นายไพโรจน์ เหลืองเถลิงพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ไอร่า จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่าย กล่าวว่า หุ้นไอพีโอของบริษัท ซิลิคอน คราฟท์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SICT ได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก เนื่องจากมั่นใจในศักยภาพการเติบโตในอนาคตของบริษัท และการเป็นเจ้าของเทคโนโลยีที่จะช่วยผลักดันเศรษฐกิจไทยสู่ New S-Curve ทั้งนี้ SICT ได้นำหุ้นสามัญจำหน่ายต่อประชาชนทั่วไป จำนวน100,000,0000 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 25 ของหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้ว ระหว่างวันที่ 21-23 กรกฎาคม 2563 ผ่านบริษัทหลักทรัพย์ไอร่าจำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ที่ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย อีก 4 แห่ง ในราคา 1.38 บาทต่อหุ้น
SICT สามารถระดมเงินได้ทั้งสิ้น 138 ล้านบาท จากการเสนอขายหุ้น IPO ในครั้งนี้ เต็มจำนวนที่เสนอขายก่อนครบกำหนดปิดการจอง และมีผู้ที่สนใจสอบถามเข้ามาอย่างต่อเนื่องเป็นจำนวนมาก
“SICT เป็นหุ้น Deep Tech ที่น่าสนใจอย่างยิ่ง เพราะเป็นบริษัทไทยในธุรกิจไมโครชิพที่ยืนหยัดแข่งขันในเวทีโลก ปัจจุบันเป็นผู้นำในตลาดไมโครชิพสำหรับ RFID Animal Identification ในอันดับต้นๆ ของโลก” นายไพโรจน์ กล่าว
ด้านนางสาวอรุณี พูนทวี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท ซิลิคอน คราฟท์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน)กล่าวว่า SICT มีแผนที่จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุน IPO ไปใช้ในการต่อยอดการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีหลัก โดยลงทุนในเครื่องมืออุปกรณ์ ลงทุนหรือร่วมลงทุนในบริษัทที่มีนวัตกรรมส่งเสริมธุรกิจของบริษัท และใช้เป็นทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ
สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ระหว่างปี 2560-2562 มีรายได้รวม เท่ากับ 310.71 ล้านบาท 377.04 ล้านบาท และ 308.80 ล้านบาท ตามลำดับ และอัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยสูงกว่า 40% โดยไตรมาสแรกของปี 2563 มีรายได้ที่ 95.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 72.85 ล้านบาท ของงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า หรือคิดเป็นร้อยละ 30.7 และกำไรสุทธิ 15.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 552.7
นายมานพ ธรรมสิริอนันต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทซิลิคอน คราฟท์ เทคโนโลยี จำกัด(มหาชน)กล่าวว่า SICT ตั้งเป้าหมายที่จะเติบโตธุรกิจไมโครชิพ 2 เท่า ในอีก 4 ปีข้างหน้า หรือคิดเป็นอัตราเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 20 ต่อปี จาก 4 กลุ่มธุรกิจ คือ ไมโครชิพสำหรับระบบกุญแจสำรองอิเล็กทรอนิกส์ยานยนต์ ไมโครชิพสำหรับระบบลงทะเบียนสัตว์ ไมโครชิพสำหรับระบบเข้า-ออกสถานที่ และระบบการอ่านข้อมูล และไมโครชิพอื่นๆ
บริษัทฯ มีโมเดลธุรกิจที่เป็นผู้ออกแบบไมโครชิพและเป็นเจ้าของเทคโนโลยี จากนั้นจะว่าจ้างผู้ผลิตรายอื่นให้ผลิตไมโครชิพ ซึ่งข้อดีของโมเดลแบบนี้ คือ บริษัทจะมีความคล่องตัวในการดำเนินงาน และไม่มีค่าใช้จ่ายในการลงทุนและบริหารโรงงาน ความเสี่ยงจึงต่ำกว่า โดย SICT จะเน้นถือครองทรัพย์สินทางปัญญา
“เราต้องขอขอบคุณนักลงทุนทุกท่านที่ลงทุนในหุ้น SICT เงินระดมทุนที่ได้จาก IPO จะถูกนำมาขยายธุรกิจไมโครชิพให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ SICT มีความมุ่งมั่นที่จะก้าวเป็นผู้นำอันดับหนึ่งของโลกในตลาด RFID สำหรับปศุสัตว์ในอีก 4 ปีข้างหน้า และเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต” นายมานพ กล่าวสรุป