บล.เอเชีย พลัส ได้วิเคราะห์ไว้ เหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งนี้ ส่งผลกระทบต่อแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรม (SECTOR) ที่แตกต่างกัน โดยมีทั้งกลุ่มที่ได้รับผลกระทบในเชิงบวก และกลุ่มที่ได้รับผลกระทบในเชิงลบ ดังนี้:
กลุ่มที่ได้รับผลกระทบเชิงบวก:
กลุ่มวัสดุก่อสร้าง: บริษัทที่ผลิตวัสดุก่อสร้างงานตกแต่ง เช่น กระเบื้อง ผนัง และสี (DCC, SCGD, DRT, TOA) จะได้รับประโยชน์จากการซ่อมแซมและปรับปรุงอาคารที่ได้รับความเสียหาย
กลุ่ม ICT: คาดว่าปริมาณการใช้งานโทรศัพท์มือถือจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากผู้คนติดต่อสื่อสารเพื่อสอบถามความเป็นไปและติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
กลุ่มค้าปลีก/ค้าส่ง: กลุ่มผู้จำหน่ายสินค้าตกแต่งและซ่อมแซมบ้าน (HMPRO) จะได้รับประโยชน์
ร้านค้าส่ง (CPAXT) และร้านสะดวกซื้อ (CPALL) จะได้รับประโยชน์จากการที่ผู้คนหลีกเลี่ยงการไปห้างสรรพสินค้า
กลุ่มที่ได้รับผลกระทบเชิงลบ:
กลุ่มอสังหาริมทรัพย์: ได้รับผลกระทบมากที่สุด โดยเฉพาะกลุ่มคอนโดมิเนียมคาดว่าผลประกอบการในไตรมาส 2/2568 จะลดลง
กลุ่มธนาคาร: มีความเสี่ยงจากการตั้งสำรองหนี้เสียเพิ่มขึ้น เนื่องจากมูลค่าหลักประกันของคอนโดมิเนียมอาจลดลง ผลกระทบจากการช่วยเหลือลูกหนี้จะอยู่ในระดับปานกลาง
กลุ่มท่องเที่ยว: ต้องติดตามความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน หากนักท่องเที่ยวลดลง จะส่งผลกระทบต่อ AOT, ERW, CENTEL และ MINT
กลุ่มเครื่องดื่ม: OSP และ CBG อาจได้รับผลกระทบจากกำลังซื้อในเมียนมาที่ลดลง
นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มที่ได้รับผลกระทบในระดับปานกลาง หรือมีผลกระทบในระยะสั้น เช่น กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง และกลุ่มขนส่ง