บมจ. โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ (NOBLE) รับศักราชใหม่ ดีเดย์วันที่ 7 มกราคม 2564 เทรดหุ้นพาร์ใหม่หุ้นละ 1 บาท จากเดิมหุ้นละ 3
บาท หวังเพิ่มสภาพคล่องการซื้อขายบนกระดาน เล็งขยายฐานนักลงทุน และสถาบันทั้งในประเทศ-ต่างประเทศ พร้อมปูทางเข้าคำนวณในดัชนี SET100 Index ส่วน NOBLE – W2 จ่อเทรดสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนมกราคมนี้ ตอกย้ำ 30 ปี “Noble” ปีทองแห่งการเปลี่ยนแปลงสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต
นายธงชัย บุศราพันธ์ ประธานกรรมการ
และประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)
หรือ NOBLE
ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์โครงการที่อยู่อาศัยในทำเล ชั้นนำของกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่
7 มกราคม 2564 เป็นต้นไป หลักทรัพย์ของบริษัทจะเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่ราคาพาร์ใหม่
หลังจากได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้นอย่างเป็นเอกฉันท์ในที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่
1/2563 เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม
2563 ที่ผ่านมา มีมติให้เปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นของบริษัทฯ
ที่ตราไว้ (Par Value) จากเดิมหุ้นละ 3 บาท เป็นหุ้นละ 1 บาท
เพื่อเพิ่มสภาพคล่องของการซื้อขายหุ้นของบริษัทฯ แก่นักลงทุน
โดยจำนวนหุ้นสามัญของบริษัทฯ จะเพิ่มขึ้นจาก 456,471,175 หุ้น
มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 3 บาท เป็น 1,369,413,525 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท
สำหรับการเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ในครั้งนี้
จะส่งผลดีต่อการเพิ่มจำนวนผู้ถือหุ้นรายย่อย (Free Float) และเพิ่มสภาพคล่องในการซื้อขายหุ้นของบริษัทฯ
ให้แก่นักลงทุน และเป็นปัจจัยในการส่งเสริมให้บริษัทฯมีคุณสมบัติครบถ้วนในการได้รับการพิจารณาเข้าคำนวณในดัชนี
SET100 Index
นอกจากนี้ ยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 2564 เป็นวาระครบรอบ 30 ปี ตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทฯมาในปี 2534 ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญของ “Noble” จะเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงสู่การเติบโต
และแผนการลงทุนพัฒนาโครงการ โดยมีมูลค่ากว่า 45,100 ล้านบาท
ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ รวมถึงได้มีการปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่ ทั้ง 3
รายของบริษัทฯ ในปัจจุบันถือหุ้นรวมกันประมาณ 50% ประกอบด้วย 1. นาย ธงชัย บุศราพันธ์ 2. NCROWNE PTE LTD. นำโดยนายแฟรงค์
ฟง คึ่น เหลียง และ 3. บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)
ซึ่งเป็นการตอกย้ำศักยภาพการบริหารงาน และความเป็นมืออาชีพที่มีความเชี่ยวชาญ
ในแต่ละอุตสาหกรรม เพื่อสอดรับกับนโยบายการก้าวสู่ TOP 5
ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไทยภายในอีก 3 ปีข้างหน้า
พร้อมทั้งเชื่อว่าจะเป็นการสร้างสีสันความน่าสนใจในการเข้ามาลงทุนให้แก่นักลงทุนในประเทศ
รวมถึงนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศมากขึ้น
ด้านนายอรรถวิทย์ เฉลิมทรัพยากร
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการเงิน “Noble” กล่าวเพิ่มเติมว่า
สำหรับความแข็งแกร่งทางฐานะทางการเงินในปี 2564 บริษัทฯ
ได้ตั้งงบลงทุนเพื่อการพัฒนาโครงการต่าง ๆ ทั้งโครงการที่พัฒนาโดยบริษัทฯและโครงการร่วมทุนไว้แล้วกว่า
9,000 ล้านบาท โดยมีอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อส่วนของทุน
ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2563 ที่ 1.28 เท่า
นอกจากนี้ ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญใหม่ของบริษัทฯครั้งที่
2 หรือ NOBLE-W2 จำนวน 342.35 ล้านหุ้นให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯในอัตราส่วน
4 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ และจะเริ่มเทรดสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนมกราคม
2564 นี้ โดยวอร์แรนท์ดังกล่าวมีอายุ 3 ปีและสามารถเริ่มใช้สิทธิได้หลังครบ 1 ปี
นับแต่วันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ (เริ่มใช้สิทธิครั้งแรกได้ในเดือนมิถุนายน 2565
โดยราคาแปลงสิทธิที่ 8 บาท) รองรับการอัตราการเติบโตของธุรกิจในระยะเวลา 3 ปีข้างหน้า
“
การออกวอร์แรนท์ในครั้งนี้ เพื่อใช้เป็นเงินลงทุนในอนาคต ตามแผนนโยบายของบริษัทฯ
ที่พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจและช่วยเสริมฐานเงินทุนให้แข็งแกร่งมากขึ้น สำหรับแผนการรองรับและต่อยอดการพัฒนาโครงการใหม่ๆในอีก
3 ปีข้างหน้า เพื่อก้าวสู่ผู้นำ Top 5 ของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยตามวิสัยทัศน์ของคณะผู้บริหารที่วางไว้
”