ลดดอกเบี้ยก็ไม่ช่วย? อะไรคือปัจจัยฉุด SET ให้ตกต่ำขนาดนี้?

ลดดอกเบี้ยก็ไม่ช่วย? วิกฤตศรัทธาฉุด SET ดิ่งเหว นักวิเคราะห์ชี้ "ความเชื่อมั่น" หาย ตลาดทุนไทยเผชิญมรสุม อาจร่วงหนักสุดในรอบ 15 ปี

ตลาดหุ้นไทยกำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่น่ากังวลอย่างยิ่ง ดัชนี SET ร่วงลงแล้วถึง 15% นับตั้งแต่ต้นปี 2568 หากสถานการณ์ยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป ปี 2568 จะกลายเป็นปีที่ตลาดหุ้นไทยดิ่งลงลึกที่สุดในรอบ 15 ปีที่ผ่านมา ท่ามกลางความพยายามของภาครัฐในการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการลดดอกเบี้ย แต่ดูเหมือนว่ามาตรการดังกล่าวจะยังไม่สามารถเรียกความเชื่อมั่นของนักลงทุนกลับคืนมาได้


วิเคราะห์เจาะลึก: อะไรคือตัวการฉุด SET?

ฝ่ายวิจัยบล.เอเซียพลัสได้วิเคราะห์ "Return Decomposition" หรือการจำแนกผลตอบแทนของ SET พบว่าปัจจัยหลักที่ฉุดรั้งตลาดหุ้นไทยคือ "Multiple Expansion" หรือการหดตัวของค่า P/E ซึ่งส่งผลกระทบต่อผลตอบแทนของ SET ถึง -35% นับเป็นการหดตัวที่รุนแรงที่สุดในรอบ 15 ปี สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ลดลงอย่างน่าตกใจ ต่ำกว่าช่วงวิกฤตการณ์สำคัญๆ ในอดีต เช่น ปี 2013 ที่มีการประกาศลด QE Tapering (-24%) และปี 2018 ที่เกิดสงครามการค้า (-25%) แม้ว่าการเติบโตของกำไรต่อหุ้น (EPS Growth) จะอยู่ที่ 20% ซึ่งเป็นการเติบโตที่สูง แต่ก็ไม่สามารถชดเชยผลกระทบจากการหดตัวของ P/E ได้


ทำความเข้าใจ "Return Decomposition"

"Return Decomposition" คือการแยกแยะปัจจัยที่ส่งผลต่อผลตอบแทนของตลาดหุ้น ซึ่งประกอบด้วย 2 ส่วนหลักๆ คือ

  • Multiple Expansion (การขยายตัวของค่า P/E):
    • สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุน หากนักลงทุนมีความเชื่อมั่นสูง ค่า P/E ก็จะสูงขึ้น แต่ในทางกลับกัน หากนักลงทุนขาดความเชื่อมั่น ค่า P/E ก็จะลดลง
    • ปัจจัยอื่นๆ ที่มีผลต่อ Multiple Expansion ได้แก่ อัตราดอกเบี้ย และปัจจัยทางเศรษฐกิจมหภาค
  • Earnings Growth (การเติบโตของกำไร):
    • มาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ (Revenue Growth) การเพิ่มอัตรากำไร (Margin Expansion) และการซื้อหุ้นคืน (Treasury Stock)


สถานการณ์ปัจจุบัน: ขาดความเชื่อมั่นคือปัญหาใหญ่

จากข้อมูลการวิเคราะห์ในปัจจุบัน ปัญหาใหญ่ที่ตลาดหุ้นไทยกำลังเผชิญคือ "การขาดความเชื่อมั่นของนักลงทุน" นักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับปัจจัยต่างๆ เช่น ความไม่แน่นอนทางการเมือง เศรษฐกิจ และนโยบายต่างๆ ของรัฐบาล


ปัจจัยที่อาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน

  • ความคืบหน้าของโครงการ ThaiESGX
  • การดำเนินนโยบายทางการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย
  • การเติบโตของเศรษฐกิจไทย


จับตาอนาคต: ทิศทาง SET จะเป็นอย่างไร?

ทิศทางของตลาดหุ้นไทยในปี 2568 จะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเชื่อมั่นของนักลงทุน หากนักลงทุนเริ่มกลับมามีความเชื่อมั่นมากขึ้น ค่า P/E ก็อาจจะปรับตัวสูงขึ้น และส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวได้ แต่หากความเชื่อมั่นยังคงอยู่ในระดับต่ำ ตลาดหุ้นไทยก็อาจจะยังคงเผชิญกับความผันผวนต่อไป


แหล่งที่มา : Asia Plus Research Team (The ART)