ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) พร้อมด้วยสมาคมประกันวินาศภัยไทย สมาคมประกันชีวิตไทย สมาคมตัวแทนประกันชีวิตสมาคมนายหน้าประกันชีวิต และสมาคมการค้าผู้สำรวจภัยไทย ลงพื้นที่ร่วมโครงการ “คปภ.เพื่อชุมชน” ประจำปี 2563 ณ วิสาหกิจชุมชนบ้านปลายบาง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างความตระหนักให้ประชาชนรู้ถึงคุณค่าและประโยชน์ของการประกันภัย และสามารถใช้การประกันภัยเป็นเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยงในชีวิตและทรัพย์สิน ให้กับตนเองและครอบครัวได้อย่างเหมาะสมให้สังคมไทยเกิดความมั่นคงและเศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป นอกจากนี้ยังต้องการนำธุรกิจประกันภัยสร้างสัมพันธ์ สร้างความรู้ด้านประกันภัย ,ประกันชีวิต ,ประกันสุขภาพให้เข้าถึงชุมชนโดยเฉพาะกลุ่มรายย่อย และเปิดให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมช่วยเหลือ พัฒนาอาชีพ และเติมความรู้ด้านต่าง ๆ เพิ่มเติมหลังจาก คปภ.และธุรกิจประกันภัย เห็นว่ารายย่อยเริ่มเข้าสู่ระบบประกันมากขึ้นเมื่อเกิดโควิด-19 สูงถึง 9 ล้านกรมธรรม์ มูลค่า 4,000 ล้านบาท เมื่อได้ลงพื้นที่สำรวจความเห็นความต้องการและจำเป็นต้องมีการศึกษาออกแบบผลิตภัณฑ์ประกันภัยให้ตรงกับรายย่อยมากขึ้นโดยมีราคาเบี้ยประกัน 200-300 บาท เนื่องจากความเสี่ยงในชีวิตเกิดขึ้นได้ทุกนาที ทั้งด้านสุขภาพ และอุบัติเหตุ และยังเป็นช่องทางให้ชาวบ้าน ร้องเรียนเรื่องประกันภัย เพื่อความเป็นธรรมกับผู้ซื้อกรมธรรม์ และภาคเอกชนก็เล็งเห็นความสำคัญ จึงเตรียมกระจายออกไปทำกิจกรรม ซึ่งเน้นความสำคัญให้ คปภ.ภาค และคปภ.จังหวัด เดินหน้าทำงานเชิงรุกกับชุมชนมากยิ่งขึ้น ทั้งเรื่องประกันภัยข้าวนาปี ข้าวโพด ประมง ปศุสัตว์เนื่องจากการประกันเริ่มเข้าถึงทุกกลุ่มอาชีพ
ดร.สุทธิพล กล่าวเพิ่มเติมว่า เตรียมนำทีมผู้บริหาร คปภ.เข้าพบนายปรีดี ดาวฉาย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่ เพื่อรับมอบนโยบาย ขณะนี้คปภ.กำลังศึกษายกร่างกฎหมายประกันภัยสุขภาพ ซึ่งอยู่ระหว่างการรับฟังความเห็นจากทุกภาคส่วน ในการส่งเสริมการทำประกันภัยสุขภาพ มีทั้งการส่งเสริมการแข่งขันประกันสุขภาพ การป้องกันฉ้อฉล, เคลมประกัน เพื่ออำนวยความสะดวกต่อการซื้อง่ายขายคล่อง เพราะประกันสุขภาพมีความสำคัญกับทุกครัวเรือนมากขึ้น เมื่อรวบรวมความเห็นแล้วในช่วงไตรมาส 3 พร้อมนำรายละเอียดเสนอบอร์ด คปภ.และกระทรวงการคลังพิจารณาเป็นลำดับต่อไป