ASIA PLUS หุ้นไทยราคาถูก แต่เม็ดเงินลงทุนหด
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม กรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย พลัส จำกัด เปิดเผยว่า ในเช้าวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ติดลบกว่า 40 จุด เนื่องมาจากปัจจัยกดดันจากการปรับตัวลงของตลาดหุ้นในระดับภูมิภาคจากสงครามการค้าอีกทั้งยังมีปัจจัยภายในประเทศอีกด้วย
ปัจจุบันราคาตลาดหุ้นไทยราคาอยู่ในราคาถูก แต่เม็ดเงินที่เข้ามาลงทุนในตลาดมีไม่มากพอที่จะผลักดันราคาตลาดกลับไปสู่ขาขึ้น อีกทั้งยังมองว่าในช่วง 8 ปีที่ผ่านมาไม่การเปลี่ยนแปลงอะไรเลยในระบบเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม มองว่าดัชนีหุ้นไทย มีกรอบบนอยู่ที่ 1,520 จุด แนวต้านที่ 1,270 จุด อีกทั้งยังมีการแนะนำให้มองการลงทุนในหุ้นกลุ่มธนาคาร โดยแนะนำให้เลือกลงทุนหุ้นด้วยการใช้เงื่อนไขเพื่อคัดกรอง เช่น หุ้นที่มี P/BV ต่ำ มีกำไรต่อเนื่อง 10 ปี จ่ายปันผลดี เป็นอุตสาหกรรมที่อยู่ในเทรนด์การลงทุน ทั้งนี้ธนคารยังได้รับประโยชน์จากการไม่ลดดอกเบี้ย อย่างไรก็ตาม มองว่าทางธนาคารแห่งประเทศไทยจะปรับลงประมาณ 1 ครั้งในช่วงปลายปี 2568
นอกจากนี้ แนะนำ
ดร.ก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเชีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์เอเชีย พลัส จำกัด และประธานกรรมการ บริษัทที่ปรึกษา เอเชีย พลัส จำกัด กล่าวว่า
แนวโน้มการลงทุนในตลาดทั่วโลก ปีนี้จะเป็นปีที่เผชิญกับความเสี่ยงใหญ่ที่เพิ่มขึ้นมาจากเรื่องของสงครามการค้ารอบใหม่ อาจจะทำให้เกิดความเสี่ยงด้านอื่นๆ ตามมาได้ ท่ามกลางสถานการณ์โลกไม่แน่นอนในระยะข้างหน้า ล้วนสร้างแรงกดดันต่อตลาดเงินและตลาดทุนมีความผันผวนรุนแรงมาก ทำให้มองว่าปีนี้จะเป็นปีที่การลงทุนในตลาดไหนๆ ก็จะยากขึ้นไม่ว่าจะเป็นตลาดไทยตลาดต่างประเทศ
ในปี 2568 กลุ่มบริษัทเอเชีย พลัส ผู้นำกลุ่มธุรกิจการเงินครบวงจรอย่างเต็มรูปแบบ ยังคงมุ่งมั่นขับเคลื่อนองค์กรไปสู่การให้บริการด้านการจัดการด้านความมั่งคั่ง (Wealth Management) อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อตอบสนองตรงต่อความต้องการของลูกค้าเป็นสำคัญ โดยยึดหลักกลยุทธ์ที่บริษัทได้วางแผนพัฒนาและต่อยอดใน 5 ด้าน ได้แก่
1) Customer-Centric Approach เพื่อให้พัฒนากลยุทธ์ทางการตลาดได้ดียิ่งขึ้น โดยจะทำการแบ่งกลุ่มลูกค้า เพื่อใช้ในการ จัดประเภทกลุ่มลูกค้าของบริษัท และพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ให้เหมาะสมสำหรับลูกค้าในแต่ละกลุ่ม
2) Data Management Intiatives การนำข้อมูลมาเป็นแนวทางในการขับเคลื่อนการวางกลยุทธ์ทางธุรกิจ เพื่อให้สอดคล้อง กับเป้าหมายขององค์กรและยกระดับประสบการณ์ของลูกค้า
3) Revenue Diversfication การกระจายฐานรายได้ไปยังผลิตภัณฑ์การลงทุนที่สอดคล้องกับทิศทางของตลาด โดยครอบคลุมหลากหลายอุตสาหกรรม สินทรัพย์ และภูมิศาสตร์
