กรมสรรพากรร่วมกับธนาคารพัฒนาเอเชีย พัฒนานวัตกรรมการให้ความรู้ทางภาษีในรูปแบบดิจิทัลภายใต้ชื่อtaxliteracy.academy กลุ่มเป้าหมายคือผู้ประกอบการ SMEs ทั่วไป ผู้ประกอบธุรกิจออนไลน์ สร้างสรรค์และให้บริการคอนเทนต์ทางโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook Youtube และบุคคลทั่วไปที่มีความประสงค์ที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับภาษีและการประกอบธุรกิจ
ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า “วัตถุประสงค์ของการพัฒนานวัตกรรมนี้เพื่อให้ผู้ประกอบธุรกิจทั่วไปโดยเฉพาะผู้ประกอบการ SMEs และธุรกิจรายใหม่สามารถเข้าถึงความรู้ทางภาษีขั้นพื้นฐานได้โดยง่ายผ่านสื่อดิจิทัลที่รวดเร็ว สะดวก และสามารถเข้าถึงผู้ใช้งานได้ในวงกว้าง โดยปัจจุบันตลาดซื้อขายสินค้าออนไลน์ได้เติบโตขึ้นเป็นช่องทางหลักของธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการรายเดิม และผู้ประกอบการรายใหม่ที่จะเข้ามาในตลาดในอนาคต การเป็นผู้ประกอบการ SMEs หรือ ผู้ประกอบรายใหม่ มีความท้าทาย และไม่ใช่เรื่องง่ายในการเข้าใจเรื่องภาษี กรมสรรพากรจึงได้ร่วมมือกับ ธนาคารพัฒนาเอเชีย พัฒนานวัตกรรมการให้ความรู้ทางภาษีในรูปแบบดิจิทัล ภายใต้ชื่อ taxliteracy.academy ที่ทันสมัย เข้าใจง่าย และตอบโจทย์ผู้เสียภาษี เพื่อให้เป็นสื่อในการสร้างความเข้าใจและความร่วมมือระหว่างผู้มีหน้าที่เสียภาษีกับกรมสรรพากรเพื่อส่งเสริมการเติบโตที่ยั่งยืนของผู้ประกอบการต่อไป สำหรับนวัตกรรมการให้ความรู้ทางภาษีในรูปแบบดิจิทัลนี้ เป็นกระบวนการเรียนรู้จากประสบการณ์ หรือExperiential Learning ซึ่งแบ่งออกเป็นสามส่วน ได้แก่ การทดลองเล่น เลือกรูปแบบและเส้นทางการวางแผนภาษีสำหรับการประกอบธุรกิจของคุณผ่านการ ตอบคำถามง่ายๆ ในผลิตภัณฑ์การให้ความรู้ภาษี (Digital tax literacy product) สามารถย้อนกลับไป เลือกคำตอบได้ใหม่เมื่อเล่นจบ
การเรียนรู้ มีคำอธิบายและการเปรียบ เทียบระหว่างการเสียภาษี บุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ระหว่างการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มหรือไม่เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม และความเข้าใจ คุณจะมีความรู้ความเข้าใจ เรื่องภาษี และการบริหารเงินสดในมือดีขึ้น พร้อมกับได้รับ tax checklist ไว้อ้างอิงในการวางแผนภาษีในอนาคต”นายฮิเดอะกิ อิวาซากิ ผู้อำนวยการสำนักงานผู้แทนธนาคารพัฒนาเอเชีย ประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า “ธนาคารพัฒนาเอเชียมีความยินดีที่ได้มีส่วนร่วมในการสนับสนุนประเทศไทยในการเพิ่มทักษะความรู้ทางภาษีเบื้องต้นแก่กลุ่มเป้าหมายผู้เสียภาษี ผ่านความร่วมมือกับกรมสรรพากรในการพัฒนานวัตกรรมการให้ความรู้ทางภาษีในรูปแบบดิจิทัลดังกล่าว ซึ่งเป็นการดำเนินงานภายใต้ความช่วยเหลือทางวิชาการของธนาคารพัฒนาเอเชียเกี่ยวกับการเข้าถึงบริการทางการเงินอย่างทั่วถึง(financial inclusion) ที่ให้กับกระทรวงการคลัง โดยได้รับเงินทุนสนับสนุนจาก Japan Fund for Poverty Reduction นวัตกรรมการให้ความรู้ทางภาษีดังกล่าวมีส่วนสำคัญต่อการสร้างเสริมความรู้ความเข้าใจเรื่องภาษี ส่งผลให้เกิดการบริหารจัดการเงินสดและโอกาสการเข้าถึงบริการทางการเงินที่ดีขึ้นแก่ผู้ประกอบการรายเล็กและรายใหม่ที่ประกอบธุรกิจค้าขายสินค้าและบริการทั่วไปและออนไลน์ ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญต่อการพัฒนาธุรกิจและเศรษฐกิจของประเทศไทยให้เติบโตได้อย่างยั่งยืนต่อไป”
ผู้ประกอบการหรือผู้ที่สนใจสามารถเข้าใช้นวัตกรรมการให้ความรู้ทางภาษีในรูปแบบดิจิทัลได้ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น ที่ www.taxliteracy.academy ตั้งแต่วันที่ 22 ตุลาคม 2563 เป็นต้นไป สำหรับผู้ที่มีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กองบริหารภาษีธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก โทร 02-2729821 หรือ email.sme@rd.go.th หรือศูนย์สารนิเทศสรรพากร (RD Intelligence Center) โทร. 1161