ปตท. ปี 70 ตั้งเป้า EBITDA เพิ่มขึ้น 30,000 ลบ. ทุ่มงบลงทุน 5.5 หมื่นลบ. ใน 5 ปี

ดร.คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ หุ้น PTT กล่าวถึงแผนงานในปี 2568 ต้องการยกระดับ EBITDA ใน 3 ปี (พ.ศ. 2568 - 2570) โดยกลุ่ม PTT ตั้งเป้า  EBITDA เพิ่มขึ้นรวม 30,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น บริษัท ปตท. ที่ตั้งเป้า EBITDA เพิ่มขึ้น 10,000 ล้านบาท ในขณะที่ตั้งเป้า EBITDA  20,000 ล้านบาทเพิ่มขึ้นในกลุ่มบริษัทย่อย

ในส่วนของงบลงทุน (CAPEX) แผนในระยะ 5 ปี ( พ.ศ. 2568 - 2572) ตั้งไว้ที่ 5.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งในส่วนการลงทุน ปี 2568 ตั้งแยกไว้ที่ 2.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะเป็นการลงทุนหลักในกลุ่มธุรกิจก๊าซ (Gas) โดยเน้นในสร้างโครงสร้างพื้นฐานของธุรกิจ (Infrstructure) และรองลงมาเป็นกลุ่มธุรกิจค้าขาย (Trading)

นอกจากนี้ ทาง ดร.คงกระพัน ได้มีการชี้แจงข่าว ถึงประเด็นยืนยันว่าไม่มีการควบรวมบริษัท TOP, PTTGC, IRPC อย่างที่มีข่าวออกไป แต่จะเน้นในการมองหาพาร์ทเนอร์ร่วมธุรกิจ (Group Synergy) ทาง ปตท. ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ซึ่งทางบริษัทได้มีการหารือกับพันธมิตรหลายรายในกลายกลุ่มธุรกิจซึ่งไม่สามารถเปิดเผยได้

โดยในปีที่ผ่านมา ปี 2567 ทางบริษัท ปตท. และบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิ 90,072 ล้านบาท ลดลงถึง 19.60% เทียบกับปี 2566 อย่างไรก็ตามทางบริษัท ปตท. พร้อมจ่ายเงินปันผลสำหรับปี 2567 ที่ 2.10 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราผลตอบแทนที่ร้อยละ 6.6

ทั้งนี้ ในปี 2567 ธุรกิจ Hydrocarbon and Power ซึ่งเป็นธุรกิจหลักที่สร้างผลตอบแทนให้กับ ปตท. ประกอบด้วย การลงทุนในธุรกิจสำรวจและผลิต ผ่านบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP สามารถขายก๊าซธรรมชาติ ได้เพิ่มขึ้นถึง 6% (YTD) ในโครงการ G1/61 (แหล่งเอราวัณ) ราวๆ 800 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน อีกทั้งยังมีการ เข้าซื้อหุ้น 10% ในโครงการสัมปทานกาชา (Ghasha Concession Project) หนึ่งในแหล่งก๊าซธรรมชาตินอกชายฝั่งที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 

ธุรกิจ LNG มี ปริมาณการนำเข้า LNG ทั้งสัญญาระยะยาว และสัญญาแบบ Spot รวม 9.6 ล้านตันต่อปี เพื่อรองรับความต้องการงานในประเทศ โดยจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นคาดว่าในปี 2568 การนำเข้า LNG อยู่ที่ระดับ 10 -11 ล้านตัน

ธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย (TOP, IRPC, PTTOR) สร้างมูลค่าเพิ่ม 110 ล้านเหรียญฯ (3.3 พันล้านบาท)  จากความร่วมมือภายในกลุ่ม และโรงกลั่นได้ปรับการผลิตน้ำมันดีเซลให้ได้มาตรฐานยูโร 5 การผลิตเชื้อเพลิงอากาศยานเพื่อความยั่งยืน (SAF : Sustainable Aviation Fuel) เพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหามลพิษจาก ฝุ่น PM 2.5 ตามนโยบายของภาครัฐ 

ธุรกิจไฟฟ้า มีกำลังการผลิตเพิ่มเติม (อยู่ระหว่างการก่อสร้าง) รวมทั้งหมด 15 GW โดยหลักมาจากการลงทุนพลังงานหมุนเวียนในต่างประเทศ 

สำหรับธุรกิจ Non-Hydrocarbon ได้ทบทวนกลยุทธ์ เน้นทำธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับกลุ่ม ปตท. โดย EV ธุรกิจมุ่งเน้นการขยายสถานีชาร์จไฟฟ้าร่วมกับ OR ที่มีความพร้อมของ Ecosystem สำหรับ Life Science เป็นธุรกิจที่ดี แต่ต้องขับเคลื่อนได้ด้วยธุรกิจเอง self-funding มีผู้เชี่ยวชาญ ในปีที่ผ่านมารับรู้รายได้จากการจำหน่ายเงินลงทุนในบริษัท Alvogen Malta (Out-licensing) Holding Ltd. มูลค่า 4,500 ล้านบาท ของบริษัท อินโนบิก (เอเซีย) จำกัด 

สำหรับธุรกิจกลุ่ม Logistics ได้ออกจากธุรกิจที่ไม่สอดคล้องเป้าหมายการลงทุนของ ปตท. โดยหันไปมุ่งเน้นในธุรกิจที่สามารถต่อยอดและมี Synergy ภายในกลุ่ม ปตท. ได้นั่นเอง