“SIMPLY DÉCOR” ติดปีกกระดาษสาบ้านต้นเปา เติมนวัตกรรมในภูมิปัญญาท้องถิ่น เติบโตคู่ชุมชน-สิ่งแวดล้อม

"บ้านต้นเปา.สันกำแพง .เชียงใหม่ เป็นแหล่งผลิตกระดาษสาชื่อดังของไทย สืบทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นมากว่า 100 ปี แต่เมื่อวันเวลาผันผ่านไป ความนิยมใช้กระดาษสาลดน้อยลง  โรงงานผู้ผลิตกระดาษสาในพื้นที่ ต่างทยอยเลิกกิจการ  ปัจจุบันเหลือเพียงแห่งเดียว ได้แก่ บริษัท ซิมพลิ เด็คคอร์ จำกัด ยืนหยัดสานต่อภูมิปัญญาท้องถิ่น ด้วยการเติมนวัตกรรม เพิ่มประโยชน์ใช้สอย ช่วยให้สามารถยืนอยู่ได้ในตลาด ส่งต่อคุณประโยชน์ไปสู่ชุมชน และสิ่งแวดล้อม


ธนากร สุภาษา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซิมพลิ เด็คคอร์ จำกัด เล่าว่า  คุณพ่อบุกเบิกธุรกิจตั้งแต่เมื่อเกือบ 30 ปีที่แล้ว  ผลิตกระดาษสา รูปแบบเป็นแผ่นประดับไม้ใบ และดอกไม้  ส่งให้ผู้ผลิตร่ม และพัด บ้านบ่อสร้าง มีส่วนให้กระดาษสาบ้านต้นเปาเป็นที่รู้จักทั่วประเทศ กระทั่ง เมื่อเข้ามาสานต่อธุรกิจ มองเห็นประเด็นความนิยมของกระดาษสารูปแบบเดิม  นับวันจะลดน้อยลง   รวมถึง ผู้ผลิตขายตัดราคากันเอง  จากอดีตเคยขายได้แผ่นละ 20 บาท เหลือเพียง 8 บาท   ดังนั้น จึงเปลี่ยนจุดยืน เปิดบริษัท ซิมพลิ เด็คคอร์ จำกัด สร้างแบรนด์ PAPA PAPER CRAFT®   เพื่อเป็นผู้ผลิตกระดาษธรรมชาติรูปแบบแปลกใหม่ มุ่งทำตลาดต่างประเทศ ใช้วัสดุพืชที่เหลือใช้จากธรรมชาติ เช่น ใยมะพร้าว ต้นกล้วย ใบไผ่ เปลือกตะไคร้ เปลือกข้าวโพด กากกาแฟ เป็นต้น มาเป็นส่วนผสม พร้อมเติมดีไซน์ เพิ่มประโยชน์ใช้สอย ควบคู่กับยังยึดกระบวนการผลิตแฮนด์เมด คงเสน่ห์ภูมิปัญญาท้องถิ่น  ที่สำคัญผลิตภัณฑ์ทุกตัวเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ย่อยสลายได้รวดเร็ว และยังใช้ทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่อย่างคุ้มค่า  ปัจจัยเหล่านี้ ช่วยให้สินค้าดึงดูดความสนใจจากลูกค้า โดยเฉพาะต่างชาติได้เป็นอย่างดี    

 

ผมเชื่อว่า สินค้ากระดาษมีศักยภาพต่อยอดได้อีกหลายด้าน โดยเฉพาะด้านตอบเทรนด์รักษ์โลก ซึ่งต่างชาติให้ความสำคัญ และผมอยากให้คนไทยให้ความสำคัญเช่นกัน ผมจึงมุ่งต่อยอดกระดาษสาจากแค่เป็นแผ่น มาทำผลิตภัณฑ์ต่าง   เช่น กลุ่มของตกแต่งบ้าน บรรจุภัณฑ์รักษ์โลก  และของขวัญของที่ระลึก วัสดุตกแต่งภายในอาคาร  โดยเราจับมือกับสถาบันการศึกษา และหน่วยงานภาครัฐ สถาบันการเงิน เพื่อช่วยกันผลักดันและสนับสนุนด้านเทคโนโลยีนวัตกรรม การตลาด และการลงทุน

 

ที่ผ่านมา กระดาษเส้นใยธรรมชาติ PAPA PAPER  CRAFT®  มีนวัตกรรมเด่น    เช่น  ไม่ลามไฟเหมาะนำไปทำเป็นวอลเปเปอร์  กระดาษดูดกลิ่นได้ กระดาษกันน้ำ สะท้อนน้ำ หน้ากากอนามัยป้องกันไวรัส กระดาษสาป้องกันโควิด-19และในปีนี้ (2564) กำลังพัฒนาเป็นแผ่นกรองฝุ่น PM2.5 เพื่อใช้ร่วมกับเครื่องปรับอากาศ เครื่องกรองอากาศ เป็นต้น อีกทั้งยังสร้างแอปพลิเคชั่น ชื่อ Simply Decor   มาควบคุมต้นทุนการผลิต และบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า    


