โครงการเราชนะ เปิดลงทะเบียน 29 ม.ค.-12 ก.พ. รับสิทธิ์คนละ7,000 บาท ครอบคลุมทั่วประเทศ กว่า 31.1 ล้านคนวงเงินรวมกว่า 2.1 แสนล้านบาท ส่งผลจีดีพี 0.5-0.6 %
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2564 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ในคราวประชุมครั้งที่ 2/2564 ตามที่คณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้เสนอ ซึ่งมีโครงการที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงการคลัง ได้แก่ โครงการเราชนะ โดยมีรายละเอียดเงื่อนไขโครงการเราชนะ รัฐบาลจะช่วยเหลือประชาชน 3,500 บาท จำนวน 2 เดือนให้กับกลุ่มเป้าหมายประมาณ 31.1 ล้านคน พร้อมจะเปิดให้ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.เราชนะ.com ในวันที่ 29 มกราคม – 12 กุมภาพันธ์ 2564 สำหรับกลุ่มที่ไม่อยู่ในฐานข้อมูลสามารถตรวจสอบสิทธิ์ผ่านเว็บไซต์ www.เราชนะ.com ได้ตั้งแต่วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2564 ทั้งนี้ คาดการณ์จำนวนผู้ได้รับสิทธิ์โครงการเราชนะ ประมาณ 31.1 ล้านคน ใช้กรอบวงเงินประมาณ 210,200 ล้านบาท
คุณสมบัติ
- ผู้มีสัญชาติไทย 18 ปีขึ้นไป
- ไม่เป็นผู้ประกันตน มาตรา 33
- ไม่เป็นข้าราชการ
- ไม่เป็นข้าราชการกรเมือง
- ไม่เป็นผู้รับบำนาญหรือเบี้ยหวัดจากราชการ
- ไม่มีรายได้เกิน 3 แสนบาท
- เงินฝากทุกบัญชีไม่เกิน 5 แสนบาท
นายอาคม กล่าวเพิ่ม โครงการเราชนะ เป็นการบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากโควิด-19 รอบใหม่ ครอบคลุมทุกกลุ่มอาชีพ โดยเฉพาะรับจ้าง อาชีพอิสระ ผู้มีรายได้น้อย รวมถึงเกษตรกรด้วย โดยผู้ที่ได้รับสิทธิ์จะไม่สามารถเบิกเงินสดได้ โดยต้องนำไปใช้ผ่านระบบเพื่อชำระค่าสินค้า เครื่องดื่ม อาหาร และบริการ โดยโครงการเราชนะ การใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลมือถือ เพื่อรับโอนเงิจากรัฐบาล เป็นการลดภาระการต่อคิวกดเงินสดผ่านตู้เอทีเอ็ม วิธีการดำเนินงานมีกลุ่มเป้าหมาย 3 กลุ่ม ดังนี้
1. กลุ่มบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ไม่ต้องลงทะเบียนได้รับสิทธิ์ทันที ซึ่งผู้ที่มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาท จะได้รับเพิ่มสัปดาห์ละ 675 บาทต่อสัปดาห์ หรือ 2,700 บาทต่อคนต่อเดือน บาท ส่วนกลุ่มที่เกิน 30,000 บาท แต่ไม่เกิน 1 แสนบาท จะได้รับเงินเพิ่มเป็น 700 บาทต่อสัปดาห์ หรือคิดเป็น 2,800 ต่อเดือน จะโอนเงินให้สัปดาห์ละครั้ง โอนเงินเข้าครั้งแรก 5 ก.พ. จนกว่าจะครบ 7,000 บาท
