คุณกวี ชูกิจเกษม ประธานเจ้าหน้าที่ สายการบริหารพอร์ตการลงทุน บล. พาย ให้มุมมองต่อตลาดหุ้นไทยในปี 2568 ในรายการ Business Line&Life Channel ในช่วงหุ้นทิ่มตาว่า มีความไม่แน่นอนสูง โดยเฉพาะจากปัจจัยภายนอกอย่างนโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์ที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทย

ความเสี่ยงที่ต้องจับตา:

• ความผันผวนของเศรษฐกิจโลก: นโยบายของทรัมป์อาจสร้างความปั่นป่วนให้กับตลาดโลก และส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน
• ความสัมพันธ์ไทย-จีน: เศรษฐกิจไทยมีความผูกพันกับจีนอย่างมาก ทั้งในแง่การค้าและการท่องเที่ยว การประกาศนโยบายของทรัมป์ที่มีการกีดกันสินค้าจีน จะยิ่งทำให้เศรษฐกิจไทยอ่อนแอลง เพราะโดยพื้นฐานธุรกิจของจีนที่เข้ามาก็จะมาทำลายธุรกิจ โดยเฉพาะ SME ในบ้านเรา จึงเกิดความกังวลเรื่องการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศ
• การเมืองภายในประเทศ: ความขัดแย้งทางการเมืองที่อาจรุนแรงขึ้นในปีนี้ อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติ

หุ้นเด่นแห่งปี 2568

ท่ามกลางความไม่แน่นอนดังกล่าว ควรต้องหาธุรกิจที่ไม่ได้อิงจากสถานการณ์โลก และไม่กังวลกับปัจจัยทางด้านการเมืองมากจนเกินไป คุณกวีจึงได้แนะนำหุ้น BDMS เป็นหุ้นเด่นแห่งปี 2568 โดยให้เหตุผลว่า ธุรกิจโรงพยาบาลเป็นธุรกิจที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิต และได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกน้อยกว่าธุรกิจอื่นๆ รวมถึงราคาหุ้นที่ลงมาตํ่า ทำให้หุ้น BDMS ถือเป็นหุ้น Defensive ที่น่าลงทุนในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง (ราคาปิด ณ วันที่ 8 มกราคม 2568 อยู่ที่ 24.00 บาท/หุ้น)

ราคาเป้าหมายจากสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน (IAA Consensus)

นอกจากนี้คุณกวียังให้มุมมองที่น่าสนใจเกี่ยวกับหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว ว่าเป็นกลุ่มที่ไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากทรัมป์  และคาดว่ากำไรไตรมาส 4 และ 1 จะดี โดยเฉพาะ AOT CPN  และ CENTEL เพราะ แม้จะมีนโยบายอะไรออกมาผู้คนก็ยังเดินทางและท่องเที่ยว รวมถึงอานิสงค์จากฤดูการท่องเที่ยวที่จะส่งผลดีต่องบไตรมาส 4 และ 1 ของหุ้นในกลุ่มนี้ และแม้โครงการ "เราเที่ยวด้วยกัน" จะสิ้นสุดลง แต่ธุรกิจในกลุ่มท่องเที่ยวยังมีปัจจัยบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นๆ เช่น Easy E-receive

ข้อมูลจาก : https://www.youtube.com/watch?v=roHdHiLq9n4&t=641s