"BPP" โตแรงในสหรัฐฯ! รับดีมานด์พุ่ง-ราคาขายไฟพุ่งสองเท่า พร้อมโกยรายได้จากคาร์บอนเครดิตในจีน

BPP เผยผลดำเนินงานปี 2567 แข็งแกร่ง ควบคุมโรงไฟฟ้าให้เสถียร พร้อมใช้เทคโนโลยีลด CO2 โรงไฟฟ้าในจีนทำได้ดีกว่าเกณฑ์ รับรายได้จากขายสิทธิปล่อยคาร์บอนเกือบ 90 ล้านบาท เดินหน้าพัฒนาโรงไฟฟ้า Temple I และ II ในสหรัฐฯ รองรับราคาซื้อขายไฟที่พุ่งขึ้นเกือบเท่าตัวปี 2568 คาดดีมานด์ไฟฟ้าในสหรัฐฯ โตเฉลี่ย 15-17% ต่อปี จากการขยายตัวของ Data Centers โดยเฉพาะในเท็กซัส ซึ่งเติบโตเป็นอันดับ 2 ของประเทศ

นายอิศรา นิโรภาส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BPP กล่าวว่า “BPP ขับเคลื่อนการเติบโตตามแนวทางการดำเนินธุรกิจ Beyond Quality Megawatts โดยมุ่งมั่นบริหารพอร์ตโฟลิโอให้มีความสมดุลและครอบคลุมมากไปกว่าการขยายกำลังผลิตไฟฟ้า เพื่อมีความยืดหยุ่นในการหาโอกาสใหม่ ๆ ในการเติบโต และสร้างกระแสเงินสดได้อย่างมั่นคงในระยะยาว โดยปีที่ผ่านมาธุรกิจโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ Temple I และ II ในรัฐเท็กซัส สหรัฐฯ สามารถเดินเครื่องเพื่อส่งมอบพลังงานได้ต่อเนื่อง แม้จะมีราคาซื้อขายไฟฟ้าเฉลี่ยลดลงจากอุณหภูมิและสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า แต่เราเชื่อมั่นว่า ราคาซื้อขายไฟในปี 2568 มีแนวโน้มที่จะปรับตัวสูงขึ้นสอดรับกับเทรนด์เทคโนโลยีพลังงานและดีมานด์ที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐฯ อีกทั้ง BPP มีมาตรการบริหารจัดการความเสี่ยงจากความผันผวนของราคา (Hedging Risk Management) ด้วยการใช้เครื่องมือทางการเงิน (Financial Derivative) สำหรับโรงไฟฟ้าทั้งสองแห่งนี้ โดยในปี 2568 จะมีกระแสเงินสดที่จะได้รับจากการใช้เครื่องมือทางการเงินเพื่อป้องกันความเสี่ยงดังกล่าวเพิ่มขึ้นจากปี 2567 ที่ 40% นอกจากนี้ เรามองเห็นโอกาสในการสร้างรายได้เพิ่มเติมของธุรกิจในจีนจากการขายสิทธิการปล่อยก๊าซคาร์บอน (CEAs) ของโรงไฟฟ้าถ่านหิน” 

“นอกจากนี้ยังเร่งขยายธุรกิจพลังงานหมุนเวียนและธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่อง (Renewables+) เดินหน้าสร้างห่วงโซ่ธุรกิจพลังงานที่แข็งแกร่ง โดยเน้นการลงทุนในโครงการแบตเตอรี่ฟาร์มขนาดใหญ่ (BESS) และการซื้อขายพลังงาน (Energy Trading) เพื่อสร้าง New S-curve ให้กับบริษัทฯ รวมถึงนำเทคโนโลยีดิจิทัลและ AI มาเสริมการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น”

ผลการดำเนินงานปี 2567 – BPP มีรายได้รวม 25,827 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,746 ล้านบาท และ EBITDA 7,383 ล้านบาท รักษาอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนที่ระดับต่ำเพียง 0.49 เท่า

ธุรกิจพลังงานความร้อน (Thermal Energy) – โรงไฟฟ้า HPC ในลาวและ BLCP ในไทยมีประสิทธิภาพสูง รักษาค่าความพร้อมจ่ายไฟ (EAF) ที่ 86% และ 90% ตามลำดับ โรงไฟฟ้า CHP และ SLG ในจีนปรับตัวดีขึ้นจากการบริหารต้นทุนถ่านหิน มีรายได้เพิ่มจากการขายสิทธิปล่อยก๊าซคาร์บอน (CEAs) มูลค่าเกือบ 90 ล้านบาท

ธุรกิจ Renewables+ – ขยายการลงทุนในโครงการ BESS ในญี่ปุ่น รวมกำลังการผลิต 208 เมกะวัตต์-ชั่วโมง เตรียม COD ในปี 2571 พร้อมเดินหน้าธุรกิจ Energy Trading ที่มีผลการดำเนินงานโดดเด่น อีกทั้งร่วมทุนในเวียดนามเพื่อให้บริการโซลาร์รูฟท็อป โดยเฟสแรกตั้งเป้า 390 เมกะวัตต์

กลยุทธ์และวิสัยทัศน์ – BPP มีพอร์ตธุรกิจที่หลากหลายและกระจายความเสี่ยงใน 8 ประเทศยุทธศาสตร์ ทำให้สามารถปรับตัวต่อวิกฤตและรักษาความสามารถในการแข่งขัน มุ่งสู่การเป็นผู้ผลิตพลังงานระดับโลก