นายดองเย จาง Head of Investment Specialists เผยว่า GDP ของสหรัฐในปี 68 เพิ่มสูงขึ้น และส่งผลมาถึงทิศทางการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ชะลอลงกว่าที่เคยคาดไว้ หลังจาก “โดนัลด์ ทรัมป์“ ชนะผลการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คาดนโยบายสหรัฐฯ จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอเมริกา การประชุมเฟดในเดือน ธ.ค.67 ถึงสิ้นปี 68 จะลดอัตราดอกเบี้ยรวมกัน 1.25% จากเดิมที่คาดว่าจะปรับลดดอกเบี้ยรวมกันเกือบ 2% ภายใต้คาดการณ์ GDP สหรัฐปีนี้จะเติบโต 2.7% และปี 68 จะเติบโตได้ราว 2%
ส่วนตลาดหุ้นไทยคาดว่า GDP ปี 68 โตแตะ 2% และรับผลบวกจากนักลงทุนต่างชาติย้ายถิ่นฐานการผลิตเข้ามาในประเทศไทย ประกอบกับทิศทางค่าเงินบาทที่ยังมีทิศทางอ่อนค่า ช่วยหนุนภาคการส่งออก ซึ่งถือเป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลักให้กับเศรษฐกิจไทย พร้อมประเมินอัตราการเติบโตของกำไรบริษัทจดทะเบียน (EPS Growth) ในปี 68 โต 8-10% (YoY) P/E ราว 15 เท่า และประเมิน SET ปี 68 อยู่ในกรอบ 1,500-1,600 จุด
ทั้งนี้ ภาพรวมการลงทุนตลาดโลก ยังมีมุมมองบวกต่อตลาดหุ้นพัฒนาแล้วอย่างประเทศสหรัฐฯ เนื่องจากภาพรวมหุ้นกลุ่มเทคโนโลยียังมีโอกาสเติบโต นอกจากนี้ยังมีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดเกิดใหม่ เช่น ตลาดหุ้นจีน และอินเดีย ส่วนอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐคาดว่ามีโอกาสปรับตัวแข็งค่ามากขึ้นหลังจากทิศทางอัตราดอกเบี้ยอาจปรับลดลงไม่มากแล้ว