คปภ.เล็งผุดกรมธรรม์ประกันภัยสวนยางพารา รองรับความต้องการเกษตรกร พร้อมแนะ “กรมธรรม์ประกันชีวิตสำหรับผู้สูงอายุ - ประกันภัยอัคคีภัยสำหรับที่อยู่อาศัย - ประกันภัย พ.ร.บ. และประกันภัยสำหรับธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์” เหมาะกับวิถีชีวิตชาวชุมชน
ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 19 - 20 ตุลาคม 2563 ได้นำคณะผู้บริหารสำนักงาน คปภ. ผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทด้านประกันภัย ผู้จัดการกองทุนทดแทนผู้ประสบภัย ผู้จัดการกองทุนประกันชีวิต ผู้แทนกองทุนประกันวินาศภัย ผู้บริหารสมาคมประกันวินาศภัยไทย ผู้บริหารสมาคมประกันชีวิตไทย นายกสมาคมตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาทางการเงิน สมาคมนายหน้าประกันภัยไทย พร้อมด้วยผู้บริหารบริษัทประกันชีวิต และบริษัทประกันวินาศภัย หลายบริษัท ลงพื้นที่ชุมชนนาอ้อ ตำบลนาอ้อ อำเภอเมืองจังหวัดเลย ในรูปแบบ Insurance Mobile Unit ในโครงการ คปภ. เพื่อชุมชนปี 4 โดยคณะผู้บริหารของสำนักงาน คปภ. ได้เยี่ยมชมฐานการเรียนรู้วิถีชีวิตภายในชุมชน เช่น ฐานการเรียนรู้สถาปัตยกรรมพื้นบ้านฐานการเรียนรู้การทอผ้าพื้นถิ่น ฐานการเรียนรู้การบีบข้าวปุ้น ฐานการเรียนรู้การจักสานไม้ไผ่ เป็นต้น
ในโอกาสนี้ คณะผู้บริหารของสำนักงานคปภ. ได้เข้าเยี่ยมชาวชุมชนถึงหน้าประตูบ้าน เพื่อรับฟังสภาพปัญหา และความต้องการด้านประกันภัย โดยนำข้อมูลกลับไปพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของชุมชนได้อย่างแท้จริง รวมทั้งมีการถอดบทเรียนจากประสบการณ์จริงของผู้เป็นมารดาที่สูญเสียบุตรชาย จากอุบัติเหตุขับรถยนต์ชนแท่งปูนข้างทาง และได้รับความคุ้มครองสิทธิประโยชน์จากการทำประกันภัย พ.ร.บ. ประกันรถยนต์ภาคสมัครใจและการประกันชีวิต 1,000,000 กว่าบาท ส่งผลทำให้ครอบครัวสามารถก้าวข้ามวิกฤติจากเหตุการณ์การสูญเสียในครั้งนั้นมาได้ เพราะได้รับค่าสินไหมทดแทนจากระบบประกันภัยเข้ามาเยียวยาความสูญเสียที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและเป็นธรรม
เลขาธิการ คปภ. กล่าวด้วยว่า จากข้อมูลการรายงานของสำนักงานคปภ. จังหวัดเลย พบว่า ประชาชนในจังหวัดเลย ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก และจากเหตุอุทกภัยน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่เกษตรกรรมในครั้งที่ผ่านมา 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองเลยอำเภอเชียงคาน อำเภอภูเรือ และอำเภอภูหลวง มีเกษตรกรกว่า 325 ราย ได้รับความเดือดร้อนจากภัยธรรมชาติดังกล่าว ทำให้มีพื้นที่นาข้าวได้รับความเสียหายจำนวน 361 ไร่ พืชไร่ 325 ไร่ และพืชอื่น ๆ 110 ไร่ รวมพื้นที่เสียหาย 796 ไร่ ซึ่งได้รับการช่วยเหลือเยียวยาจากการประกันภัยทั้งหมด จึงขอชื่นชมส่วนราชการ ธกส. และชาวเมืองเลยที่เล็งเห็นความสำคัญของระบบประกันภัยและช่วยกันส่งเสริมชุมชนให้แข็งแรงเพื่อที่จะก้าวผ่านทุกวิกฤติไปด้วยกัน และจากการลงพื้นที่จังหวัดเลยในครั้งนี้ของสำนักงานคปภ. และภาคอุตสาหกรรมประกันภัย พบว่าจังหวัดเลย มีพื้นที่ปลูกยางพาราเป็นจำนวนมาก และเกษตรกรมีความต้องการที่จะทำประกันภัยสวนยางพารา ดังนั้นสำนักงาน คปภ.จะนำความต้องการของเกษตรกรไปพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยสวนยางพาราต่อไป
