บมจ.ดีโอดี
ไบโอเทค (DOD) โชว์งบหรูไตรมาส1/64 กำไรส่วนของบริษัทใหญ่กระฉูดโตเกือบเท่าตัวแตะ
55.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 97.15 (YoY) ส่วนรายได้จากการขายอยู่ที่ 411.9 ล้านบาท
เพิ่มขึ้นร้อยละ 20.58 (YoY) ขานรับออเดอร์ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารพุ่งต่อเนื่อง
แห่รอรับดีมานด์ความต้องการผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากกัญชง ส่งซิกข่าวดี อย.
ตอบรับเชิงบวก หลังขอรายละเอียดเพิ่ม กรณีอนุญาตนำเข้าเมล็ดพันธุ์กัญชง
เตรียมรับใบอนุญาตคืนเร็วๆนี้
พร้อมเร่งเดินหน้าสานต่อยื่นขอใบอนุญาตจัดตั้งโรงงานสกัดสาร CBD ทันทีหลังอย.เปิดทาง
นายธนิน ศรีเศรษฐี
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดีโอดี ไบโอเทค จำกัด (มหาชน) หรือ DOD เปิดเผยถึงผลดำเนินงานงวดไตรมาส1/2564
สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2564ว่า กลุ่มบริษัทมีรายได้จากการขาย 411.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 70.3 ล้านบาท หรือ เติบโตร้อยละ 20.58
เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ทั้งนี้เป็นผลมาจากกลุ่มธุรกิจผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเติบโตโดดเด่น
จากคำสั่งซื้อของกลุ่มลูกค้ารายใหญ่ที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง
สอดคล้องกับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพที่ยังคงได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
ซึ่งเป็นผลจากผู้บริโภคหันมาให้ความสำคัญในการดูแลสุขภาพมากขึ้น ทั้งนี้เป็นผลมาจากความเชี่ยวชาญด้านการวิจัยและพัฒนา
(R&D) ในหลายรูปแบบ อาทิ รูปแบบผง , แคปซูล ,
ตอกเม็ด , เจลและเยลลี่
และซอฟเจลในรูปแบบที่เคี้ยวทั้งเมล็ด สามารถตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี
พร้อมกันนี้ด้วยกลยุทธ์เน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต
รวมทั้งควบคุมค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารได้เป็นอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลในไตรมาส1/2564 กลุ่มบริษัทฯมีกำไรจากการดำเนินงาน (Operating Profit) 125.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 57.89 ล้านบาท หรือ เติบโตร้อยละ 85.92
เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่
67.38 ล้านบาท กลุ่มบริษัทฯยังคงมีผลกำไรส่วนของบริษัทใหญ่จำนวน
55.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนจำนวน 27.16
ล้านบาท หรือ เติบโตร้อยละ 97.15 ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าวในข้างต้นเป็นส่วนสำคัญช่วยผลักดันการเติบโตอย่างโดดเด่นให้กับผลประกอบการของบริษัทฯในช่วงไตรมาสนี้
และสามารถต่อยอดไปช่วงไตรมาสถัดไปได้อย่างต่อเนื่อง
ขณะที่กลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใหม่
ประเภทโพรไบโอติกรูปแบบเชื้อจุลินทรีย์ที่มีชีวิต (Active)นั้น
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการเจรจากับกลุ่มลูกค้ารายใหญ่ ที่มีความสนใจส่งออเดอร์การผลิตในเฟสแรก
ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ประเภทผงในซองขนาดเล็ก
3 กรัม ที่พร้อมรับประทานมีกำลังการผลิตอย่างน้อย 1 ล้านซองต่อเดือน รวมถึงอยู่ระหว่างการศึกษาเพิ่มไลน์การผลิตผลิตภัณฑ์ประเภทแคปซูลในเฟสถัดไป
โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปชัดเจนได้เร็วๆนี้
อย่างไรก็ตาม สำหรับความคืบหน้าการพัฒนาธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับพืชกัญชงนั้น
บริษัทฯยังคงแสดงจุดยืนอย่างชัดเจนว่า ต้องการเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการระดับต้นๆในอุตสาหกรรมกัญชงของประเทศไทย
ภายหลังจากคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ประกาศหลักเกณฑ์และอยู่ระหว่างการออกใบอนุญาตให้เอกชนสามารถดำเนินกิจการเชิงพาณิชย์ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
ล่าสุดอยู่ในขั้นตอนรอการตอบรับอย่างเป็นทางการจาก อย.
เพื่อสามารถนำเข้าเมล็ดพันธุ์กัญชงอย่างเป็นทางการเพื่อจัดสรรให้กับกลุ่มเกษตรกร ที่ได้รับใบอนุญาตเพาะปลูก หลังจากก่อนหน้านี้บริษัทฯได้ใบอนุญาตนำเข้าเมล็ดพันธุ์กัญชงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เพียงแต่ทาง อย.จะขอให้บริษัทฯรวมถึงผู้ได้รับใบอนุญาตทุกราย ปรับปรุงรายละเอียดเรื่องการนำเข้าเมล็ดพันธุ์กัญชงเป็นไปตามเงื่อนไขที่อย.กำหนดอีกครั้ง
ซึ่งขณะนี้บริษัทฯได้ยื่นรายละเอียดให้กับ อย.พิจารณาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และได้รับการตอบรับเชิงบวก
ซึ่งคาดว่าจะสามารถได้รับใบอนุญาตคืน เพื่อนำเข้าเมล็ดพันธุ์กัญชงอย่างเป็นทางการได้ในเร็วๆนี้
นอกจากนี้ บริษัทฯพร้อมยื่นขอใบอนุญาตตั้งโรงงานสกัดสาร
CBD
ในการเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์สารสกัดจากกัญชงกับทาง อย.เป็นลำดับต่อไป
เนื่องจากปัจจุบันบริษัทฯมีความพร้อมเรื่องของโรงสกัด และห้องปฏิบัติการ (LAB)
ซึ่งผ่านการรับรองศักยภาพทุกๆด้านตามมาตรฐานหลักสากล