กรุงศรีมุ่งสู่การเป็นสถาบันการเงินที่ทรงพลังในอาเซียน ยกระดับบริการโอนเงินระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านดิจิทัลแบงก์กิ้งและนวัตกรรมในการพัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อตอบโจทย์ความต้องการลูกค้ารายย่อยและเสริมความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจให้กับลูกค้าธุรกิจ
นายไพโรจน์ ชื่นครุฑ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านกลยุทธ์และวางแผนธุรกิจองค์กร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “บริการโอนเงินระหว่างประเทศนับเป็นบริการที่มีความสำคัญมากในโลกการเงินยุคปัจจุบัน กรุงศรีมุ่งมั่นที่จะเป็นหนึ่งในสถาบันการเงินชั้นนำที่ลูกค้านึกถึงและเลือกใช้ทุกครั้งเมื่อต้องการทำธุรกรรมระหว่างประเทศ และเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญในการผลักดันให้กรุงศรีก้าวสู่การเป็นสถาบันการเงินที่ทรงพลังในอาเซียนซึ่งที่ผ่านมา กรุงศรีได้พัฒนาแพลตฟอร์มและผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการในการทำธุรกรรมทางการเงินระหว่างประเทศมาอย่างต่อเนื่อง มีเป้าหมายในการให้บริการที่ครอบคลุมทั้งกลุ่มลูกค้ารายย่อยและลูกค้าธุรกิจ โดยมี Krungsri Mobile App (KMA) และ Krungsri Biz Online (KBOL) เป็นสองแพลตฟอร์มหลักในการให้บริการ”
สำหรับลูกค้ารายย่อย แอปพลิเคชัน KMA จะเป็นแพลตฟอร์มหลักในการให้บริการโอนเงินระหว่างประเทศ โดยในเดือนธันวาคมนี้ กรุงศรีจะเปิดให้บริการด้วยจุดเด่นที่สำคัญคือสามารถโอนเงินได้มากกว่า 220 ปลายทางทั่วโลก รองรับ 15 สกุลเงินหลัก ด้วยค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่า และอัตราแลกเปลี่ยนที่พิเศษกว่า เหมาะสำหรับลูกค้าที่ชื่นชอบการสั่งซื้อสินค้าและบริการออนไลน์จากต่างประเทศ การโอนเงินให้กับสมาชิกในครอบครัวที่อาศัยอยู่ต่างประเทศ หรือผู้ที่มาทำงานและต้องการโอนเงินกลับประเทศ ส่วนลูกค้ารายย่อยที่ถือบัตร Krungsri Boarding Card ซึ่งเป็นบัตรเติมเงิน (Pre-paid) สามารถแลกเงินตราต่างประเทศเก็บไว้ในบัตรได้ถึง 16 สกุลเงินต่างประเทศในอัตราแลกเปลี่ยนพิเศษที่ธนาคารเสนอให้กับบัตรนี้โดยเฉพาะ โดยลูกค้าสามารถขอสมัครใช้บริการบัตรและทำการแลกเงินต่างประเทศในอัตราแลกเปลี่ยนที่พอใจได้ด้วยตัวเองผ่าน KMA พร้อมกันนี้กรุงศรีได้เตรียมสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมสำหรับผู้ใช้บัตร Krungsri Boarding Card ตอบรับความต้องการในการซื้อสินค้าออนไลน์ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในขณะนี้ และมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง
“สำหรับกลุ่มลูกค้าธุรกิจ แอปพลิเคชัน KBOL จะเป็นแพลตฟอร์มหลักในการให้บริการลูกค้าองค์กร และผู้ประกอบการ SME ซึ่งรองรับ 15 สกุลเงินหลักได้เช่นกัน โดยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา จำนวนธุรกรรมผ่านบริการดังกล่าวเติบโตเฉลี่ยถึง 100% ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีบริการโอนเงินระหว่างประเทศแบบเรียลไทม์ระหว่างประเทศไทยและสปป.ลาว ด้วยเทคโนโลยี Krungsri Blockchain Interledger และด้วยบริการ Krungsri Global Transfer ซึ่งปัจจุบันมีการเชื่อมต่อแบบ Application Programming Interface หรือ API ระหว่างกรุงศรีและธนาคาร Lao Development Bank (LDB) ให้สามารถโอนเงินระหว่างไทยและลาว ได้อย่างสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น ในระยะแรกเป็นการให้บริการฟรีไม่มีค่าธรรมเนียม เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นเศรษฐกิจและการค้าขายระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน โดยกรุงศรีมีแผนในการพัฒนาเทคโนโลยี Blockchain ให้ลูกค้าสามารถโอนเงินระหว่างประเทศแบบเรียลไทม์ได้ทั่วโลก และเชื่อมต่อ API กับธนาคารพันธมิตรอื่นๆ ในต่างประเทศโดยเฉพาะภูมิภาคอาเซียนเร็วๆ นี้” นายไพโรจน์ กล่าว
นายไพโรจน์ กล่าวทิ้งท้ายว่า “กรุงศรีต้องการใช้ศักยภาพและเครือข่ายที่มีในการเชื่อมโยงทุกเรื่องการเงินไม่ว่าจะเป็นการโอนเงินทั้งในประเทศหรือต่างประเทศให้เป็นเรื่องสะดวก ง่าย และรวดเร็ว สำหรับลูกค้าทุกกลุ่ม ด้วยอัตราแลกเปลี่ยนที่คุ้มค่าและครอบคลุมทุกสกุลเงิน อีกหนึ่งบทพิสูจน์ของความมุ่งมั่นในการก้าวสู่การเป็นสถาบันการเงินที่ทรงพลังในอาเซียน”