อิ๊กดราซิล กรุ๊ป โชว์กำไรไตรมาส1/64 เติบโต 19% ธุรกิจเกมมาแรงรายได้พุ่งกว่า 141% หลังเปิดขายเกม Home Sweet Home Survive กระแสตอบรับดีเกินคาด ขณะงานโฆษณาและภาพยนตร์ทยานต่อ 48% ส่วนแนวโน้มผลงานทั้งปีตั้งเป้ารายได้เติบโต15-20% ขณะที่บอร์ดไฟเขียวปันผลหุ้นละ 0.08 บาท กำหนดจ่ายเดือนมิ.ย.นี้
นายธนัช จุวิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อิ๊กดราซิล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)หรือ YGGเปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 1/64 บริษัทมีกำไรสุทธิ 15.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.5 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 19% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนหน้าที่มีกำไรสุทธิ 13.2 ล้านบาท ขณะที่มีรายได้รวม 60.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น7.7 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 14% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี2563 ที่มีรายได้รวม 53.1 ล้านบาท
โดยบริษัทมีรายได้มาจากงานโฆษณาและภาพยนตร์จำนวน28.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48.42% เมื่อเทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 19 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯได้รับงานทำโฆษณามากขึ้นซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นงานโฆษณาภายในตัวเกม ขณะที่มีรายได้จากเกมและอินโนเวชั่น 9.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 141.4%จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 4.1 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯได้มีการวางจำหน่ายเกม Home Sweet Home Survive ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2564 ส่วนงานภาพยนตร์แอนิเมชั่น (Animation) ในไตรมาส1/64 บริษัทมีรายได้ 22.7 ล้านบาท ลดลง 24.3% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ จำนวน 30 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทมีพนักงานในส่วนภาพยนตร์บางส่วนได้ถูกโอนย้ายไปช่วยงานเกม Home Sweet Home Survive ทำให้งานภาพยนตร์แอนิเมชั่นที่บริษัทรับงานลูกค้ามานั้น ได้เริ่มงานในเดือนมีนาคม 2564 จึงทำให้บริษัทรับรู้รายได้ไปตามสัดส่วนดังกล่าวในไตรมาส 1/64
นายธนัชกล่าวต่อว่าปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากงานโฆษณาและภาพยนตร์ เท่ากับ 46.3% มีรายได้จากส่วนงานภาพยนตร์แอนิเมชั่น 37.3% และมีรายได้จากส่วนงานเกมและอินโนเวชั่น 16.3% สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2564 ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อิ๊กดราซิล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้โตต่อเนื่อง 15-20% โดยคาดการณ์ว่ารายได้จากธุรกิจเกมมีแนวโน้มที่ดีและมีโอกาสเติบโตสูงขึ้น ซึ่งหลังจากบริษัทฯได้วางจำหน่ายเกม Home Sweet Home Survive ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากนักเล่นเกมทั้งในประเทศและต่างประเทศ ส่วนงานโฆษณาและภาพยนตร์ รวมทั้งงานภาพยนตร์แอนิเมชั่น( Animation) ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากการที่บริษัทได้พัฒนาศักยภาพของทั้งบุคลากรและเทคโนโลยี ให้ทุกงานที่ผลิตออกมามีประสิทธิภาพ จึงทำให้บริษัทได้รับความไว้วางใจจากฐานลูกค้าเดิม ซึ่งเป็นกลุ่มฐานลูกค้าหลัก นอกจากนี้บริษัทยังได้เพิ่มขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ อีกด้วย ซึ่งส่วนใหญ่ยังคงเป็นกลุ่มลูกค้าจากต่างประเทศ
นอกจากนี้ในที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯได้มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในอัตรา หุ้นละ 0.08 บาท เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 14,400,000 บาท โดยมีกำหนดจ่ายเงินปันผลในเดือนมิถุนายน 2564