เมืองไทยประกันชีวิต อำนวยความสะดวกช่องทางแจ้งความประสงค์เพื่อใช้สิทธิลดหย่อนภาษี



นายสาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภายใต้นโยบาย MTL Everyday Life Partner ที่พร้อมเดินเคียงข้างในทุกช่วงของชีวิต ด้วยบริการที่ครบครัน ให้ลูกค้าเลือกใช้บริการได้ตามไลฟ์สไตล์ที่ชื่นชอบ ทั้งแบบ Face to face หรือ Self-Service ผ่านช่องทาง Digital หรือ Non-Digital อาทิ บริการ Video Call ที่เสมือนยกศูนย์บริการลูกค้ามาไว้ในมือคุณ โดยลูกค้าสามารถทำธุรกรรมต่างๆ ได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน สามารถซื้อหรือสอบถามเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของเมืองไทยประกันชีวิตผ่านเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ แบบ Real Time รวมไปถึงการพัฒนาแอปพลิเคชัน MTL Click ที่รวบรวมทุกบริการของเมืองไทยประกันชีวิตเอาไว้อย่างครอบคลุม ทั้งหมดนี้เพื่อการส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดในทุก Journey ของลูกค้า นอกจากนี้บริษัทฯ ยังคงตระหนักถึงความรับผิดชอบในการดูแลสิทธิประโยชน์ของลูกค้า ทั้งในด้านความคุ้มครองตามกรมธรรม์ ตลอดจนสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่ลูกค้าพึงได้รับ

 

ทั้งนี้ ตามที่กรมสรรพากรกำหนดให้ผู้มีเงินได้ที่ต้องการใช้สิทธิลดหย่อนภาษีจากเบี้ยประกันภัย ต้องแจ้งความประสงค์ให้กับบริษัทประกันชีวิต เพื่อให้บริษัทประกันชีวิตนำส่งข้อมูลการชำระเบี้ยประกันภัยให้กับกรมสรรพากรนั้น เมืองไทยประกันชีวิตจึงพร้อมอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า ด้วยหลากหลายช่องทางการแจ้งความประสงค์ อาทิ ศูนย์บริการลูกค้าเมืองไทยประกันชีวิตทุกสาขาทั่วประเทศ (ในวันและเวลาทำการ) หรือแจ้งออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.muangthai.co.th หรือแอปพลิเคชันMTL Click ทั้งนี้ สำหรับผู้เอาประกันภัยที่ซื้อประกันสุขภาพ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2561 เป็นต้นไป และสำหรับผู้เอาประกันภัยที่ซื้อประกันชีวิต ประกันชีวิตแบบบำนาญ และประกันสุขภาพบิดามารดาของผู้มีเงินได้และคู่สมรส ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563เป็นต้นไป จะต้องแจ้งความประสงค์ให้กับบริษัทเพื่อให้บริษัทฯ นำส่งข้อมูลการชำระเบี้ยประกันภัยรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ให้กับกรมสรรพากร มิเช่นนั้นลูกค้าจะไม่สามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีจากเบี้ยประกันภัยได้ โดยหลังจากที่ลูกค้าได้ทำการแจ้งความประสงค์แล้ว บริษัทฯ จะนำส่งข้อมูลการชำระเบี้ยประกันภัยของคุณให้กับกรมสรรพากรโดยอัตโนมัติทุกปี อนึ่ง บริษัทฯ จึงขอยกเลิกการจัดส่ง

หนังสือรับรองการชำระเบี้ยประกันภัยรูปแบบกระดาษ ตั้งแต่ปีภาษี 2564 เป็นต้นไป ซึ่งหากลูกค้าเคยแจ้งความประสงค์ต่อบริษัทฯ แล้ว ไม่ต้องแจ้งความประสงค์อีกในปีภาษีปัจจุบัน

“จุดยืนในการมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำด้านการประกันชีวิตและสุขภาพของเรา ไม่ใช่แค่เข้าใจว่าลูกค้าต้องการอะไร แต่เราจะคิดเผื่อไปมากกว่านั้น และสิ่งที่เรานำมามอบให้แก่ลูกค้า ไม่ใช่แค่เรื่องของประกัน การเคลม หรือการติดต่อตัวแทนประกันชีวิต แต่เป็นการดูแลลูกค้าผ่านผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลาย ที่ถูกออกแบบโดยการคิดเผื่อรอบด้านเพื่อตอบโจทย์ความต้องการในทุกช่วงชีวิต” นายสาระ กล่าว