INET เตรียมลงทุนพัฒนา ศูนย์ปฏิบัติการข้อมูล (INET-IDC4) รองรับสูงสุด 600,000 VMI ตอบรับความต้องการ Cloud Service ที่เติบโตอย่างรวดเร็วในไทย คาดการณ์ปี 2568 ตลาด Data Center และ Cloud Service มีมูลค่ากว่า 72.7 พันล้านบาท เติบโต 24% พร้อมมุ่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลและเสริมแกร่งโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีของประเทศ
นายวัลล์ชัย เวชชีวะดำรงค์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ INET ผู้ให้บริการ Local Cloud Service และ Digital Platform Service เปิดเผยว่า ท่ามกลางการเติบโตของอุตสาหกรรมดิจิทัลและเทคโนโลยี INET เดินหน้าขยายโครงสร้างพื้นฐาน Data Center และ Cloud Service รองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นทั้งในและต่างประเทศ คาดการณ์ปี 2568 มูลค่าตลาด Data Center และ Cloud Service ทั่วโลกแตะ 27.19 ล้านล้านบาท เติบโต 20% ขณะที่ไทยมีมูลค่ากว่า 72.7 พันล้านบาท เติบโต 24% จากปีก่อนหน้า โดยมีแรงขับเคลื่อนหลักจาก AI, Machine Learning และ IoT ที่ต้องการระบบประมวลผลข้อมูลที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากขึ้น
INET มุ่งเน้นให้บริการ Local Cloud Service ครอบคลุมตั้งแต่ Infrastructure as a Service (IaaS) และ Platform as a Service (PaaS) พร้อมขยายฐานลูกค้าองค์กรขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจที่เติบโตสูง คาดการณ์จำนวนลูกค้าแตะ 10,000 ราย หรือเติบโตเกือบ 100% และจำนวน VMI แตะ 120,000 VMI หรือเติบโต 86% จากปีก่อนหน้า
ปัจจุบัน INET มี ศูนย์ปฏิบัติการข้อมูล (INET-IDC) 3 แห่ง ในกรุงเทพฯ (INET-IDC1, INET-IDC2) และสระบุรี (INET-IDC3) รองรับได้ 140,000 VMI แต่เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต บริษัทเตรียมลงทุนพัฒนา INET-IDC4 ศูนย์ข้อมูลแห่งใหม่ที่รองรับสูงสุด 600,000 VMI ซึ่งจะช่วยขยายขีดความสามารถของตลาด Data Center และ Cloud Service ในประเทศไทย
นายวัลล์ชัย ผู้บริหาร INET เปิดเผยว่า กลยุทธ์นี้เป็นก้าวสำคัญในการเสริมศักยภาพการแข่งขัน และ ความมั่นคงทางเทคโนโลยีของประเทศ โดยบริษัทเตรียมเสนอขายหุ้นกู้ครั้งที่ 2/2568 จำนวน 2 ชุด ได้แก่
- INET26OA อายุ 1 ปี 6 เดือน อัตราดอกเบี้ยคงที่ [5.20-5.35]%
- INET277B อายุ 2 ปี 3 เดือน อัตราดอกเบี้ยคงที่ [5.55-5.75]%
หุ้นกู้ทั้งสองชุดเปิดให้จองซื้อ 1-3 เมษายน 2568 ผ่านผู้จัดการการจัดจำหน่าย 6 ราย รวมถึง บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) และ บล. เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
การระดมทุนครั้งนี้จะนำไปพัฒนา INET-IDC4 และขับเคลื่อนโครงการ Digital Platform ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของไทยให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน