เลขาธิการ คปภ. นำทัพ Insurance Mobile Unit แบบครบวงจรลงพื้นที่ กาญจนบุรี

แนะชาวชุมชนเพิ่มภูมิคุ้มภัยจากโรคไข้เลือดออก-ภัยธรรมชาติ-โรคโควิด-19 ด้วยระบบประกันภัย

ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 14-15 กันยายน 2563 ได้นำคณะผู้บริหารสำนักงาน คปภผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทด้านประกันภัยของสำนักงาน คปภผู้บริหารกองทุนทดแทนผู้ประสบภัย  ผู้แทนกองทุนประกันชีวิต ผู้แทนกองทุนประกันวินาศภัย ผู้บริหารสมาคมประกันวินาศภัยไทย สมาคมประกันชีวิตไทย นายกสมาคมตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาทางการเงิน สมาคมนายหน้าประกันภัยไทย พร้อมด้วยผู้บริหารบริษัทประกันภัยหลายบริษัท ลงพื้นที่ชุมชนบ้านวังกะ  ศาลาประชาคม วัดวังก์วิเวการาม ตำบลหนองลูอำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ในรูปแบบ Mobile Insurance Unit ในโครงการ คปภเพื่อชุมชนปี 4 โดยสำนักงาน คปภและภาคอุตสาหกรรมประกันภัยได้เดินเคาะประตูบ้านพูดคุยกับชาวชุมชน เพื่อส่งเสริมความรู้ด้านการประกันภัย คุ้มครองสิทธิประโยชน์ด้านการประกันภัย และรับฟังสภาพปัญหา ความต้องการของประชาชนในชุมชน เพื่อนำไปพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยใหม่  ให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งมีการถอดบทเรียนจากประสบการณ์จริงของชาวชุมชน กรณีเกิดอุบัติเหตุจากรถและได้รับประโยชน์จากการทำประกันภัยด้วย


จากการลงพื้นที่ในครั้งนี้พบว่า ชาวชุมชนบ้านวังกะ ยังขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการทำประกันภัยประเภทต่าง  ประกอบกับชุมชนบ้านวังกะ ตั้งอยู่บริเวณทางลาดชันในหุบเขา มีสภาพภูมิอากาศร้อนชื้นประชาชนส่วนใหญ่ใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะเดินทาง และที่สำคัญชาวชุมชนบ้านวังกะ อยู่ใกล้ชายแดนของสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ซึ่งขณะนี้สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมากำลังเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกสอง ดังนั้นสำนักงาน คปภจึงให้ความรู้ด้านประกันภัย เพื่อให้เหมาะสมกับชาวชุมชนบ้านวังกะ เช่น  การประกันภัยรถตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ (ประกันภัย ...) การประกันภัยไข้เลือดออก การประกันภัยไข้หวัดใหญ่ การประกันภัยจากภัยธรรมชาติ การประกันภัยอัคคีภัย การประกันภัยโควิด-19  เพื่อนำระบบประกันภัยใช้เป็นเครื่องมือบริหารความเสี่ยงในการดำรงชีวิตและประกอบอาชีพ โดยนำระบบประกันภัยเข้าไปช่วยเยียวยาเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนยามเมื่อเกิดภัยได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

 

นอกจากนี้ ได้มีการเปิดเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และรับฟังสภาพปัญหาด้านประกันภัยระหว่างสำนักงาน คปภ

กับชาวชุมชนบ้านวังกะ ในรูปแบบจับเข่าคุยกัน “ประกันภัยเป็นเรื่องใกล้ตัว” โดยมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากสำนักงาน คปภ เพื่อนำข้อมูลที่ได้รับไปพัฒนากรมธรรม์ประกันภัยให้มีความเหมาะสมและตรงกับความต้องการของชุมชนยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นการนำระบบประกันภัยเข้าไปส่งเสริมให้ชุมชนเข้มแข็งและสามารถบริหารความเสี่ยงได้ด้วยตนเอง



เลขาธิการ คปภกล่าวด้วยว่า สำหรับการลงพื้นที่ครั้งนี้เป็นการลงพื้นที่ครั้งแรกของโครงการ คปภเพื่อชุมชนปี 4 ภายใต้แนวคิด “เหนือสุดใต้ ตะวันออกสุดตะวันตก” ซึ่งเป็นชุมชนบ้านมอญที่มีอัตลักษณ์ มีวัฒนธรรมของตนเอง มีเอกลักษณ์อันโดดเด่น เป็นชุมชนที่เข้มแข็งมีแหล่งเรียนรู้ที่น่าสนใจ อาทิ การเย็บผ้าวิถีชาวมอญ รวมถึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีภูมิประเทศติดชายแดนสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาเป็นชุมชนที่อาศัยอยู่ติดริมแม่น้ำซองกาเลีย โดยใช้เรือและแพในการประกอบอาชีพประมง และเพื่อการท่องเที่ยวชมเมืองบาดาล  โดยสำนักงาน คปภได้บูรณาการร่วมกับภาคอุตสาหกรรมประกันภัย นำระบบประกันภัยส่งถึงประตูบ้านชาวชุมชนในรูปแบบ Insurance Mobile Unit หรือศูนย์บริการประชาชนด้านการประกันภัยเคลื่อนที่แบบครบวงจร ซึ่งจะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนที่มีต่ออุตสาหกรรมประกันภัยอย่างยั่งยืน โดยมีการถ่ายทำเป็นรายการซีรีย์คปภเพื่อชุมชน” เรียนรู้วิถีชีวิตของชาวชุมชนควบคู่ไปกับองค์ความรู้ด้านประกันภัย และนำไปเผยแพร่ทางสถานีโทรทัศน์และสื่อออนไลน์เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ด้านประกันภัยในวงกว้าง 

โครงการ คปภเพื่อชุมชน ปี 4 เป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้ประชาชนในชุมชนต่าง  ของประเทศ มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการประกันภัยเกิดความตระหนักรู้ถึงคุณค่าและคุณประโยชน์ของการประกันภัยสามารถใช้ประกันภัยเป็นเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยงในชีวิตและทรัพย์สินให้กับตนเองและครอบครัวได้อย่างเหมาะสมกับบริบทของชุมชนมากยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกันการลงพื้นที่ชุมชนของสำนักงานคปภและภาคอุตสาหกรรมประกันภัย ทำให้ได้เรียนรู้วิถีชีวิตชุมชนตลอดจนทราบความต้องการเรื่องผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่จำเป็นสำหรับชุมชน ซึ่งจะได้นำข้อแนะนำของชาวชุมชนบ้านวังกะไปศึกษาความเป็นไปได้เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยให้ตรงตามความต้องการที่แท้จริงของชาวชุมชนต่อไป” เลขาธิการ คปภ.กล่าวในตอนท้าย