ด้านนายก้าน กุณะวงษ์ นายกเทศมนตรีตำบลนาอ้อ อำเภอเมืองจังหวัดเลย กล่าวว่าชุมชนนาอ้อ เป็นชุมชนที่มีอัตลักษณ์ อันโดดเด่น มีการพัฒนาในเชิงเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม การท่องเที่ยวเกษตรกรรม และมีการพัฒนาทรัพยากร ทั้งทรัพยากรธรรมชาติ และทรัพยากรมนุษย์อย่างเป็นระบบ เช่น การจัดการโรงเรียนผู้สูงอายุของชุมชน การพัฒนาศูนย์การเรียนรู้เพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาคนพิการชุมชน และการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ชุมชน เพื่อสร้างความเข้มแข็ง มั่นคงและยั่งยืนให้แก่ชุมชนและจังหวัด ดังคำขวัญที่ว่า นาอ้อเมืองน่าอยู่เคียงคู่วัฒนธรรม นำประชาสุขยั่งยืน ดังนั้น จึงเป็นโอกาสดีที่สำนักงานคปภ. ได้ลงมาพื้นที่ชุมชนนาอ้อเพื่อถ่ายทอดความรู้ด้านการประกันภัยและเพื่อนำระบบประกันภัยใช้เป็นเครื่องมือบริหารความเสี่ยงให้กับการดำเนินวิถีชีวิตของชุมชน ไม่ว่าจะเป็นความรู้ในเรื่องของการทำประกันชีวิตสำหรับผู้สูงอายุ การทำประกันภัยอัคคีภัยสำหรับที่อยู่อาศัยการทำประกันภัยสำหรับธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ และการทำประกันภัย พ.ร.บ. ซึ่งทำให้ชาวชุมชนนาอ้อ มีความรู้ ความเข้าใจการทำประกันภัยประเภทต่าง ๆ มากยิ่งขึ้น และที่สำคัญชาวชุมชนสามารถนำระบบประกันภัยเข้ามาบริหารความเสี่ยงในชีวิตและทรัพย์สินของตัวเองและครอบครัวได้อย่างครบวงจร
เลขาธิการ คปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า สำนักงาน คปภ. มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะช่วยส่งเสริมและผลักดันให้ชาวชุมชนนาอ้อ และชาวเมืองเลยได้มีความรู้ ความเข้าใจในประกันภัย พ.ร.บ. มากขึ้น และเพื่อเป็นการส่งเสริมให้ชาวชุมชนนาอ้อได้เข้าถึงการทำประกันภัย พ.ร.บ. สำนักงาน คปภ. ได้รับความร่วมมือจากสมาคมนายหน้าประกันภัยไทยนำประกันภัย พ.ร.บ. มาแจกให้กับชาวชุมชนนาอ้อในครั้งนี้จำนวน 100 ฉบับด้วย รวมทั้งได้มีการเปิดเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และรับฟังสภาพปัญหาด้านประกันภัยระหว่างสำนักงาน คปภ. กับชาวชุมชนนาอ้อในรูปแบบการเสวนาภายใต้หัวข้อ “ประกันภัยน่ารู้ สู่ชุมชน” โดยมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากสำนักงาน คปภ. และภาคธุรกิจประกันภัยร่วมกันแลกเปลี่ยนความรู้และมุมมองอย่างเข้มข้น ซึ่งประกอบ นายสุรินทร์ ตนะศุภผล ผู้ช่วยเลขาธิการ สายส่งเสริมและประกันภัยภูมิภาคนายชัยยุทธ มังศรี ผู้ช่วยเลขาธิการ สายคุ้มครองสิทธิประโยชน์นางสาวดาเนตร วันทนีย์ ผู้อำนวยการกลุ่มงานกำกับผลิตภัณฑ์ประกันวินาศภัย นางสาวกัลยา จุกหอม ผู้ช่วยผู้อำนวยการบริหาร สายงานวิชาการ สมาคมประกันวินาศภัยไทย และนายปีเตอร์ หลุยส์ ไมอ็อคชิเป็นผู้ดำเนินรายการ โดยได้รับเกียรติจากนายโสภณ สุวรรณรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย กล่าวต้อนรับและร่วมรับฟังการเสวนาความรู้ด้านประกันภัย รวมทั้งเยี่ยมชมบูธประชาสัมพันธ์ส่งเสริมความรู้ด้านการประกันภัยของสำนักงาน คปภ. และภาคอุตสาหกรรมประกันภัยด้วย
“การลงพื้นที่ครั้งนี้เป็นการลงพื้นที่ครั้งที่ 3 ของโครงการ คปภ. เพื่อชุมชนปี 4 ภายใต้แนวคิด “เหนือสุดใต้ ตะวันออกสุดตะวันตก” โดยสำนักงาน คปภ. ได้บูรณาการร่วมกับภาคอุตสาหกรรมประกันภัย นำระบบประกันภัยส่งถึงประตูบ้านชาวชุมชนในรูปแบบ Insurance Mobile Unit หรือศูนย์บริการประชาชนด้านการประกันภัยเคลื่อนที่แบบครบวงจร ซึ่งจะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนที่มีต่ออุตสาหกรรมประกันภัยอย่างยั่งยืน โดยมีการถ่ายทำเป็นรายการซีรีย์“คปภ. เพื่อชุมชน” เรียนรู้วิถีชีวิตของชาวชุมชนควบคู่ไปกับองค์ความรู้ด้านประกันภัย และนำไปเผยแพร่ทางสถานีโทรทัศน์และสื่อออนไลน์เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ด้านประกันภัยในวงกว้างต่อไป” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย