ซินเน็คฯ บริษัทไอทีชั้นนำเบอร์หนึ่งของประเทศ แถลงภาพรวมตลาดไอทีปี 63 ท้าทาย แต่สามารถบริหารจัดการได้อย่างดีเยี่ยม เนื่องจาก สินค้าเทคโนโลยีเหล่านี้กลายเป็นปัจจัยสำคัญในการใช้ชีวิต และใช้ประโยชน์ในการทำงานรับวิถีใหม่ผู้บริโภค รวมถึง กระแส 5G เข้ามากระตุ้นความต้องการเปลี่ยนอุปกรณ์สื่อสาร พร้อมย้ำภาพตลาดเกมมิ่ง ไอโอที และสมาร์ทดีไวซ์ต่างๆ จะได้รับการตอบรับอย่างโดดเด่นในปี 64 เนื่องจากเรากำลังอยู่ในยุคของเทคโนโลยีที่มีการเติบโตสูง แม้ปีนี้เผชิญวิกฤติโควิด-19 รายได้ทั้งปีอาจทำได้ใกล้เคียงปีก่อน แต่กำไรสามารถเติบโตต่อเนื่องในทุกไตรมาส
คุณสุธิดา มงคลสุธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (SYNEX) ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าไอทีชั้นนำระดับโลกหลากหลายประเภท เปิดเผยถึง ภาพรวมธุรกิจไอทีปี 2563 มองว่ามีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ภาพรวมสถานการณ์ทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทย ต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และความท้าทายในการบริหารองค์กรท่ามกลางวิกฤติที่ร้ายแรงในปีนี้ แต่ทว่าสินค้าเทคโนโลยีเป็นปัจจัยสำคัญในการใช้ชีวิต ทำให้ยังคงได้รับการตอบรับที่ดีแม้ในช่วงที่มีการปิดล็อกน์ดาวน์ (Lockdown) ขณะที่ สินค้าบางรายการกลับมีความต้องการที่สูงขึ้น อาทิ สินค้ากลุ่มอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และโน๊ตบุ๊ค สินค้ากลุ่ม Tablet/iPad เพื่อใช้สำหรับ Work from home และกลายเป็นวิถีใหม่ผู้บริโภคสามารถทำงานได้ทุกที่ Work from Anywhere นอกจากนี้ สินค้ากลุ่มเกมมิ่งเป็นอีกไฮไลท์สำคัญในปีนี้ เนื่องจากบริษัทฯ ได้รับความไว้วางให้เป็นตัวแทนจำหน่ายแบรนด์ชั้นนำระดับโลกเข้ามาเพิ่มเติมในพอร์ต รับกระแสการเติบโตของ e-sport ที่ยังคงความร้อนแรง โดยปัจจุบันซินเน็คฯ ครอง มาร์เก็ตแชร์ในพอร์ตเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครวมกับเกมมิ่งเกียร์อันดับหนึ่ง สูงสุดในประเทศไทย และพร้อมที่จะขยายตลาดให้ใหญ่ขึ้นในปีหน้า
รวมไปถึง ประเทศไทยเข้าสู่ยุคเทคโนโลยี 5G ยิ่งเป็นแรงกระตุ้นให้ผู้บริโภคมีความต้องการเปลี่ยนอุปกรณ์สื่อสาร และเข้ามาเติมเต็มไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิต โดยเฉพาะ เรื่องของไอโอที (IoT : Internet of things) การเชื่อมต่อระหว่างสมาร์ทดีไวซ์ต่างๆ และ เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) จะเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวัน และในภาคธุรกิจมากขึ้น ทำให้ซินเน็คฯ สามารถขยายตลาดได้อย่างต่อเนื่องในปี 2564 รับโอกาสในฐานะดิสทริบิวเตอร์ไอทีอันดับหนึ่งของประเทศ และมองความต้องการสินค้ากลุ่มนี้มีโอกาสเติบโตอย่างก้าวกระโดดได้
