กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)) เผยกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจของกลุ่มธุรกิจลูกค้าธุรกิจ(Commercial Banking) โดยมุ่งเสริมสร้างประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจด้านลูกค้าธุรกิจ การสร้างระบบนิเวศและพันธมิตรทางธุรกิจ รวมทั้งการขยายธุรกิจสู่ระดับภูมิภาคอาเซียน พร้อมขับเคลื่อนศักยภาพจากการประสานพลังระหว่างความเชี่ยวชาญและเครือข่ายระดับโลกของมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG)เข้ากับจุดแข็งอันโดดเด่นของกรุงศรี เพื่อสนับสนุนโอกาสการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับลูกค้าทุกกลุ่มอุตสาหกรรมและพร้อมอยู่เคียงข้างลูกค้าในทุกสถานการณ์ ซึ่งสอดคล้องกับแผนธุรกิจระยะกลางฉบับใหม่ปี2564-2566 ของธนาคาร โดยกลุ่มธุรกิจลูกค้าธุรกิจยังคงเป้าหมายในการเป็นธนาคารพันธมิตรที่ลูกค้าไว้วางใจ (Trusted banking partner) ตั้งเป้าสินเชื่อธุรกิจในปี 2564 เติบโตอย่างแข็งแกร่งที่ 6%
นายพรสนอง ตู้จินดา ประธานกลุ่มธุรกิจลูกค้าธุรกิจ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ในปี2563 อันเป็นปีที่ท้าทายจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กรุงศรียังคงอยู่เคียงข้างในฐานะพันธมิตรที่พร้อมให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบผ่านหลากหลายมาตรการเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง อาทิ การปรับโครงสร้างหนี้ การพักและชะลอการชำระหนี้ สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำแก่ผู้ประกอบการ SME เป็นต้น และแม้ในสภาพแวดล้อมที่ผันผวนและท้าทายอย่างมาก กลุ่มธุรกิจลูกค้าธุรกิจยังเติบโตด้วยยอดสินเชื่อคงค้างกว่า 632,000 ล้านบาท และยอดเงินฝากกว่า 363,000 ล้านบาท ซึ่งแสดงถึงความไว้วางใจของลูกค้าที่มีต่อกรุงศรี”
ทั้งนี้ กลุ่มธุรกิจลูกค้าธุรกิจกรุงศรีจะขับเคลื่อนธุรกิจด้วย 3 กลยุทธ์หลัก คือ
1. การเสริมสร้างประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจด้านลูกค้าธุรกิจ (Commercial Business Enhancement) ผ่านการสร้างดิจิทัลแพลตฟอร์ม เพื่อเสริมศักยภาพห่วงโซ่ธุรกิจ การประสานผลประโยชน์ร่วมกันของแต่ละกลุ่มลูกค้า ด้วยการใช้ศักยภาพในการวิเคราะห์ข้อมูลและเครือข่ายที่แข็งแกร่งของ MUFG ช่วยขยายโอกาสทางธุรกิจให้ครอบคลุมทุกกลุ่มในห่วงโซ่ธุรกิจให้มากขึ้น
2. การสร้างระบบนิเวศและพันธมิตรทางธุรกิจใหม่ (Ecosystem and Partnership) เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าธุรกิจได้ดียิ่งขึ้นได้อย่างครบวงจร
3. การขยายศักยภาพธุรกิจสู่ระดับภูมิภาคอาเซียน (ASEAN Expansion) เพื่อสนับสนุนโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆให้กับลูกค้าธุรกิจไทยสู่ตลาดอาเซียน
“ปีนี้กรุงศรียังคงเดินหน้าสู่การเป็นธนาคารพันธมิตรที่ได้รับความไว้วางใจสำหรับลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่และวาณิชธนกิจ และเป็นธนาคารหลักสำหรับลูกค้าธุรกิจ SME โดยให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือลูกค้าทุกกลุ่มอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่องในทุกๆ สถานการณ์ ควบคู่ไปกับการดูแลคุณภาพสินทรัพย์ให้อยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง อีกทั้งยังให้ความสำคัญและสนับสนุนหลักการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน (ESG) โดยมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินให้กับธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับ ESG โดยเฉพาะเครื่องมือด้านการระดมทุนผ่านการออกหุ้นกู้เช่น ตราสารหนี้เพื่อความยั่งยืน ตราสารหนี้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ตราสารหนี้เพื่อพัฒนาสังคม เป็นต้น และการจัดหาสินเชื่อที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) เช่น สินเชื่อที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืน หรือ Sustainability-Linked Loan (SLL) เพื่อเป็นทางเลือกให้กับกลุ่มลูกค้าธุรกิจไทย ด้วยการประสานพลังระหว่างความเชี่ยวชาญและเครือข่ายระดับโลกของ MUFG เข้ากับจุดแข็งอันโดดเด่นของกรุงศรี
นอกจากนี้ กรุงศรียังคงเดินหน้าสร้างคุณค่าเพิ่มให้กับลูกค้าผ่านบริการ Krungsri Business Empowerment อย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งแบ่งปันข้อมูลความรู้ การเจรจาจับคู่ธุรกิจ และกิจกรรมที่ช่วยสร้างเครือข่ายและเพิ่มโอกาสทางธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อให้ลูกค้าธุรกิจสามารถนำไปต่อยอดการทำธุรกิจและสร้างความแข็งแกร่งในระยะยาวพร้อมรับมือกับอนาคตที่เปลี่ยนไป โดยปีนี้ธนาคารยังคงเดินหน้าจัดซีรีส์สัมมนาออนไลน์ Krungsri Business Virtual Seminar หรือการจับคู่ธุรกิจทั้งในประเทศและในอาเซียนในรูปแบบออนไลน์เสมือนจริง Krungsri Business Virtual Matching ให้สอดรับต่อสภาพแวดล้อมที่ไม่แน่นอนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19” นายพรสนอง กล่าวเสริม