คปภ. เร่งช่วยเหลือด้านประกันภัยกรณีรถกระบะเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ เสียชีวิต 3 ราย ที่จังหวัดพัทลุง

ดร. สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า จากกรณีการเกิดอุบัติเหตุรถกระบะหมายเลขทะเบียน บฉ 4122 พัทลุง เฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์หมายเลขทะเบียน 1กข 5818 พัทลุง บริเวณถนนสายลานข่อย-เขื่อนห้วยน้ำใส (หน้าล่องแก่งหนานมดแดง) ตำบลลายข่อย อำเภอป่าพะยอม จังหวัดพัทลุง เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2564 เวลาประมาณ 16.55 น. เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต จำนวน 3 ราย โดยผู้เสียชีวิตทั้งสามรายเป็นเด็กอายุ 2 ปี 11 ปี และ 15 ปี ในเบื้องต้น เลขาธิการ คปภ. ได้สั่งการให้สายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ และสายกลยุทธ์องค์กร บูรณาการการทำงานร่วมกับสายส่งเสริมและประกันภัยภูมิภาค โดยสำนักงาน คปภ. ภาค 9 (สงขลา) และสำนักงาน คปภ. จังหวัดพัทลุงได้เร่งติดตามและตรวจสอบการจัดทำประกันภัยรถทั้งสองคันที่ประสบอุบัติเหตุ ว่า มีการทำประกันภัยประเภทใดไว้บ้าง เพื่อช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกในการนำระบบประกันภัยเข้าไปเยียวยาความสูญเสียที่เกิดขึ้นให้กับครอบครัวของผู้ประสบภัยในครั้งนี้


ทั้งนี้ ได้รับรายงานจาก สำนักงาน คปภ. ภาค 9 (สงขลา) และสำนักงาน คปภ. จังหวัดพัทลุง ว่ารถยนต์หมายเลขทะเบียน บฉ 4122 พัทลุง มี นายกฤษดา เมืองชุม เป็นผู้ขับขี่ ได้ทำประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ไว้กับบริษัท ไทยเศรษฐกิจประกันภัย จำกัด (มหาชน) ตามกรมธรรม์เลขที่ MCP-CTP-5687735 เริ่มความคุ้มครองวันที่ 6 มกราคม 2563 สิ้นสุดวันที่ 6 มกราคม 2564 โดยคุ้มครองกรณีเสียชีวิตสูงสุดไม่เกิน 500,000 บาท และประกันภัยภาคสมัครใจ (ประเภท 1) กับ บริษัท ธนชาตประกันภัย จำกัด (มหาชน) ตามกรมธรรม์เลขที่ 404-20-2100-000181 เริ่มความคุ้มครอง วันที่ 6 มกราคม 2563 สิ้นสุดความคุ้มครอง วันที่ 6 มกราคม 2564  โดยคุ้มครองความรับผิดต่อชีวิต ร่างกาย อนามัย ของบุคคลภายนอก 300,000 บาท/คน 10,000,000 บาทต่ออุบัติเหตุแต่ละครั้ง ทรัพย์สินของบุคคลภายนอก 1,000,000 บาท คุ้มครองอุบัติเหตุส่วนบุคคลกรณีสูญเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพถาวร (ผู้ขับขี่/ผู้โดยสาร 2 คน) 50,000 บาท/คน ค่ารักษาพยาบาล 50,000 บาท/คน ประกันตัวผู้ขับขี่ 200,000 บาท ส่วนรถจักรยานยนต์หมายเลขทะเบียน 1กข 5818 พัทลุง ซึ่งมี นายอธิศ ช่วยขำ เป็นผู้ขับขี่ เด็กหญิงปารณีย์ การปลื้มจิตร์ และเด็กชายวัยวัฒน์ การปลื้มจิตร์ เป็นผู้โดยสาร ได้เสียชีวิตทั้ง 3 ราย โดยรถคันดังกล่าวทำประกันภัยภาคบังคับ (พ.ร.บ.) กับ บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด ตามกรมธรรม์เลขที่ 8193063279837176 เริ่มความคุ้มครองวันที่ 13 สิงหาคม 2563 สิ้นสุดวันที่ 13 สิงหาคม 2564 โดยคุ้มครองกรณีเสียชีวิตสูงสุดไม่เกิน 500,000 บาทต่อคน  สำนักงาน คปภ. ได้ประสานงานบริษัทผู้รับประกันภัยที่เกี่ยวข้อง โดยบริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัย จำกัด ผู้รับประกันภัยรถจักรยานยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ได้จ่ายค่าสินไหมทดแทนสำหรับค่าปลงศพให้แก่ทายาทผู้เสียชีวิต จำนวน 3 ราย รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,035,000 บาท เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 2 มกราคม 2564 แยกเป็น ทายาทผู้เสียชีวิตที่เป็นผู้โดยสารรถจักรยานยนต์ จำนวน 2 ราย รายละ 500,000 บาท เป็นเงิน 1,000,000 บาท ส่วนทายาทผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ที่เสียชีวิต ในเบื้องต้นจะได้รับค่าเสียหายเบื้องต้น จำนวน 35,000 บาท โดยมีนายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ให้เกียรติเป็นประธานมอบค่าสินไหมทดแทนให้แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต ณ วัดนาวง อำเภอศรีนครินทร์ จังหวัดพัทลุง สำหรับค่าสินไหมทดแทนตามสัญญาประกันภัยรถยนต์นอกเหนือจากนี้ ต้องรอผลคดีจากพนักงานสอบสวนว่าฝ่ายใดเป็นฝ่ายประมาท และหากตรวจสอบพบภายหลังว่าผู้ประสบภัยมีการทำประกันภัยประเภทอื่นๆ เช่น กรมธรรม์ประกันชีวิต กรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุ ฯลฯ จะได้รับค่าสินไหมทดแทนเพิ่มเติมตามสัญญาประกันภัยที่ระบุไว้อีกด้วย


"สำนักงาน คปภ. ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุดังกล่าว อุบัติเหตุอาจเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลาและทุกสถานที่ จึงขอฝากเตือนประชาชน ควรใช้รถใช้ถนนด้วยความระมัดระวัง โดยเฉพาะเส้นทางการจราจรที่ไม่คุ้นเคย เพื่อลดความเสี่ยงต่อการสูญเสียที่จะเกิดขึ้นได้ รวมทั้งเตรียมสภาพร่างกายให้มีความพร้อมในระหว่างการใช้รถใช้ถนน และหมั่นตรวจสอบสภาพรถยนต์อย่างสม่ำเสมอ ควรให้ความสำคัญกับการทำประกันภัย เพื่อช่วยบริหารความเสี่ยงภัย ตลอดจนตรวจวันหมดอายุกรมธรรม์ประกันภัยรถภาคบังคับ (ประกันภัย พ.ร.บ.) ตามที่กฎหมายกำหนด รวมทั้งควรทำประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ ประกันอุบัติเหตุ และประกันชีวิตอื่นๆ ด้วย เพื่อที่ระบบประกันภัย จะได้เข้ามาช่วยบริหารความเสี่ยงและเยียวยาความสูญเสียต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ และหากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการประกันภัยสามารถสอบถามได้ที่ สายด่วน คปภ. 1186” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย