คปภ. จับมือธนาคารโลก – ภาคธุรกิจประกันภัย เปิดเวทีถอดบทเรียนโควิด-19

หวังสร้างภูมิคุ้มกันให้ระบบประกันภัยไทย-ภาคธุรกิจประกันภัยโลกรับมือสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.)เป็นประธานเปิดการสัมมนาวิชาการด้านการประกันภัยผ่านออนไลน์ (Webinar) ภายใต้หัวข้อ Challenging Environment Towards Recovery, Continuity and Future Resilience – Insurance’s Landscape Post COVID-19 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเข้าใจถึงผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด - 19 ต่อระบบเศรษฐกิจ ภาคอุตสาหกรรมประกันภัยและแนวทางการบริหารจัดการด้านการเงินและการเข้าถึงผู้บริโภคของผู้ประกอบการ ตลอดจนเพื่อพัฒนาแนวทางการกำกับดูแลธุรกิจประกันภัยในยุคโควิด-19 รวมทั้งแนวทางการพัฒนาระบบประกันภัยด้านอื่นๆ เช่น การพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัย การพัฒนาแนวทางการเข้าถึงผู้บริโภค และการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ระบบประกันภัยมีความพร้อมสำหรับเหตุการณ์ไม่คาดคิดในอนาคตโดยมีผู้แทนจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (...) ผู้กำกับดูแลภาคธุรกิจประกันภัยของอาเซียน บุคลากรของภาคธุรกิจประกันภัยรวมถึงผู้บริหารและพนักงานสำนักงาน คปภเข้าร่วมการสัมมนาทั้งที่สำนักงาน คปภและผ่านช่องทางออนไลน์รวมจำนวนกว่า 200 คน เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2563  ห้องประชุมชั้น 2 อาคารสถาบันวิทยาการประกันภัยระดับสูง สำนักงาน คปภถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพฯ



การสัมมนาในรูปแบบ Webinar ครั้งนี้ได้รวบรวมวิทยากรผู้เชี่ยวชาญและผู้มีประสบการณ์ในด้านเศรษฐกิจและการประกันภัย จากหน่วยงานทั้งในและต่างประเทศ  อาทิ วิทยากรจากประเทศตุรกี ประเทศสิงคโปร์สำนักงาน คปภสมาคมประกันวินาศภัยไทย สมาคมนักคณิตศาสตร์ประกันภัยไทย และธนาคารโลก บริษัท Ernst & Young (EY) โดยมีหัวข้อในการบรรยายที่สำคัญประกอบด้วย ภาพรวมของผลกระทบของโควิด-19 ต่อภาวะเศรษฐกิจโลกและภาคธุรกิจประกันภัย การฟื้นตัวและปรับตัวของภาคธุรกิจประกันภัยเพื่อเตรียมความพร้อมในการรับมือต่อสถานการณ์ในอนาคต นอกจากนั้นยังมีการเสวนาภายใต้หัวข้อปัจจัยแห่งความสำเร็จของภาคธุรกิจประกันภัยไทยในการรับมือต่อสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

เลขาธิการ คปภกล่าวด้วยว่า วิกฤตการณ์โควิด-19 ส่งผลกระทบรุนแรงไปทั่วทุกภูมิภาคของโลก หลายประเทศในทวีปอเมริกา ยุโรปหรือแม้กระทั่งประเทศในภูมิภาคเอเชียต้องเผชิญกับความเสียหายครั้งใหญ่ ต้องรับมือกับผู้ติดเชื้อจำนวนมากที่มีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง สำหรับประเทศไทยแม้จะประสบผลสำเร็จในการป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 เป็นอย่างสูง เนื่องจากทั้งภาครัฐ เอกชนรวมถึงภาคประชาชนร่วมแรงร่วมใจกันอย่างเต็มที่ แต่อย่างไรก็ตามประเทศไทยก็ยังต้องเผชิญกับความท้าทายต่างๆ ที่ต้องมีการปรับตัวและพร้อมรับมืออยู่เสมอ เพื่อพร้อมรับการระบาดระลอกสองที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต ถ้าตราบใดที่ยังไม่มีวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 

สำหรับผลกระทบต่อภาคการประกันภัยไทยนั้น ทางสำนักงาน คปภได้มีการบูรณาการความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับภาคธุรกิจประกันภัยในการออกมาตรการสำคัญต่างๆ เพื่อช่วยเยียวยาและบรรเทาความเสียหายที่เกิดขึ้น โดยสำนักงาน คปภได้มีการประชุมหารือเพื่อมอบนโยบายและแนวทางการออกผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 แก่ภาคธุรกิจประกันภัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่มีความเหมาะสมตรงกับความต้องการของประชาชน ซึ่งนับได้ว่าประสบผลสำเร็จอย่างดียิ่ง โดยจากข้อมูล  เดือนสิงหาคม 2563 มีการจำหน่ายกรมธรรม์ประกันภัยโควิด-19 จำนวนกว่า 9 ล้านฉบับ มีจำนวนเบี้ยประกันภัยรับโดยประมาณ 4 พันล้านบาท และมีการจ่าย

ค่าสินไหมทดแทนไปแล้วกว่า 85 ล้านบาท นอกจากนี้สำนักงาน คปภยังได้รับการประสานจากศูนย์บริหารสถานการณ์การโควิค-19 (ศบค.) เพื่อนำการประกันภัยเข้าไปรองรับมาตรการของ ศบคที่ได้กำหนดให้ชาวต่างชาติบางกลุ่มสามารถเดินทางเข้ามายังประเทศไทยได้ ซึ่งขณะนี้สำนักงาน คปภได้ดำเนินการอนุมัติแบบกรมธรรม์ดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว



การสัมมนาวิชาการด้านการประกันภัยในครั้งนี้ถือเป็นมิติใหม่ในวงการประกันภัยที่มีการหยิบยกเอาประเด็นร่วมสมัยที่เกี่ยวกับโควิด-19 มาเป็นข้อหัวเพื่อหาทางออกร่วมกัน และสิ่งสำคัญต่อจากนี้อีกประการหนึ่งคือการติดตามผลการดำเนินงานและมาตรการต่างๆ ที่ออกไปก่อนหน้านี้ ว่าเป็นอย่างไร และมีประเด็นใดที่สามารถปรับเปลี่ยนเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากโควิด-19 ได้บ้าง รวมถึงการถอดบทเรียนในช่วงที่ผ่านมา เพื่อเตรียมพร้อมรับมือต่อการระบาดระลอกถัดไป หรือใช้เป็นข้อมูลสำหรับนำไปปรับใช้กับสถานการณ์อื่นที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต ซึ่งการประชุมสัมมนาวิชาการด้านการประกันภัย ผ่านช่องทางออนไลน์ในครั้งนี้จะเป็นตัวช่วยที่มีประสิทธิภาพที่จะทำให้ได้เรียนรู้ในระดับมหภาคของผลกระทบที่เกิดจากโควิด-19 ต่อระบบเศรษฐกิจของโลก และแนวทางการบริหารจัดการที่เหมาะสมในทุกมิติ นอกจากนั้นยังเป็นโอกาสอันดีที่ภาคประกันภัยจะได้สื่อสารปัญหาและอุปสรรคที่ได้ประสบจากวิกฤตการณ์ในครั้งนี้ ตลอดจนเปิดโอกาสในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ความรู้และข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์

มาปรับใช้ในการพัฒนาการกำกับดูแลธุรกิจประกันภัยให้ดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่อง มีเสถียรภาพและเป็นไปตามมาตรฐานสากล” เลขาธิการกล่าวในตอนท้าย