4) Digital Transformation Powered by Al มุ่งต่อยอดการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ และยกระดับแพลตฟอร์มดิจิทัล เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานรวมทั้งบริหารจัดการและรวบรวมข้อมูลคำแนะนำการลงทุนที่เหมาะสมให้กับลูกค้า
5) Upskiling Employees การเสริมสร้างความสามารถและพัฒนาทักษะของเจ้าหน้าที่ผู้แนะนำการลงทุนให้มีความรู้ ความเข้าใจในผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอให้กับลูกค้า พร้อมทั้งนำเทคโนโลยีและข้อมูลดิจิทัลใช้ปฏิบัติงานเพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพในการให้บริการได้อย่างตรงเป้าหมายความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก
สำหรับกลยุทธ์ทั้ง 5 ด้านนี้ จะช่วยในการต่อยอดการเป็นผู้นำด้านบริการ Wealth Management
ขณะที่บริษัทฯ เองมีผลิตภัณฑ์ทางการเงินให้เลือกลงทุนหลากหลายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นประเภทหลักทรัพย์ต่างๆ ในตลาดทุนกองทุนรวม Structure Note หุ้นกู้ พันธบัตร การลงทุนนอกตลาด อาทิ Private Equity, Hedge Fund, Start Up รวมไปถึงประกันภัย ดังนั้น บริษัทฯ จึงให้ความสำคัญในการอบรมเพิ่มทักษะด้านการบริหารความมั่งคั่ง และการนำเสนอผลิตภัณฑ์การลงทุนแบบ Cross Selling ให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้แนะนำการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มีศักยภาพในการให้คำแนะนำที่ดีและแม่นยำ แก่ลูกค้าที่ต้องการสร้างผลตอบแทนเติบโตในระยะยาว ภายใต้ระดับความเสี่ยงที่เหมาะสมในแต่ละ Segment
ธุรกิจที่ปรึกษา (บจก.ที่ปรึกษา เอเชีย พลัส) เป็นอีกบทบาทสำคัญของบริษัทที่เข้ามามีส่วนร่วมผลักดันการเติบโตทางธุรกิจที่มั่นคงให้แก่กลุ่มลูกค้าธุรกิจ (Corporate) ซึ่งมีทั้งการระดุมทุนรูปแบบ Private Placement การทำ Merger & Acquisition และการการปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อให้ลูกค้าประสบความสำเร็จตามเป้าหมายธุรกิจ ที่สำคัญ ดร.ก้องเกียรติ กล่าวว่า ในปี 2568 ตั้งเป้ารายได้ธุรกิจกลุ่ม Wealth เติบโต 11% และสินทรัพย์ลูกค้าโต 16% เดิมปี 2567 มูลค่า 9.9 หมื่นล้านบาท ขึ้นมาแตะที่ 1.15 แสนล้านบาท ที่สำคัญคือการแบ่งกลุ่มลูกค้าให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
"แม้ว่าในปี 2568 เศรษฐกิจโลกยังเผชิญกับความไม่แน่นอนสูง รวมถึงเศรษฐกิจไทย แต่การดำเนินงานภายใต้แนวคิดการกระจายรายได้บริหารความเสี่ยงมาอย่างต่อเนื่อง และการวางกลยุทธ์ขับเคลื่อนองค์กรที่ชัดเจน การให้ความรู้แก่พนักงานเพื่อเพิ่มทักษะการนำเสนอผลิตภัณฑ์การลงทุนแบบ Cross Seling จะเป็นแนวทางให้ทุกหน่วยงานของบริษัทในกลุ่ม เอเซียพลัส ดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพไปในทิศทางเดียวกัน Transform To Wealth (หรือจะใช้ว่า "ตอกย้ำการเป็นผู้นำ ด้าน Wealth Management) เพื่อสนับสนุนให้บริษัทสามารถบรรลุเป้าหมายการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว และสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าเพิ่มขึ้นอีกด้วย" ดร.ก้องเกียรติ กล่าวในตอนท้าย