินค้า อาคารโรงงาน และอาคาร
ห้องเย็นว่ายังคงเป็นธุรกิจที่มีความมั่นคงและมีการเติบโตของรายได้ที่ดี เนื่องจากเป็นธุรกิจที่เติบโตไปพร้อมกับการเติบโตของเศรษฐกิจประเทศและเป็นธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากสถานกาณ์การแพร่ระบาดของโรคCOVID-19 น้อยที่สุดในปีที่ผ่านมา เนื่องจากได้รับอานิสงส์จากการขยายตัวของธุรกิจ E-Commerce โลจิสติกส์อาหาร และสินค้าอุปโภคบริโภคภายในประเทศ ทำให้มีความต้องการเช่าพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยกองทรัสต์ ‘AIMIRT’ ยังคงรักษาอัตราการเช่าเต็ม 100% ตั้งแต่จัดตั้งกองทรัสต์ ทั้งนี้คาดว่าภายหลังการเปิดประเทศ จะทำให้มีความต้องการลงทุนจากนักลงทุนต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น
ในด้านประโยชน์ของผู้ประกอบการในการเลือกใช้ REIT เป็นเครื่องมือทางการเงิน มองว่า REIT เป็นทางเลือกให้กับผู้ประกอบการสามารถระดมทุนผ่านตลาดทุนเพื่อขยายธุรกิจได้ ไม่จำกัดเพียงแค่บริษัทมหาชนเท่านั้น ผู้ประกอบการที่เป็นบริษัทจำกัดที่มีทรัพย์สินที่มีคุณภาพและมีศักยภาพก็สามารถดำเนินการดังกล่าวได้เช่นกัน และยังใช้ระยะเวลาการดำเนินการที่สั้นกว่าการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
“จากความผันผวนของตลาดทุนในช่วงปีที่ผ่านมา ทำให้ภาพรวมราคาหน่วยทรัสต์ของ REIT ในตลาดปรับตัวลดลงค่อนข้างมาก โดยเฉพาะ Industrial REIT ที่ได้รับผลกระทบค่อนข้างน้อยจาก COVID-19 และยังคงมีพื้นฐานที่ดีเมื่อเทียบกับอสังหาริมทรัพย์ประเภทอื่นๆ แต่ราคาปัจจุบันยังไม่สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานของกองทรัสต์ที่มีผลการดำเนินงานที่ดี กล่าวคือ REIT ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ ราคาหน่วยทรัสต์ส่วนใหญ่จึงไม่ได้ปรับตัวขึ้นลงอย่างรวดเร็ว ดังนั้นในช่วงเวลานี้ถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมกับการลงทุนใน REIT เพราะนอกจากจะได้รับผลตอบแทนจากเงินปันผลที่สม่ำเสมอแล้วยังมีโอกาสได้รับประโยชน์จากราคาหน่วยทรัสต์ที่อาจปรับเพิ่มขึ้นในอนาคตด้วย” นายจรัสฤทธิ์ กล่าว