TPCH ส่งสัญญาณปี 64 ผลงานโตโดดเด่น จากการทยอยรับรู้รายได้โรงไฟฟ้าเดิมและโรงไฟฟ้าใหม่ 10 แห่ง พร้อมเตรียม COD โรงไฟฟ้าชีวมวล-ขยะ เพิ่ม 3 แห่ง หนุนกำลังผลิตรวมเพิ่มเป็น 125 เมกะวัตต์ ภายในปีนี้ จ่อออกหุ้นกู้วงไม่เกิน 3,000 ล้านบาท รองรับแผนขยายธุรกิจ
นางกนกทิพย์ จันทร์พลังศรี ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (TPCH) ประกอบธุรกิจหลักโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ที่ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2564 คาดว่าธุรกิจยังเติบโตได้ดี เนื่องจาก ได้รับปัจจัยหนุนจากการทยอยรับรู้รายได้ของการขายไฟเข้าระบบในเชิงพาณิชย์ (COD) ของโรงไฟฟ้าชีวมวลทั้ง 10 แห่ง ประกอบด้วย โรงไฟฟ้าชีวมวล CRB, MWE, MGP, TSG, PGP, SGP , PTG ,TPCH 5 , TPCH 1 และ TPCH 2 กำลังการผลิตรวม 109 เมกะวัตต์
“ในปี 64 นี้ บริษัทฯ คาดว่า ผลการดำเนินงานจะมีการเติบโตไปในทิศทางที่ดี เนื่องจากโรงไฟฟ้าชีวมวลใหม่ที่ COD ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา และต้นปีนี้ จะเริ่มมีความเสถียรมากขึ้น ทำให้สามารถทยอยรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งมั่นใจว่าจะช่วยสนับสนุนผลงานในปีนี้ให้เติบโตตามเป้าหมายที่ 20% จากปีก่อน” นางกนกทิพย์กล่าว
ด้านนายเชิดศักดิ์ วัฒนวิจิตรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (TPCH) กล่าวว่า บริษัทฯ มีแผนที่จะ COD โรงไฟฟ้าในปีนี้เพิ่ม ทั้งโรงไฟฟ้าชีวมวลและโรงไฟฟ้าขยะ จำนวน 3 แห่ง ประกอบด้วย โรงไฟฟ้าขยะสยาม พาวเวอร์ (SP) ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 10 เมกะวัตต์ โครงการโรงไฟฟ้าประชารัฐชีวมวล แม่ลาน ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 3 เมกะวัตต์ และ โรงไฟฟ้าประชารัฐชีวมวล บันนังสตา ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 3 เมกะวัตต์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง เพื่อให้มีกำลังการผลิตรวมอยู่ที่ 125 เมกะวัตต์
“บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าในการเตรียม COD โรงไฟฟ้าทั้งโรงไฟฟ้าชีวมวลและขยะ ให้ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ นอกจากนี้ บริษัทฯ มีความพร้อมในการเข้าร่วมประมูลโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานรากทันทีที่ภาครัฐประกาศให้ผู้ที่สนใจเข้าร่วมประมูลโครงการได้”นายเชิดศักดิ์กล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปี 2563 (สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2563) มีรายได้รวม 1,777.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 135.35 ล้านบาท หรือ 8.2 % เทียบปี 2562 มีรายได้รวม 1,642.02 ล้านบาท ขณะที่มีกำไรสุทธิ 250.95 ล้านบาท
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัทฯ ครั้งที่1/2564 มีมติเห็นชอบให้เสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติการจ่ายเงินปันผลสำหรับปี 2563 ในอัตราหุ้นละ 0.110 บาท เป็นจำนวนเงิน 44.13 ล้านบาท โดยมีกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 7พฤษภาคม 2564 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 20 พฤษภาคม 2564 ทั้งนี้ การจ่ายเงินปันผลดังกล่าวขึ้นอยู่กับการอนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัทในวันที่ 22 เมษายน 2564
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 2/2564 ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา มีมติอนุมัติให้นำเสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติการออกและเสนอขายหุ้นกู้วงเงินไม่เกิน 3,000 ล้านบาท เป็นสกุลเงินบาท และ/หรือ สกุลเงินต่างประเทศในจำนวนเทียบเท่า อายุไม่เกิน 5 ปี นับจากวันที่ออกหุ้นกู้ในแต่ละครั้ง เพื่อเสนอขายต่อผู้ลงทุนโดยทั่วไป และ/หรือผู้ลงทุนรายใหญ่ และ/หรือ ผู้ลงทุนสถาบันในประเทศไทย และ/หรือในต่างประเทศ ตามประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และ/หรือประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และ/หรือประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน และ/หรือกฎระเบียบอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องและมีผลบังคับใช้ในขณะที่ออกและเสนอขายตราสารหนี้
สำหรับวัตถุประสงค์ในการออกหุ้นกู้ เพื่อใช้ในการดำเนินงานหรือเป็นเงินทุนหมุนเวียนและสนับสนุนการดำเนินงานของบริษัท รวมทั้งการขยายธุรกิจ