"TOP" ยันฐานะแข็งแกร่ง ! ไม่มีเพิ่มทุน จ่ายปันผลตามปกติ โครงการ CFP ก้าวหน้าตามแผน

TOP เคลียร์เงินลงทุนเพิ่มในโครงการ CFP มาจากเงินสด รวมทั้งการออกหุ้นกู้และเงินกู้ยืม บริษัทฯ เชื่อมั่น ว่ามีแหล่งเงินเพียงพอเดินหน้าโครงการฯ ยันไม่ต้องเพิ่มทุน พร้อมจ่ายปั้นผลตามผลประกอบการปกติ "บัณฑิต” ย้ำ กระบวนการทำงานยึดหลักสากล โปร่งใสและ เป็นธรรม

นายบัณฑิต ธรรมประจำจิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP เผยว่า สำหรับงบประมาณลงทุนส่วนเพิ่มของโครงการพลังงานสะอาด (Clean Fuel Project หรือ CEP) ประมาณ 63,028 ล้านบาท ที่บริษัทฯจะใช้ในการดำเนินการก่อสร้าง บริษัทฯมีแผนจัดหาเงินทุนประกอบด้วย

1) เงินสดคงเหลือและกระแสเงินสดจากการดำเนินงานของบริษัทฯในปี 2525-2027 การออกหุ้น หรือ การกู้ยืม

2) จากธนาคารพาณิชย์ รวมทั้งพิจารณาหาเครื่องมือทางการเงินใหม่ๆ เช่น การออก ตราสารถึงหนี้ถึงทุน รวมถึง การบริหารจัดการทรัพย์สินให้เกิดประโยชน์สูงสุด

โดยบริษัทขอยืนยันว่าไม่มีแผนการเพิ่มทุน จากการเพิ่มงบประมาณในการก่อสร้างโครงการในครั้งนี้แต่อย่างใด

บริษัท ฯ มั่นใจว่างบประมาณที่ขอเพิ่มเต็มเพียงพอต่อการดำเนินโครงการให้แล้วเสร็จ โดยได้ศึกษาและประเมิน ร่วม กับที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญด้วยความระมัดระวังว่าสามารถดำเนินโครงการนี้ได้ตามงบประมาณที่วางไว้ บริษัทฯจะ บริหารจัดการงบประมาณให้ดีที่สุด อีกทั้งจากการศึกษาและประเมินของที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ ถึงแม้ว่าอัตราผล ตอบแทนการลงทุนระดับโครงการ ในปัจจุบันจะลดลงจากการประเมินในช่วงการตัดสินใจลงทุนชั้น สุดท้าย แต่ยังอยู่ใน ระดับ ดับที่สูงกว่าต้นทุนของกิจการ เมื่อโครงการเสร็จจะทำให้ไทยออยล์มีผลประกอบการทาง การเงิน ทั้งในส่วนรายได้ ผลกำไรและฐานะทางการเงินดีขึ้น อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างศักยภาพในการแข่งขันซึ่งจะ ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อบริษัทฯ และผู้ถือหุ้นในระยะยาว”

นายบัณฑิต กล่าวต่อไปอีกว่า การก่อสร้างโครงการที่ต้องเลื่อนออกไป กว่า 3 ปี เป็นผลมาจากการดำเนินงาน ตอนที่เหลือเป็นส่วนงานที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเชื่อมต่อระบบของโครงการฯ ที่มีความยุ่งยากและซับซ้อน ดังนั้นก่อนเปิดดำเนินการ จึงต้องทำการทดสอบระบบจนกว่าจะมั่นใจว่าสามารถเปิดดำเนินการได้ต้ามมาตรฐานที่ กำหนดไว้อย่างสมบูรณ์

นอกจากนี้ การก่อสร้างหน่วยกลั่นใหม่ ที่ทำหน้าที่เพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ โดยเปลี่ยนน้ำมันเตาและยางมะตอยให้เป็น น้ำมันอากาศยานและเชลไม่เป็นไปตามแผนที่กำหนด เนื่องจากปัญหาการหยุดงานของกลุ่มบริษัทรับเหมาช่วงอัน เนื่องมาจากไม่ได้รับค่าจ้างค้างจ่ายจากผู้รับเหมาหลัก UV ทำให้การดำเนินโครงการต้องสะดุดจนต้องปรับ ระยะ เวลาดำเนินโครงการออกไป

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ บริษัทฯ ได้พยายามหาทางแก้ไขเพื่อให้การดำเนินงานกลับเข้าสู่ภาวะ ปกติโดยเร็วที่สุดเพื่อให้โครงการสามารถเดินหน้าต่อไปให้แล้วเสร็จ คาดว่าบริษัทฯ จะสามารถสรุปเวลาให้แน่ชัดขึ้น ในปี 2568

นายบัณฑิต กล่าวอีกว่า การเพิ่มเงินงบประมาณก่อสร้างโครงการครั้งนี้ จะไม่ส่งผลกระทบต่อแผนการจ่ายเงินปั้น ผล ของบริษัทฯ อย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากแหล่งเงินทุนเพิ่มเต็มส่วนใหญ่มาจาก เงินสดคงเหลือ กระแสเงินสดจาก การดำ เนินงาน และการกู้ยิ้ม ดังนั้นบริษัทฯยังคงพิจารณาจ่ายเงินปั้นผล ตามนโยบายจ่ายปั้นผลไม่น้อยกว่าร้อยละ 25 ของกำ ไรสุทธิ์ของงบการเงิน ภายหลังจากการหักทุนสำรองต่าง ๆ ทุกประเภทตามที่กำหนดไว้ในข้อบังคับของ บริษัทฯ และตามกฎหมายได้

นายบัณฑิต กล่าวอีกว่า โครงการนี้เป็นโครงการขนาดใหญ่มีมูลค่าสูง บริษัทฯ ต้องพิจารณาด้วยความรอบคอบ ใน การตรวจรับงานและการจ่ายเงินโครงการฯ ต้องเป็นไปตามหลักสากลและเงื่อนไขในสัญญา มีการตรวจสอบความ ถูก ต้องทั้งในส่วนปริมาณงานและคุณภาพงานจากผู้ที่เกี่ยวข้องทุกส่วน รวมทั้งจ้างที่ปรึกษาบริหารโครงการที่มี ความ เชี่ยวชาญในงานก่อสร้างเป็นผู้ประเมินและตรวจรับงาน และจัดตั้งคณะกรรมการกำกับดูแลโครงการฯ ให้การ ดำเนิน การเป็นไปตามหลักสากลในการบริหารโครงการขนาดใหญ่

ขอยืนยันว่าไทยออยล์ยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาลสำหรับการดำเนินธุรกิจกับผู้มีส่วนได้เสียอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมี หน่วยตรวจสอบภายในเพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการทำงานต่างๆ เป็นไปอย่างโปร่งใสและเป็นธรรม”