“ทั้งนี้ ปัจจุบันซินเน็คฯ มีสัดส่วนรายได้จากโทรศัพท์มือถือแบรนด์ชั้นนำรวมอยู่ที่ประมาณ 40% สำหรับอีก 40% มาจากตลาด Consumer ซึ่งจะรวมทั้งกลุ่มเกมมิ่ง แกดเจ็ต และส่วนที่เหลือจะเป็นตลาด Commercial หรือลูกค้าโครงการต่างๆ อย่างไรก็ดี บริษัทฯ เน้นเจาะสินค้ากลุ่มที่มีมาร์จิ้นสูง และการบริหาร Product Mix อย่างมีประสิทธิภาพ จึงเชื่อมั่นว่า แม้ในปีนี้รายได้อาจจะไม่ได้เติบโตจากปีก่อน เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้อุปทานของสินค้าบางกลุ่มมีอยู่อย่างจำกัด แต่จะเห็นกำไรของบริษัทฯ เติบโตขึ้นได้อย่างแน่นอน” คุณสุธิดา กล่าว
โดยทิศทางในปี 2564 ของซินเน็คฯ มองสินค้าที่น่าจับตามอง ยังคงเป็นสินค้าในกลุ่ม 5G เทคโนโลยีที่เชื่อมโลกการสื่อสารและการใช้ชีวิตให้สะดวก และรวดเร็ว รวมทั้งกลุ่มสินค้าเพื่อสุขภาพที่กำลังเป็นกระแสในปัจจุบัน ซึ่งซินเน็คฯ เตรียมจัดจำหน่ายสินค้าไลฟ์สไตล์เพื่อสุขภาพที่เป็นไฮเอนด์เทคโนโลยีในเร็วๆ นี้ ตลอดจนภาพรวมการขยายการลงทุนงานโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ รวมถึงการอัพเกรดระบบ และอุปกรณ์เทคโนโลยีของภาคเอกชน สนับสนุนการเติบโตของสินค้ากลุ่มคอมเมอร์เชียล (Commercial) และคลาวด์ & ซิเคียวริตี้ (Cloud & Security) ซึ่งสินค้ากลุ่มนี้มีอัตรากำไรขั้นต้นในระดับสูง
ขณะที่ สินค้ากลุ่มเกมมิ่งยังเติบโตต่อเนื่อง ด้วยระบบนิเวศน์ของอุตสาหกรรมเกมที่ถูกพัฒนาขึ้น สามารถเล่นเกมร่วมกันจากเครื่องเล่น Console และ PC ทำให้การตอบรับของผู้เล่นมีจำนวนเพิ่มขึ้น และมีความต้องการอุปกรณ์เกมมิ่งเกียร์ที่มีความทันสมัย โดยซินเน็คฯ ยังคงเดินหน้ารุกตลาดนี้ และคาดจะได้เห็นการจับมือกับพันธมิตรแบรนด์ใหม่ๆ เข้ามาเสริมพอร์ต ควบคู่ไปกับแผนขยายแพลทฟอร์มด้านการบริการทั้งก่อนและหลังการขายอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความมั่นใจ และยกระดับการดูแล อำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าที่ไว้วางใจในสัญลักษณ์ Trusted By Synnex มาโดยตลอด ล่าสุด ซินเน็คฯ เข้ามาดูแลบริการหลังการขายให้ Xiaomi ผู้นำทางด้านเทคโนโลยีระดับโลก ที่มีสมาร์ทโฟนและสินค้าไลฟ์สไตล์หลากหลายประเภท ซึ่งก็จะมีโอกาสขยายความร่วมมืออื่นๆ อีกในอนาคต สะท้อนภาพรวมของซินเน็คฯ อยู่ในธุรกิจที่อยู่ในเทรนด์การเติบโต ทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยบวกต่อยอดขายและอัตรากำไรของซินเน็คฯ ในปี 2564