2. กลุ่มที่อยู่ใน G-wallet เช่น ผู้ที่ลงทะเบียนคนละครึ่ง เราเที่ยวด้วยกัน ไม่จำเป็นต้องลงทะเบียน แต่จะต้องกดConsent เพื่อให้รัฐเข้าไปตรวจสอบข้อมูลในเรื่องของรายได้เพิ่มเติม โดยผู้ที่มีสิทธิ์จะต้องมีเงินฝากในบัญชีไม่เกิน500,000 บาท โดยเมื่อตรวจสอบแล้วผู้ได้รับสิทธิ์จะได้รับเงินเข้าเป๋าตังเช่นเดียวกัน โดยจะได้เป็นรายสัปดาห์สัปดาห์ละ 1,000 บาท โดยจะเริ่มจ่ายครั้งแรกในวันที่ 18 ก.พ.นี้
3. กลุ่มไม่มีข้อมูลในระบบ เช่น ไม่ได้ลงทะเบียนในโครงการคนละครึ่ง หรือประชาชนที่ไม่ได้มีฐานข้อมูล จะเปิดให้ลงทะเบียนใน www.เราชนะ.com ซึ่งจะเปิดให้ลงทะเบียนวันที่ 8 ก.พ. โดยจะโอนเงินช่วยเหลือทุกวันพฤหัสของสัปดาห์โดยจะเริ่มจ่ายงวดแรกวันที่ 18 ก.พ. เป็นต้นไป
ช่องทางการรับเงิน “โครงการเราชนะ”
กลุ่มที่ 1 โอนเงินให้สัปดาห์ละครั้งเริ่มวันที่ 5 ก.พ. จนกว่าจะครบ 7,000 บาท
กลุ่มที่ 2 จ่ายเงินรายสัปดาห์ละ 1,000 บาท 18 ก.พ. โอนเงินครั้งแรก
กลุ่มที่ 3 เปิดให้ลงทะเบียน 8 ก.พ. โอนเงินให้วันพฤหัสทุกสัปดาห์ โอนเงินงวดแรก 18 ก.พ.
สำหรับร้านค้าสามารถใช้สิทธิ์โครงการเราชนะ ซื้อสินค้าและบริการ ที่ร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ , ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง และ ร้านค้าผู้ให้บริการเข้าร่วมโครงการ เราชนะ สำหรับระยะเวลาการใช้เงินได้ถึง 31 พฤษภาคม2564 หากใช้สิทธิไม่หมดไม่มีสิทธิใช้เงินต่อ และผู้ที่ไม่ได้อยู่ในฐานข้อมูลดังกล่าวสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ผ่านเว็บไซต์ www.เราชนะ.com ได้ตั้งแต่วันที่ 29 มกราคม - 12 กุมภาพันธ์ 2564 ในช่วงเวลา 06.00 – 23.00 น. ทั้งนี้ สำหรับร้านค้าและผู้ให้บริการที่สนใจสามารถลงทะเบียนผ่านwww.เราชนะ.com ตั้งแต่วันที่ 29 มกราคม - 31 มีนาคม 2564
นายอาคม กล่าวเพิ่มเติมโครงการคนละครึ่งทั้ง 2 ระยะ จะมีเม็ดเงินหมุนเวียนอยู่ในระบบเฟสละ 60,000-70,000 ล้านบาท ขณะที่โครงการเราชนะ วงเงิน 21,200 ล้านบาท ใช้ได้ถึงเดือนพฤษภาคม ซึ่งมีเงินหมุนอยู่ในระบบแน่นอนถึง 200,000 ล้านบาท และหมุนแบบทวีคูณ โดยประมาณการว่าจะมีผลต่อจีดีพี 0.5-0.6 % ต่อจีดีพี รวมกับโครงการคนละครึ่งจะเกิดการบริโภคภายในประเทศเป็น 1 เปอร์เซ็นต์ต่อจีดีพี กลับเข้ามาสู่ระบบ ซึ่งมองว่าเป็นเศรษฐกิจชาวบ้าน ให้เป็นกำลังซื้อที่สำคัญ เพราะดีมานด์ต่างประเทศด้านท่องเที่ยวยังไม่มีเข้ามา