ธนากร เสริมต่อว่า ปัจจุบัน โรงงานผู้ผลิตกระดาษเส้นใยธรรมชาติรายอื่น  ในบ้านต้นเปา จังหวัดเชียงใหม่ต่างปิดกิจการไปแล้ว จากทั้งปัญหาความนิยมลดลง ขาดคนรุ่นใหม่สานต่อ ขาดงานออกแบบ แต่จากการปรับตัวเรื่อยมาของ PAPA PAPER  CRAFT® ช่วยให้ยังประคับประคองธุรกิจจนเหลือเป็นโรงงานผลิตเจ้าเดียว ที่ยังมุ่งมั่นจะรักษาภูมิปัญญาท้องถิ่นนี้ให้อยู่คู่บ้านต้นเปา และสร้างงานสร้างรายได้ให้ชาวบ้านที่ยังยึดอาชีพทำกระดาษสาอยู่จำนวนกว่า 300 ครัวเรือน ประมาณ 1,000 ชีวิต  นอกจากนั้น ยังเปิดให้เยาวชนเข้ามาเรียนรู้วิธีการทำ  เพื่อเป็นรายได้เสริมและส่งต่อภูมิปัญญาท้องถิ่นจากรุ่นสู่รุ่นด้วย  

"ที่ผ่านมา ธุรกิจเจอวิกฤตหนักมาแล้วหลายครั้ง ตั้งแต่ครั้งแรก ยุคคุณพ่อเจอวิกฤติต้มยำกุ้ง  ได้รับผลกระทบเรื่องค่าเงินบาท ครั้งที่สองรุ่นผมก็เจอวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์  และน้ำท่วมกรุงเทพฯ ลูกค้ารายใหญ่หยุดชะงักไปหลายราย และล่าสุดเจอการ Digital Disruption และโควิด-19 ซึ่งถือเป็นวิกฤติใหญ่ที่สุดของทุกธุรกิจ และมีผลกระทบค่อนข้างเป็นวงกว้าง คู่ค้ารายหลายปิดกิจการลงไป รวมถึงคำสั่งซื้อลดไปกว่า 40%"

 

อย่างไรก็ตาม ในวิกฤตที่เกิดขึ้น PAPA PAPER  CRAFT® ไม่ได้เดินเดียวดาย  หน่วยงานภาครัฐอย่างสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมกระทรวงอุตสาหกรรมสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ(องค์การมหาชน), สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์(องค์การมหาชน)  และธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank เล็งเห็นในศักยภาพ และประโยชน์จากธุรกิจที่ส่งต่อไปถึงชุมชน และสิ่งแวดล้อม จึงเข้ามาสนับสนุน ทั้งด้านเงินทุน เพื่อลงทุนสร้างเครื่องจักร และเป็นทุนหมุนเวียน ผ่านโครงการสินเชื่อต่าง  และกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ  รวมถึง ช่วยเหลือด้านการตลาด เปิดช่องค้ากับหน่วยงานภาครัฐ(Business to Government : B2G)

เจ้าของธุรกิจหนุ่ม ระบุด้วยว่า บริษัทฯ มีเจตนารมณ์ที่จะดำเนินธุรกิจให้เจริญเติบโตบนพื้นฐานของธรรมาภิบาลและการดูแลรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน รวมทั้งคำนึงถึงผลประโยชน์ของผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม  ภายใต้แนวคิด  "SEED"  หว่านพืชแล้วต้องหวังผล  ประกอบด้วย  S - Sustainable การสร้างความยั่งยืน , E - Ethic  มีจริยธรรม ,  E - Encouragement ส่งเสริมและสนับสนุน  และ D – Development การพัฒนา

 

จากนี้ไปเราจะไม่หยุดพัฒนา เพราะกระดาษอยู่คู่กับโลกใบนี้ ผมจะเดินหน้าเติมนวัตกรรมให้แก่กระดาษเส้นใยธรรมชาติอย่างสม่ำเสมอ  เพื่อให้สินค้าทุกชิ้นแตกต่าง โดดเด่นในตลาด และยังมีส่วนช่วยสร้างรายได้สู่เศรษฐกิจชุมชนบ้านต้นเปา และพื้นที่อื่นๆ ช่วยสานและรักษาไว้ซึ่งภูมิปัญญาท้องถิ่นนี้ให้อยู่คู่ท้องถิ่น ประเทศไทยสืบไป”    นี่คือจุดยืนของบริษัท ซิมพลิ เด็คคอร์ จำกัด  โรงงานผู้ผลิตกระดาษสา กระดาษเส้นใยพืชแห่งสุดท้ายแห่งบ้านต้นเปา