บล. โกลเบล็ก (GBS) ประเมินหุ้นไทยแกว่งตัวผันผวน จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ในประเทศ พร้อมแนะจับตาการประชุม ครม. และการประชุมธนาคารกลางจีน-ธนาคารกลางยุโรป
กำหนดนโยบายทางการเงิน และดอกเบี้ย รวมทั้งการประกาศงบของบริษัทจดทะเบียนนำโดยกลุ่มแบงก์
จึงให้กรอบดัชนี 1,550-1,600 จุด พร้อมแนะกลยุทธ์ลงทุนในหุ้นได้รับประโยชน์จากเงินบาทอยู่ในโซนอ่อนค่า
และหุ้นที่ได้ประโยชน์จาก WFH
นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง
ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวผันผวน โดยมีแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจและผลประกอบการธนาคารที่แข็งแกร่ง
ขณะที่แรงกดดันหลักยังอยู่ที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศ
คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,550-1,600 จุด
อย่างไรก็ตามยังคงจับตาการประชุมครม.
บริษัทจดทะเบียนจะทยอยประกาศผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2564 ออกมานำโดยกลุ่มสถาบันการเงินเป็นกลุ่มแรกที่จะประกาศภายในวันที่
21 เมษายนนี้ ซึ่งคาดว่าส่วนใหญ่จะมีผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นมีแนวโน้มลดน้อยลงจากไตรมาสที่แล้ว
อีกทั้งทางสหรัฐจะมีการรายงานของสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์
เปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
ดัชนีกิจกรรมเศรษฐกิจทั่วประเทศเดือนมี.ค. และยอดขายบ้านมือสองเดือนมี.ค.ส่วนทางธนาคารกลางยุโรป
(ECB) จะมีการประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย
ขณะที่ปัจจัยบวก อาทิ ไตรมาสแรกของปีนี้
เศรษฐกิจจีนขยายตัว 18.3% เมื่อเทียบงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากอุปสงค์ในประเทศและต่างประเทศฟื้นตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งจากฐานที่ระดับต่ำในช่วงต้นปี
2563 และกระทรวงสาธารณสุขรายงานว่าแนวโน้มการแพร่ระบาดของโควิด-19 เริ่มชะลอและลดลงใน 2 สัปดาห์
หลังภาครัฐและหน่วยงานเอกชน Work from Home มากขึ้นตั้งแต่ต้นสัปดาห์นี้
ดังนั้นแนะนำกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทอยู่ในโซนอ่อนค่า
ได้แก่ KCE, HANA, DELTA และ SMT รวมทั้งหุ้นได้ประโยชน์จาก
WFH ได้แก่ COM7-SYNEX-SIS-HMPRO-ILM-ITEL-
INSET-NETBAY
ส่วนทิศทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์
ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล. โกลเบล็ก ประเมินว่า
ราคาทองคำในสัปดาห์นี้ที่ 1,755-1,795 $/Oz หรือคิดเป็นราคาทองคำไทยที่
25,850-26,490
บาทต่อบาททองคำ โดยมีโอกาสปรับตัวขึ้นเนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10
ปีปรับตัวลงแตะระดับ 1.54% ซึ่งต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์
อีกทั้งความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและรัสเซียที่ทวีความรุนแรงขึ้นเป็นผลบวกต่อทองคำเพิ่มเติม
แนะนำ เน้นฝั่ง Long เมื่ออ่อนตัว